วาสลีนทาหน้าได้จริงหรือ? ส่องประโยชน์และความเสี่ยงที่หลายคนยังไม่รู้

วาสลีนทาหน้าได้จริงหรือ? กูรูผิวหนังเผยข้อดี-ข้อเสียที่คนผิวแห้งต้องรู้
หลายคนเลือกใช้วาสลีนบนใบหน้าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและลดปัญหาผิวแห้งหรือแตก โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว แต่คำถามคือ การทาวาสลีนบนใบหน้าจริง ๆ แล้วปลอดภัยและได้ผลดีต่อผิวหรือไม่?
วาสลีน แบรนด์ที่อยู่ภายใต้บริษัท Unilever มีประวัติการใช้งานยาวนานกว่า 140 ปี ใช้เป็นขี้ผึ้งสำหรับรักษาแผลไฟไหม้ การสมานแผล และปัญหาผิวแห้งแตก ปัจจุบันหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายยา ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสุขภาพ ในราคาที่เข้าถึงง่าย โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยสำหรับการใช้กับผิวหนัง แต่เมื่อพูดถึงการใช้บนใบหน้า อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน
การทาวาสลีนบนใบหน้าปลอดภัยหรือไม่?
โดยหลักแล้ว วาสลีนสามารถใช้บนใบหน้าได้อย่างปลอดภัย แต่ควรเข้าใจว่า หน้าที่หลักของวาสลีนคือ “กักเก็บความชุ่มชื้นที่มีอยู่แล้ว” มากกว่าที่จะเพิ่มความชุ่มชื้นใหม่ให้แก่ผิว มันจะสร้างเกราะป้องกันบาง ๆ บนผิว เพื่อป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น
งานวิจัยพบว่า เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำมันมะกอกและลาโนลิน วาสลีนที่มีส่วนประกอบหลักเป็นปิโตรเลียมเจลลี่ สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีกว่าและน่าเชื่อถือกว่า อย่างไรก็ตาม นักวิจัยยังคงพัฒนาสูตรและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อให้ได้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
แพทย์ผิวหนังแนะนำว่า หากต้องการใช้บนใบหน้า ควรทาหลังล้างหน้า และเช็ดส่วนเกินออกเล็กน้อย เพื่อช่วยเก็บความชุ่มชื้นไว้ตลอดคืน
ประโยชน์ของการใช้วาสลีนบนใบหน้า
-
ลบเครื่องสำอางรอบดวงตา: ด้วยส่วนผสมหลักคือปิโตรเลียมเจลลี่ วาสลีนสามารถละลายเครื่องสำอางได้อย่างอ่อนโยนและปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อลบเครื่องสำอางรอบดวงตา
-
กักเก็บความชุ่มชื้น: ช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้นโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง การทาบาง ๆ ก่อนนอนช่วยฟื้นฟูความนุ่มและความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิว
-
สมานแผลเล็ก ๆ: การทาบนรอยถลอกเล็กน้อยสามารถสร้างเกราะป้องกันเชื้อแบคทีเรีย และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
-
ปกป้องริมฝีปากแห้งแตก: วาสลีนช่วยป้องกันริมฝีปากจากความแห้งและแตก โดยเฉพาะในอากาศหนาวหรือแห้งจัด อีกทั้งยังมักไม่มีน้ำหอม จึงลดความเสี่ยงการแพ้
-
บรรเทาอาการคัน: เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการคันจากผื่นผิวหนัง เช่น กลากหรือผิวแห้งลอก
-
จัดแต่งคิ้ว: ใช้เพียงเล็กน้อยก็สามารถช่วยจัดรูปคิ้วให้ดูเรียงตัวและหนาขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
-
ช่วยดูแลผิวที่มีปัญหาเรื้อรัง: ผู้ที่เป็นโรซาเซียหรือสะเก็ดเงินสามารถใช้วาสลีนทาบริเวณผิวที่อักเสบหรือแห้งแตกได้ โดยไม่ก่อการระคายเคือง แต่ควรทาบาง ๆ และไม่จำเป็นต้องใช้ทุกวัน
-
อาจช่วยชะลอวัย: การใช้วาสลีนอาจช่วยชะลอสัญญาณความชราของผิว ด้วยการกระตุ้นการทำงานของเปปไทด์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่พบบ่อยในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อความกระชับ
ความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการใช้วาสลีนบนใบหน้า
แม้ว่าจะปลอดภัยโดยทั่วไป แต่ยังมีความเสี่ยงบางประการ ได้แก่:
-
การเกิดสิว: คุณสมบัติการกักเก็บความชุ่มชื้นของวาสลีน อาจทำให้น้ำมันและสิ่งสกปรกติดค้างในผิว ส่งผลให้เกิดสิว โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวมันหรือผิวผสม การทาวาสลีนอาจรู้สึกเหนียวหนัก ดังนั้นควรล้างหน้าให้สะอาดก่อนใช้
-
การระคายเคืองผิว: แม้จะพบไม่บ่อย แต่บางคนอาจเกิดอาการแพ้ เช่น แดง บวม คัน หรืออักเสบ หากมีอาการเหล่านี้ควรหยุดใช้ทันที
เคล็ดลับการใช้วาสลีนบนใบหน้าอย่างปลอดภัย
-
หลีกเลี่ยงการใช้หลังโดนแดดจัด: แม้วาสลีนจะใช้รักษาแผลไหม้เล็กน้อยได้ แต่ไม่ควรใช้กับผิวที่ไหม้จากแดดจัด เนื่องจากจะกักเก็บความร้อนและอาจทำให้อาการแย่ลง
-
ทาหลังล้างหน้า: เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ควรทาวาสลีนขณะที่ผิวยังชื้นเล็กน้อยหลังล้างหน้า ใช้นิ้วมือสะอาดแต้มบาง ๆ บริเวณที่แห้ง หลีกเลี่ยงการทาบริเวณใกล้เยื่อบุตา
สรุป
โดยทั่วไป การใช้วาสลีนบนใบหน้าถือว่าปลอดภัย และให้ประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้น การช่วยสมานแผลเล็กน้อย หรือลบเครื่องสำอางรอบดวงตา
แหล่งข้อมูลอ้างอิง: healthline.com, medicalnewstoday.com
ดาวน์โหลดสนุกแอปฟรี



