Women to Women : "โบ อินทิรา" ผอ.การตลาด "วาโก้" เมื่อชุดชั้นในคืออาณาจักรอารมณ์ ความรู้สึกของผู้หญิง

Women to Women : "โบ อินทิรา" ผอ.การตลาด "วาโก้" เมื่อชุดชั้นในคืออาณาจักรอารมณ์ ความรู้สึกของผู้หญิง

Women to Women : "โบ อินทิรา" ผอ.การตลาด "วาโก้" เมื่อชุดชั้นในคืออาณาจักรอารมณ์ ความรู้สึกของผู้หญิง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ภายใต้เสื้อผ้าที่สวมใส่ในแต่ละวัน มีอาณาจักรที่ซ่อนเร้น ทว่าทรงพลัง อาณาจักรแห่งผืนผ้าและเส้นใยที่แนบชิดกับผิวพรรณของผู้หญิงทุกคน นั่นคือ "ชุดชั้นใน" หลายคนมองชุดชั้นในเป็นเพียงเครื่องนุ่งห่มชิ้นพื้นฐาน มีหน้าที่เพียงประคองและปกป้องสรีระ แต่แท้จริงแล้ว บทบาทของชุดชั้นในนั้นลึกซึ้งและละเอียดอ่อนกว่าที่เราเคยคิด

ลองจินตนาการถึงสัมผัสแรกในยามเช้าของบราตัวโปรดที่โอบกระชับอย่างอ่อนโยน มอบความมั่นใจและพร้อมสำหรับการเริ่มต้นวันใหม่ หรือจะเป็นความรู้สึกสบายและผ่อนคลายจากกางเกงในเนื้อนุ่มที่ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างอิสระ ชุดชั้นในไม่ได้เป็นเพียงแค่ "ของใช้" แต่เป็นเพื่อนที่อยู่เคียงข้างในทุกช่วงเวลาของชีวิต เป็นความลับที่เก็บซ่อนความรู้สึก เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้หญิงที่หลากหลายและงดงาม Women to Women มีโอกาสได้พูดคุยกับ "โบ-อินทิรา นาคสกุล" ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับความเป็นผู้หญิงที่สัมผัสได้ ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่กับโปรดักส์ชุดชั้นใน กางเกงชั้นในที่มักจะทำให้เรานึกถึงสตรีเพศเป็นอันดับแรก

มิติใดในความเป็นผู้หญิง ที่คุณโบมองเห็นหลังจากเข้ามาทำงานทำงานที่วาโก้

เราเห็นความแตกต่าง ความขึ้นอยู่กับอารมณ์ของผู้หญิง คือในตัวคนๆ หนึ่งมันมีอารมณ์หลายๆ อารมณ์ มันเหมือนกับว่าในแต่ละวันเราจะเลือกชุดชั้นในเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันของเราแต่ละวันอย่างไร เช่นวันนี้เป็นวันที่เราประชุมทั้งวัน เราก็อยากจะใส่อะไรที่สบายๆ ใส่แล้วไม่อึดอัด แต่ว่าในบางวันที่เราต้องไปงาน เราอาจจะอยากใส่ชุดชั้นในที่เก็บกระชับให้ทรงสวย ใส่กับชุดราตรีสวย หรือใส่กับเชฟแวร์ที่ทำให้หุ่นเราโอเคขึ้น หรือวันไหนที่เราจะไปออกกำลังกายอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันเป็นอารมณ์ของเราในแต่ละวัน

มันไม่ได้หมายความว่าชุดชั้นใน 1 ตัวจะตอบโจทย์ทุกคน ทุกวัน มันเหมือนโปรดักส์แต่ละเรื่องมันตอบโจทย์แต่ละโมเมนต์

และเราก็เห็นความชอบของคนที่มันต่างกันมากๆ บางครั้งจากการเซอร์เวย์ การใช้ตัวเลขการวัดผลต่างๆ มันไม่สามารถตอบโจทย์ได้ ของ 1 ชิ้นที่มันออกมาตอนนั้นมันจะเป็นสิ่งที่แมส หรือตลาดภาพรวมต้องการ มันเหมือนการทดลอง แล้วปรับประยุกต์ สินค้าที่เราคาดหวัง หรือนวัตกรรมต่างๆ ก็ดีคนจะชอบมัน เพราะเวลานั้นอาจไม่ใช่เวลาที่คนจะใช้มัน เช่นช่วงก่อนโควิดเรามีชุดชั้นในกลุ่มหนึ่งออกมาการใช้งานดีมากเลย สวย ปรากฎว่าพอโควิดมาคนไม่อยากใส่ชุดชั้นในอยู่บ้าน แทบจะโนบรา กลายเป็นบราสวมหัว บราไม่มีโครงตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขามากกว่า

