ไม่อยากเป็นหนี้ ช่างแต่งหน้าเก็บเงินสร้างบ้านโมเดิร์นวินเทจให้แม่ที่จน่าน งบ 4 ล้าน

บ้าน 1 หลังที่เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของคนๆ หนึ่งไม่เพียงเป็นความภาคภูมิใจสำหรับเจ้าของบ้านเท่านั้น แต่เรื่องราวกว่าจะมาเป็นบ้านหลังนั้น อาจทำให้อีกหลายๆ คนที่คิดฝันอยากมีบ้าน หรือทำอะไรก็ตามให้ลุล่วงสำเร็จมีแรงใจไม่ยอมแพ้ เพราะกว่าจะได้บ้านสัก 1 หลังคุณอูบ-ภมร เนตรสุวรรณ ช่างแต่งหน้าฟรีแลนซ์ ถือเป็นความเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัสอยู่ไม่น้อย

ลักษณะบ้านหลังเก่าลักษณะบ้านหลังเก่า

อูบเป็นช่างแต่งหน้าฟรีแลนซ์ อยู่ในแวดวงช่างแต่งหน้ามาหลายสิบปี ดั้งเดิมเป็นคนจังหวัดน่านแต่พอเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ก็มีเพียงคุณพ่อและคุณแม่พักอยู่ในบ้านหลังเดิมที่จังหวัดน่าน บ้านหลังเดิมเป็นบ้านไม้ 2ชั้น ที่อูบและพี่สาวเองก็เคยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นมาตั้งแต่เด็ก รวมอายุบ้านหลังเดิมก็น่าจะกว่า 30 ปี

แบบบ้านแบบบ้าน

แบบบ้านแบบบ้าน

วันเวลาที่ผ่านเลยไป บ้านหลังเดิมเก่าทรุดโทรมตามกาลเวลาอูบและพี่สาวจึงเกิดไอเดียอยากสร้างบ้านหลังใหม่ให้คุณแม่ เพราะเห็นว่าบ้านหลังเก่านั้นแทบจะอยู่ไม่ได้ เมื่อเกิดความคิดนั้น แม้ทราบว่าต้องใช้เงินจำนวนมากสร้างบ้าน แต่ตนเองไม่อยากเป็นหนี้ อูบจึงนำเงินเก็บตลอดเวลาที่ทำงานในกรุงเทพฯ รวมกับเงินของพี่สาว สร้างบ้านหลังใหม่ให้คุณแม่แบบไม่ต้องกู้ยืม

แม้ตอนแรกมีความคิดอยากรีโนเวทแต่เมื่อให้วิศวกรมาดูบ้านแล้ววิศวกรแนะนำว่าควรสร้างใหม่เหมาะสมกว่า เนื่องจากโครงสร้างเดิมของบ้านใช้ไม่ได้แล้ว แบบบ้านชั้นเดียวเป็นแบบบ้านที่เจ้าของบ้านเลือกเพราะเห็นว่าคุณแม่อายุมาก ไม่อยากให้ขึ้นลงบันได แต่ต่อมาคุณแม่ของอูบกลับไปบอกช่างให้แก้แบบบ้านให้เพราะตนเองเคยอยู่บ้านหลังเดิมที่มีใต้ถุนโล่งด้านล่าง จากแบบบ้านชั้นเดียวจึงกลายเป็นบ้าน 2 ชั้นปล่อยใต้ถุนโล่งตามความต้องการของคุณแม่ของอูบ

งานสร้างบ้านของอูบเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนการรื้อบ้านหลังเดิม มีค่าใช้จ่ายประมาณ 7 หมื่นบาท พื้นไม้จากบ้านหลังเก่านำมาใช้เป็นพื้นของบ้านหลังใหม่ เพราะคุณแม่ไม่ชอบพื้นปูนบ้านสไตล์โมเดิร์นวินเทจที่แต่เดิมจะเป็นเพียงบ้านชั้นเดียว ก็ปรับแบบให้เป็นบ้าน 2 ชั้น ด้านล่างเป็นใต้ถุนวางโต๊ะนั่งสำหรับคุณแม่ ห้องน้ำ ห้องเก็บของ ส่วนด้านบนแบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็นห้องพระ 1 ห้อง ห้องนอน 2 ห้อง ห้องครัว 1 ห้อง ห้องน้ำ 2 ห้อง และห้องโถง 1 ห้อง ซึ่งตอนแรกช่างประเมินราคาไว้เพียง 1 ล้าน 6 แสนบาท แต่เมื่ออูบมาเช็กของและวัสดุก่อสร้างแล้ว ขอเปลี่ยนวัสดุตามแบบที่ตัวเองต้องการทั้งหมด งบจึงบานปลายไปแตะอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านบาท ถ้ารวมตกแต่งด้วยแล้วก็น่าจะถึง 4 ล้านบาท

รวมระยะเวลาตั้งแต่รื้อถอนในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว จนกระทั่งสร้างบ้านใกล้เสร็จถึงปัจจุบันก็ถือว่าใช้เวลาไม่นาน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะช่างไม่เคยหนีงานและทำงานละเอียดมาก เนื่องจากเป็นคนที่รู้จักกัน แม้อูบจะทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ทุกขั้นตอนในการสร้างบ้าน หรือแม้กระทั่งซื้อของจะมีการไลฟ์สดมาสอบถามความต้องการของอูบเสมอ นั่นจึงทำให้บ้านออกมาตรงตามความต้องการเจ้าของบ้านทุกมุม

ขณะนี้บ้านหลังนี้ใกล้เสร็จแล้ว เหลือเพียงเก็บงานอีกเล็กน้อย รวมไปถึงการตกแต่งต่างๆ ภายใน เมื่อคุณแม่ของคุณอูบเห็นบ้านหลังนี้แล้วก็รู้สึกดีใจกับบ้านหลังใหม่ทั้งสวยสมใจ และน่าจะภูมิใจในตัวลูกๆ ทั้งสองคนด้วยเช่นกัน