7 วิธีก้าวข้ามความรู้สึกผิดหวัง เพื่อเริ่มต้นรักใหม่อย่างสดใส

7 วิธีก้าวข้ามความรู้สึกผิดหวัง เพื่อเริ่มต้นรักใหม่อย่างสดใส

7 วิธีก้าวข้ามความรู้สึกผิดหวัง เพื่อเริ่มต้นรักใหม่อย่างสดใส
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อกหักเป็นความเจ็บปวดทางอารมณ์ที่รุนแรง อันเป็นผลมาจากความผิดหวัง ในความสัมพันธ์ของคนสองคน ภาวะนี้ไม่เพียงส่งผลต่อสุขภาพจิตเท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อร่างกายอีกด้วย หลาย ๆ คนอาจมีอาการเจ็บหน้าอกกะทันหัน หรือหายใจไม่ออก แม้ว่าสาเหตุที่แท้จริงของโรคนี้ยังไม่ชัดเจน แต่เชื่อกันอย่างกว้างขวางว่าเกิดจากฮอร์โมนชนิดหนึ่งในร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน ซึ่งมักเป็นผลมาจากความเครียดอย่างรุนแรง หรือความโศกเศร้าอย่างสุดซึ้ง ทำให้มูฟออนได้ยาก ดังนั้นจึงขอแนะนำ 7 วิธีก้าวข้ามความรุ้สึกผิดหวังจากรักที่ติดอยู่ในใจ เพื่อการเริ่มต้นใหม่ที่สดใสกว่าเดิม โดยสาวๆ สามารถทำตามได้ดังนี้ค่ะ

1.เศร้าให้สุดแล้วหยุดให้เป็น

แนะนำว่าอย่าให้ใครเข้ามาทันที คำแนะนำจากนักจิตวิทยา เพราะหลังจากการเลิกรา คุณจำเป็นต้องให้พื้นที่และเวลากับตัวเองบ้าง โอบกอดตัวเองเสมอ แม้คุณอาจไม่ได้เก่งที่สุด และรู้สึกเศร้าหรืออ่อนแอ จนต้องร้องไห้ แต่ก็ใช่ว่าคุณจะกลับยิ้มและเข้มแข็งไม่ได้อีก ดังนั้นให้คุณตั้งเป้าหมายร้องไห้ เสียใจ และเศร้าให้สุด เพียง 1 สัปดาห์ หรือ 2-3 วัน จากนั้นให้เปลี่ยนเป็นคนใหม่ทันที

2.จงจำไว้ว่ากลับมาได้แน่นอน

เมื่อเกิดอาการสูญเสียทุกคนย่อมมีความรู้สึกเสียใจหนักเป็นธรรมดา เพราะเป็นรูปแบบหรือแพทเทิร์น การเปลี่ยนแปลงอารมณ์ของมนุษย์ ซึ่งมีแบบจำลองจากนักวิจัยอย่างชัดเจน อารมณ์เริ่มต้นคือการไม่ยอมรับความจริง หรือรับไม่ได้ จากนั้นจะกลายเป็นความรู้สึกโกรธ และอาจมาสู่การต่อรอง เพื่อหวังจะกลับไปสู่จุดเดิม แต่ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะกลายเป็นความสิ้นหวัง และในท้ายที่สุดแล้ว ทุกอารมณ์ที่กล่าวมาข้างต้น จะกลายมาเป็นการยอมรับความจริง ดังนั้นคุณจึงควรจำไว้ไม่ว่าเรื่องจะเกิดขึ้นอย่างไร คุณอกหักมากแค่ไหน ท้ายที่สุดแล้ว อารมณ์ของมนุษย์จะกลับเข้าสู่จุดเดิมได้อย่างแน่นอน