ดังนั้นเราได้เรียนรู้ว่าชุดชั้นในไม่ได้ตอบโจทย์โมเมนต์เดียว มันอยู่ที่ภาวะในตอนนั้น อารมณ์ในตอนนั้น

มีลำดับขั้นการเปลี่ยนแปลงของผู้หญิงไหม ว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง

ผู้หญิงเปลี่ยนแปลงไปในเชิงที่ว่าผู้หญิงมีความหลากหลายในตัวเองมากขึ้น ไม่ใช่จะหวานก็หวานอย่างเดียว วันนึงอาจลุกขึ้นมาแอบเปรี้ยว เซ็กซี่ในบางครั้ง ในขณะที่บางทีก็แข็งแรง ผสมอยู่ในคนๆ เดียว เป็นอารมณ์ของผู้หญิงที่มันเปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลา แล้วเราก็รู้สึกว่าผู้หญิงมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น สนุกกับการแต่งตัวมากขึ้น เมื่อก่อนเราจะเห็นคนตัวใหญ่จะแต่งตัวเสื้อตัวใหญ่ แต่ในปัจจุบันวัยรุ่นตัวเองเป็นยังไงก็มั่นใจในความเป็นตัวเอง

เมื่อก่อนนี้วาโก้มี Philosophy in side สวยที่สุดจากข้างใน แต่ข้างในหมายถึง mindset การรักตัวเอง มันเหมือนเป็น beauty positive ว่าถ้าเรารักตัวเอง เราก็จะฉายความมั่นใจของตัวเองออกมาเป็นความสวยงามจากภายใน หมายถึงตัวจิตใจ เหมือนคนเรามันต้องสวยจากภายในเช่นคนสวยต้องผิวดีจากการกิน

สำหรับคุณเมื่อเข้ามาทำโปรดักส์เกี่ยวกับชุดชั้นใน กางเกงใน คุณรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนในเวอร์ชั่นใหม่อย่างไรบ้าง

น่าจะเป็นการที่เราเรียนรู้ที่จะฟังคนอื่นมากขึ้น เรารู้ว่าตัวเราเองไม่ได้เป็นคนที่สามารถบอกได้ว่าลูกค้าจะชอบอะไร มันต้องฟังเสียงจากคนที่เขาคิดต่าง หรือชอบสไตล์ที่ต่างไปจากเรา เมื่อเราฟังแล้วเราต้องเชื่อมั่นว่ากลุ่มนั้นเขาต้องการอะไร อย่างบางทีเราเห็นว่ามันไม่เวิร์คเราต้องให้เขาลอง มันต้องอาศัยประสบการณ์ ข้อมูลเป็นเพียงแค่ส่วนประกอบให้ความคิดเรามันมั่นใจขึ้น แต่สุดท้ายการทำงานก็ต้องมีความมั่นใจบางอย่างที่จะกล้าลอง

มีอะไรเป็นความเชื่อมโยงที่มองเห็นระหว่างชุดชั้นใน กางเกงชั้นในกับผู้หญิง

หลายคนมีความย้อนแย้งจากบุคลิภาพที่เห็น คนที่ดูหวานแต่ข้างในชอบใส่อะไรที่ดูสปอร์ต เราไม่สามารถมองคนจากภายนอกได้จริงๆ เราสามารถเลือกได้จากการแต่งตัว เช่น ถ้าเขาชอบใส่โอเวอร์ไซส์ข้างในมันอาจจะเป็นอะไรก็ได้ แต่ถ้าชอบใส่รัดรูปต้องเป็นบาร์ที่เนียนเรียบมันดูได้ แต่เราจะไม่รู้ว่าข้างในของเขามีรสนิยมอย่างไร เพราะรสนิยมจากการใส่ชุดชั้นในกับการแต่งตัวข้างนอกไม่ค่อยไปด้วยกัน


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล