ยืดชีวิตให้หน้าบาน ตู้

บานพับถ้วยเป็นอุปกรณ์ประกอบบานตู้ที่ได้รับความนิยมจากผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบน็อกดาวน์หรือบิลท์อิน เพราะบานพับชนิดนี้มีสปริงในตัวทำให้เปิด - ปิดสะดวก สามารถประกอบและถอดหน้าบานได้อย่างรวดเร็ว มีความแข็งแรง เปิด - ปิดได้หลายหมื่นครั้ง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับมาตรฐานของผู้ผลิตแต่ละรายด้วยเช่นกัน

เมื่อเราใช้งานไปสักระยะหนึ่ง หากพบว่าหน้าบานตู้เสื้อผ้าหรือหน้าบานตู้ครัวไม่สามารถปิดได้สนิทหรือปิดได้ไม่ค่อยนุ่มนวลเหมือนก่อน นั่นอาจมีสาเหตุมาจากตัวบานพับถ้วย โดยเราสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ด้วยการขันสกรูที่ตัวบานพับโดยใช้ไขควงเพียงตัวเดียว ซึ่งทำได้ 3 ทิศทางคือ การปรับด้านข้าง (ปรับซ้าย - ขวา) การปรับความสูง (ปรับขึ้น - ลง) และการปรับความลึก (ปรับลึก - ตื้น) โดยไม่ต้องเสียเงินเรียกช่างหรือรบกวนช่างมืออาชีพให้ยุ่งยาก

เทคนิคการปรับหน้าบาน (ตู้)

การปรับด้านข้าง

(การปรับซ้าย - ขวา บวกลบได้ 1 - 3 มิลลิเมตร)

เป็นการปรับหน้าบานตู้ไปทางด้านข้างในแนวราบ (ซ้ายมือหรือขวามือ) ด้วยการขันสกรูตัวหน้าของบานพับถ้วย โดยสามารถปรับ ได้ 1 - 3 มิลลิเมตร เหมาะกับการแก้ปัญหาในกรณีที่หน้าบานตู้เกยทับกันหรือปิดได้ไม่สนิท

การปรับความสูง

(การปรับขึ้น - ลง บวกลบได้ 1 - 2 มิลลิเมตร)

เป็นการปรับหน้าบานตู้ให้สูงขึ้นหรือต่ำลงด้วยการขันสกรูที่บริเวณขารองหนุนของบานพับถ้วยทั้งตัวบนและตัวล่าง โดยสามารถปรับได้ไม่เกิน 2มิลลิเมตร เหมาะกับการแก้ปัญหาบานตู้ตกหรือไม่ได้ระดับ

การปรับความลึก

(การปรับลึก - ตื้น บวกลบได้ 1 - 3 มิลลิเมตร)

เป็นการปรับความลึก-ตื้นของหน้าบานตู้ด้วยการขันสกรูตัวสุดท้ายที่บริเวณแขนบานพับถ้วย โดยสามารถปรับได้ 1 - 3 มิลลิเมตร มักใช้แก้ปัญหาการเสียดสีกันระหว่างตัวตู้กับหน้าบาน เนื่องจากมีระยะห่างจากโครงตู้น้อยเกินไป

นอกจากนี้บานพับถ้วยคุณภาพสูงบางรุ่นยังสามารถปรับเพิ่มหรือลดความแรงของสปริงในการปิดหน้าบานได้ ทำให้ปิดประตูได้นุ่มนวลยิ่งขึ้น (ไม่เกิดเสียงดัง)