3.หันมาดูแลตัวเองให้มากขึ้น

ช่วงพักฟื้น สิ่งสำคัญคือต้องให้ความสำคัญกับการดูแลตนเองเหนือสิ่งอื่นใด โดยดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ เนื่องจากคุณจะไม่สามารถจัดการกับความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากร่างกายของคุณยังคงรู้สึกไม่สบาย หรือจิตใจของคุณกังวลมากเกินไป ประโยชน์ของการดูแลตัวเองในช่วงเวลานี้ จะเห็นได้ชัดเมื่อทั้งร่างกายและจิตใจของคุณรู้สึกสบาย   แข็งแรง และฟื้นตัวได้เร็วมาก

4.หากิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเอง

เมื่อคุณรู้สึกเศร้าและผิดหวัง เป็นเรื่องปกติที่จิตใจจะจมอยู่กับอดีตและคนที่คุณรัก จึงขัดขวางความสามารถในการก้าวต่อไป ดังนั้นวิธีหนึ่งที่จะเดินหน้าได้ดี คือ การหากิจกรรมใหม่ ๆ ที่คุณสนใจ หรือแม้แต่วางแผนตารางเวลา ในการออกไปสำรวจ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเปลี่ยนบรรยากาศ และอารมณ์ของคุณ รวมถึงเพิ่มความตื่นเต้นและท้าทาย ด้วยสิ่งใหม่ ๆ จะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากความเจ็บปวดและความเศร้า ที่คุณกำลังประสบอยู่

5.ไม่ส่อง ไม่รับรู้ให้ได้อย่างน้อย 60 วัน

จิตใจที่อยู่ในสภาวะฟื้นตัว สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องหลีกเลี่ยง คือ การพบปะกับแฟนเก่าของคุณ หรือการไม่เข้าไปส่องใด ๆ ในโซเชียลของแฟนคุณ เป็นระยะเวลา 60-90 วัน จะช่วยให้คุณมุ่งความสนใจไปที่ตัวเอง และเข้าใจความต้องการของตัวเองอย่างแท้จริง เมื่อปราศจากสิ่งรบกวนภายนอก ย่องทำให้เกิดความสงบและการทำใจยอมรับได้เร็ว

6.เห็นคุณค่าในตัวเองมาก

สุขภาพจิตที่ดี เริ่มต้นที่ตัวคุณเอง ขอแนะนำให้กำลังใจและชื่นชมตัวเอง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เนื่องจากในช่วงเวลาเหล่านี้ คุณอาจมีแนวโน้มที่จะมุ่งความสนใจไปที่ผู้อื่นมากกว่าตัวคุณเอง รวมถึงคำพูดของผู้อื่น ประสบการณ์ในอดีต และแฟนเก่า หากคุณยังคงเอาแต่จมอยู่กับสิ่งเหล่านี้ และวิพากษ์วิจารณ์ตัวเองในทางที่ไม่ดี ย่อมมีแต่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงเท่านั้น

7.เรียนรู้จากเรื่องที่เกิดขึ้น

จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องตระหนักอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับแฟนเก่าของคุณ ได้สิ้นสุดลงแล้ว ไม่ว่าจะจบลงอย่างสวยงามหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งที่คุณได้รับจากความสัมพันธ์นั้น คือ ประสบการณ์ชีวิตและความรัก คุณได้เรียนรู้วิธีรักใครสักคนอย่างเหมาะสม เลือกที่จะจดจำและรู้สึกดีกับช่วงเวลาที่อบอุ่น เพราะหนทางที่จะก้าวต่อไป คือ การเปิดใจยอมรับ และเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างจริงใจ ไม่ควรพูดหรือมีอคติต่อแฟนเก่า เพราะนอกจากจะส่งพลังงานด้านลบไปให้คนรอบข้างแล้ว ยังจะทำร้ายคุณโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย

อาการที่เรียกว่าอกหัก คือ ภาวะทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นจากความผิดหวังและความโศกเศร้า หากไม่สามารถก้าวต่อไปได้ก็อาจส่งผลต่อความเป็นอยู่ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ บทความนี้จึงนำเสนอวิธีการต่าง ๆ ที่จะช่วยให้คุณก้าวข้ามผ่านต่อไป และรับมือกับความเจ็บปวดได้ พร้อมเอาชนะความเศร้าและช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น

 

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook