เพื่อคุณแม่บ้าน เลือกวัสดุหม้อ กระทะอย่างไรให้เหมาะสม

ปัจจุบันนี้ อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัว ทั้งหม้อ ทั้งกระทะนั้น มีวัสดุให้เลือกหลากหลาย แต่ละอย่างก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป แต่ที่นิยมกันมาก ๆ มีอยู่ 4 ประเภท คือสแตนเลสสตีล ทองแดง อลูมิเนียม และเหล็กหล่อ วัสดุเหล่านี้ แตกต่างกันอย่างไร และมีข้อดีข้อเสียอย่างไร มาติดตามกัน

1.สแตนเลสสตีล : วัสดุชนิดนี้ มีข้อดีคือสามารถใช้ทำอาหารได้ทุกประเภท มีความแข็งแรง ทนทาน สามารถล้างในเครื่องล้างจานได้ และมีราคาไม่แพง แต่ก็มีข้อเสียคือ กระจายความร้อนได้ไม่ดีนัก หากต้องการให้กระจายความร้อนได้ดี ก็ต้องเลือกแบบที่มีคุณภาพสูง ซึ่งก็จะมีราคาแพงขึ้น

2.ทองแดง : ข้อดีของหม้อและกระทะทองแดงนี้คือ นำความร้อนได้ดีมาก เหมาะมากสำหรับการนำมาใช้ทำอาหาร แต่ข้อเสียก็คือ วัสดุชนิดนี้ จะทำปฏิกิริยากับอัลคาไลน์ และกรดในอาหาร ซึ่งส่งผลให้อาหารมีรสชาติเปลี่ยนไป และหากอาหารมีสีอ่อน อย่างเช่นไข่ ทองแดง ก็จะทำให้อาหารมีสีเข้มขึ้น ยิ่งมีทองแดงเป็นส่วนผสมเยอะในเนื้อวัสดุ ก็ยิ่งส่งผลต่ออาหาร ดังนั้น ควรเลือกชนิดที่มีส่วนผสมของทองแดงน้อย นอกจากนี้ ทองแดง อาจจะไม่เหมาะที่จะใช้งานประจำวันนัก เพราะต้องการการดูแลรักษามาก และยังมีราคาแพง  แต่ทั้งนี้ยังมีทางเลือกที่น่าสนใจคือ เลือกกระทะและหม้อ ที่ใช้วัสดุทองแดง ผสมสแตนเลสสตีล จะช่วยประหยัด และใช้งานได้หลากหลายมากกว่า

3.อลูมิเนียม : ข้อดีก็คือ นำความร้อนได้ดี น้ำหนักเบา ราคาไม่แพง แต่ก็มีข้อเสียคล้ายกับทองแดงคืออลูมิเนียมจะทำปฏิกิริยากับอัลคาไลน์ และกรดในอาหาร วัสดุไม่แข็งแรง อาจจะบิดเบี้ยว ผิดรูปผิดร่างได้ง่าย เมื่อโดนความร้อนสูง และยังเป็นรอยขูดขีดง่ายอีกด้วย ผู้ที่ใส่ใจสุขภาพจำนวนมากจึงไม่นิยมนำวัสดุพวกนี้มาใช้เป็นเครื่องครัวในระยะยาว แต่มีทางเลือกอยู่คือ การใช้อโนไดซ์ อลูมิเนียม ซึ่งเป็นการเคลือบผิวอลูมิเนียม ให้มีความแข็งแรงคงทนมากยิ่งขึ้น แต่แน่นอนว่าราคานั้นย่อมสูงกว่าอลูมิเนียมธรรมดา แต่กว่าจะทำให้ร้อน ก็ต้องใช้เวลานานกว่าวัสดุประเภทอื่น

4.เหล็กหล่อ : ข้อดีของวัสดุชนิดนี้ก็คือ ทนทาน ราคาไม่แพง และอาหารไม่ติดกระทะ หรือติดก้นหม้อ กระจายความร้อนได้ดี รักษาความร้อนได้ดี แต่มีข้อเสียคือ ทำปฏิกิริยากับอาหาร ไม่ค่อยเหมาะกับการใช้ทำอาหารที่มีกรด นอกจากนี้ ยังมีน้ำหนักมาก และใช้เวลานานกว่าที่หม้อ หรือกระทะจะร้อน การดูแลรักษาและทำความสะอาดก็ค่อนข้างยาก