อุทาหรณ์ "บ้านโทนี่ รากแก่น" ปัญหาบ้านที่เกิดจากหน้าฝน และความชื้น
ในช่วงแรกที่คู่รักสุดแนว "โทนี่ รากแก่น" และ "แก้ว-จริญญา ศิริมงคลสกุล" ออกมาโพสต์ภาพบ้าน หรือเรือนหอท่ามกลางสวนเกษตรและบ่อน้ำ ต่างทำให้หลายๆ คนฮือฮา โดยเฉพาะในโลกโซเชียล เนื่องจากบ้านมีความน่ารัก ร่มรื่น น่าอยู่ และแน่นอนว่าดีไซน์ไว้อย่างดีสมกับความเป็นแฟชั่นนิสต้าของเจ้าของบ้าน
แต่ล่าสุดโทนี่ รากแก่นออกมาโพสต์ภาพสภาพบ้านหลังเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือสภาพบ้านที่เปลี่ยนไป แบบที่เห็นแล้วเข่าแทบทรุด เนื่องจากมีหลายๆ จุดในบ้านที่ทรุดโทรม เสียหาย โดยเจ้าตัวโพสต์แคปชั่นสั้นๆ เพียงว่า "ผ่านไป 3 ฝน imperfect incomplete impermanent" ซึ่งหลายๆ คนต่างเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจ
หลังจากเห็นภาพความเปลี่ยนแปลงของบ้านหลังเดิมที่เคยสวยงาม น่ารัก บวกกับข้อความที่เจ้าของบ้านโพสต์ก็พอจะทำให้ทราบได้ว่าปัญหาหลักอย่างหนึ่งน่าจะมาจากความชื้นของฝน หรือบ้านที่ผ่านหน้าฝน นอกจากนี้บ้านหลังนี้ยังสร้างอยู่ใกล้น้ำ อีกด้วย จากปัญหาที่เกิดขึ้นเราจึงมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาบ้านที่อาจจะตามมาหลังจากผ่านหน้าฝน
ฝนที่ตกหนักและต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนได้หลายประการ ดังนี้
-
หลังคารั่ว เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุดในช่วงฤดูฝน สาเหตุของหลังคารั่วอาจเกิดจากวัสดุหลังคาเสื่อมสภาพ รอยแตกร้าว หรือการติดตั้งที่ไม่ถูกต้อง การซ่อมแซมหลังคารั่วควรทำโดยช่างมืออาชีพ
-
กระเบื้องหลังคาหลุด กระเบื้องหลังคาที่หลุดอาจเกิดจากการเสื่อมสภาพของวัสดุ แรงลมหรือพายุที่พัดแรง การซ่อมแซมกระเบื้องหลังคาหลุดควรทำโดยช่างมืออาชีพเช่นกัน
-
ผนังและพื้นชื้น ความชื้นจากฝนอาจทำให้ผนังและพื้นภายในบ้านชื้น ส่งผลให้เกิดเชื้อราและแบคทีเรีย ก่อให้เกิดกลิ่นอับและสุขภาพอนามัยไม่ดี ควรระบายอากาศภายในบ้านให้ถ่ายเทได้ดี และซ่อมแซมรอยรั่วของหลังคาและผนังบ้าน
-
ท่อระบายน้ำอุดตัน ท่อระบายน้ำอุดตันอาจเกิดจากเศษขยะหรือเศษใบไม้ ส่งผลให้น้ำฝนไหลขังบริเวณรอบบ้าน ทำให้เกิดน้ำท่วมขังและอาจทำให้บ้านเสียหายได้ ควรทำความสะอาดท่อระบายน้ำเป็นประจำ
-
ตะไคร่น้ำขึ้น ตะไคร่น้ำขึ้นอาจเกิดจากความชื้นและร่มเงา ส่งผลให้ผนังและพื้นบ้านดูสกปรกและไม่สวยงาม ควรทำความสะอาดตะไคร่น้ำเป็นประจำ
-
สวนเสียหาย ฝนที่ตกหนักอาจทำให้ต้นไม้ในสวนหักโค่นหรือเสียหาย ควรดูแลสวนให้แข็งแรงและตัดแต่งกิ่งไม้อย่างสม่ำเสมอ
-
โรคที่มากับฤดูฝน ฤดูฝนเป็นฤดูที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อโรคต่างๆ เช่น โรคไข้หวัด โรคหวัดนก โรคไข้เลือดออก เป็นต้น ควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง และป้องกันไม่ให้ยุงกัด
-
ผ้าอับ ความชื้นจากฝนอาจทำให้ผ้าอับชื้น ส่งผลต่อคุณภาพของผ้าและสุขภาพอนามัยของผู้อยู่อาศัย ควรตากผ้าในที่ร่มและระบายอากาศได้ดี
นอกจากนั้นความชื้นของน้ำส่งผลต่อบ้านริมน้ำหลายประการ ดังนี้
- ทำให้เกิดการผุกร่อนและเป็นสนิม
ความชื้นของน้ำอาจทำให้วัสดุก่อสร้าง เช่น ไม้ เหล็ก และปูน เกิดการผุกร่อนและเป็นสนิมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่สัมผัสกับน้ำโดยตรง เช่น พื้นบ้าน ผนังภายนอก และหลังคา
- ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของวัสดุ
ความชื้นของน้ำอาจทำให้วัสดุก่อสร้างเสื่อมสภาพลง เช่น บวม ยุบ หรือแตกร้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่สัมผัสกับน้ำเป็นเวลานาน เช่น พื้นบ้าน ผนังภายใน และเฟอร์นิเจอร์
- ก่อให้เกิดเชื้อราและแบคทีเรีย
ความชื้นของน้ำอาจทำให้เกิดเชื้อราและแบคทีเรียขึ้นในบ้านได้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคผิวหนัง และโรคระบบทางเดินหายใจ
- ก่อให้เกิดปัญหากลิ่นอับชื้น
ความชื้นของน้ำอาจทำให้เกิดปัญหากลิ่นอับชื้นในบ้านได้ ซึ่งอาจทำให้บ้านไม่น่าอยู่อาศัย
เพื่อลดผลกระทบจากความชื้นของน้ำต่อบ้านริมน้ำ ควรมีมาตรการป้องกันดังนี้
- เลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ทนต่อความชื้น
ควรเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ทนต่อความชื้น เช่น ไม้เทียม เหล็กชุบสังกะสี และปูนชนิดพิเศษ
- ทาน้ำยากันซึม
ควรทาน้ำยากันซึมบริเวณที่สัมผัสกับน้ำโดยตรง เช่น พื้นบ้าน ผนังภายนอก และหลังคา
- ระบายอากาศภายในบ้านให้ถ่ายเทได้ดี
ควรเปิดหน้าต่างหรือประตูเพื่อระบายอากาศภายในบ้านให้ถ่ายเทได้ดี เพื่อป้องกันความชื้นสะสมในบ้าน
- กำจัดความชื้นภายในบ้าน
ควรกำจัดความชื้นภายในบ้านอย่างสม่ำเสมอ เช่น เช็ดพื้นบ้านให้แห้ง ตากผ้าให้แห้งนอกบ้าน และซ่อมแซมท่อน้ำรั่ว
โดยสรุปแล้ว ความชื้นของน้ำเป็นปัญหาที่ควรให้ความสำคัญสำหรับบ้านริมน้ำ เนื่องจากอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อบ้านและสุขภาพของผู้อยู่อาศัย
อัลบั้มภาพ 18 ภาพ