5 จุดสำคัญควรเช็กตรวจบ้านก่อนรับโอน
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/wo/0/ud/43/215281/215281-thumbnail.jpg5 จุดสำคัญควรเช็กตรวจบ้านก่อนรับโอน

    5 จุดสำคัญควรเช็กตรวจบ้านก่อนรับโอน

    2019-04-20T03:17:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    เมื่อตัดสินใจซื้อบ้านโครงการ การสร้างบ้านใหม่หรือต่อเติมบ้าน เจ้าของบ้านควรตรวจรับบ้านก่อนเซ็นรับโอน แต่เจ้าของบ้านบางท่านอาจรู้สึกว่าไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ และนี่คือ 5 จุดสำคัญๆ ที่ควรเช็กตรวจบ้านก่อนรับโอน ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยประหยัดเวลา และลดโอกาสการเกิดปัญหาที่ตามมาจากการรับโอนบ้านที่ไม่ได้ตามข้อตกลงหรือมาตรฐาน และนี่คือ 5 จุดสำคัญเหล่านั้น

    1.ตรวจระบบไฟ เปิดไฟให้ทั่วทั้งบ้านแล้วเช็กให้ครบทุกดวงว่าสว่างหรือไม่ โดยเฉพาะโคมไฟติดทุกดวงหรือไม่  แนะนำให้ลองเปิดปิดสวิตช์ไฟหลายๆ ครั้ง รวมถึงนำสายชาร์จโทรศัพท์ที่พกมาเสียบดูทุกเต้าว่าใช้งานได้ปกติหรือไม่

    2.การตรวจฝ้าเพดานและผนังภายใน  สังเกตความเรียบร้อยของแนวผนัง ความเรียบเนียบ และรอยร้าว นอกจากนี้สีที่ทาให้มีความสม่ำเสมอ สีไม่พอง ไม่เป็นคลื่น ซึ่งสามารถตรวจเช็กและแก้ไขได้ดังนี้ เช่น

    • ถ้ามีรอยร้าวบนผนัง อาจเกิดจากการแตกลายงาของปูนที่ฉาบแห้งเร็วเกินไป แก้ไขด้วยการฉาบปิดผิวบาง (สกิม) แล้วทิ้งไว้เพื่อทาสีรองพื้นปูนเก่า และทาสีทับ
    • ถ้ารอยแตกเกิดจากโครงสร้างขยับตัว ซึ่งลักษณะของรอยแตกจะเป็นเส้น แก้ไขโดยการสกัดปูนฉาบตามแนวรอยแตกให้กว้างอย่างน้อย 2-3 ซม. หลังจากนั้นนำปูนฉาบเดิมฉาบทับและปล่อยให้แห้ง 1-2 วัน ทาสีรองพื้นปูนเก่าและทาสีทับ
    • ถ้าเกิดจากสีพอง ให้เอาสีเดิมออก โดยใช้เกรียงขูดออกบริเวณที่สีพอง ขัดด้วยกระดาษทราย ฉาบปิดผิว (สกิม) ให้เรียบ ทาน้ำยารองพื้นปูนเก่าและทาสีทับ

    2.4 ถ้าผนังเป็นคลื่น แก้ไขโดยขัดส่วนที่เป็นคลื่นออกให้เรียบเสมอกันให้มากที่สุด หลังจากนั้นทาน้ำยางรองพื้นปูนเก่า และทาสีทับ

    2.5 ถ้าฝ้าแอ่นตัว ซึ่งสามารถเกิดได้หลายสาเหตุ แต่จะมีวิธีสังเกตได้จากแนวขอบวงกบประตู หน้าต่าง หรือถ้าภายในห้องมีเฟอร์นิเจอร์ก็สามารถเช็กได้เบื้องต้นโดยดูจากระดับหลังตู้ว่าระยะห่างจากฝ้าเพดานถึงหลังตู้นั้นเท่ากันหรือไม่

    3.ตรวจพื้น ลักษณะของพื้นแต่ละแบบมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับวัสดุที่เจ้าของบ้านเลือกปูเป็นหลัก ควรเช็กให้ดีว่าตรงกับวัสดุที่เราเลือกใช้หรือไม่ และสิ่งสำคัญของพื้นที่ต้องตรวจคือความลาดเอียงของพื้นในส่วนพื้นเปียก เพื่อให้มีการไหลระบายถ่ายเทน้ำได้ดี

    4.ประตู และหน้าต่าง ควรตรวจสอบวงกบต้องติดตั้งได้เรียบร้อยแนบติดกับผนัง วงกบต้องไม่มีรอยบิ่นเมื่อปิดบานประตูต้องเรียบสนิทกับวงกบ และควรสอบถามว่ามีการทำเสาเอ็นรอบวงกบหรือไม่ และควรตรวจสอบการใช้งานในส่วนของตัวบานว่าเป็นของใหม่ ไม่ชำรุด ไม่มีรอยเปื้อน ถ้าเป็นบานกระจก ก็ต้องดูว่าไม่มีรอยแตก ติดตั้งได้แน่นหนากับตัวบาน และตรวจสอบว่าอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ที่ล็อค บานพับ และลูกบิด ทำงานได้ดีหรือไม่ โดยทดสอบจากการใช้งานซ้ำๆ กันหลายๆ ครั้ง ควรทดสอบการใช้งานกลอนทุกตัวว่าใช้งานได้ไหม

    5.ตรวจระบบประปา โดยตรวจระบบเก็บน้ำสำรองว่าเป็นแบบบนดินหรือใต้ดิน  และทดลองเปิดวาล์วน้ำทุกจุด ตรวจสอบปั๊มน้ำ ดูการรั่วซึมของน้ำด้วย และเปิดก๊อกและฝักบัวทุกตัวว่าน้ำไหลดีไหม เช็คระบบน้ำล้นโดยการทดลองขังน้ำไว้ในอ่างล้างหน้า อ่างล้างจานในครัว เพื่อดูว่าช่องน้ำล้นทำงานหรือเปล่า และจึงปล่อยออกเพื่อดูว่าน้ำสามารถไหลได้สะดวก ที่สำคัญอย่าลืมกดชักโครกโดยใช้ขนมปังแทน เพื่อทดสอบว่าสามารถใช้งานได้ดีไม่มีอุดตัน

     

     

    ขอขอบคุณ

    ข้อมูล :siamgypsum,siamgypsum,istockphoto