การฉีดสารเติมแต่งบนใบหน้า

การฉีดสารเติมแต่งบนใบหน้า

การฉีดสารเติมแต่งบนใบหน้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ในปัจจุบันนี้มีความนิยมในการฉีดสารต่าง ๆ เข้าในใบหน้าเพื่อรักษากันเป็นจำนวนมากครับ ซึ่งโดยมากมักจะไม่ทราบว่า สารที่เอามาฉีดเข้าไปน่ะคือสารอะไร แต่ได้รับคำแนะนำจากสถานบริการความงามบ้างจากผู้ที่ไม่ใช่แพทย์บ้าง ที่ให้คำแนะนำฉีดสารเข้าใบหน้า โดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา ทำให้คนไข้มีปัญหาเป็นจำนวนมาก แถมไม่สมหวัง หรือไม่ได้ใบหน้าตามที่ต้องการอีกด้วย ดังนั้น ในบทนี้หมอจึงขอให้ความรู้ความเข้าใจคร่าว ๆ เกี่ยวกับสารที่ใช้อยู่บนใบหน้ากันว่ามีอะไรบ้างนะครับ จุดประสงค์ในการฉีดสารและสารที่นำมาฉีด ที่ใบหน้ามีด้วยกัน 3 อย่าง คือ 1. เติมแก้ไขส่วนบกพร่องที่เน้นปริมาณให้เต็มขึ้น ใช้สารกลุ่ม พาราฟิน ซิลิโคนเหลว หรือไขมันตัวเอง 2. แก้ไขร่องริ้วรอยย่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ใช้สารกลุ่มคอลลาเจน ต่าง ๆ หรือสารลังเคราะห์ทดแทน 3. ระงับการทำงานของกล้ามเนื้อไม่ให้มีการหดตัวชั่วคราว เพื่อให้ไม่มีรอยย่นของผิวหนังเวลายิ้ม ยักคิ้วหรือขมวดคิว ใช้สาร BOTOX สารกลุ่มที่ 1. สารเติมแก้ไขส่วนบกพร่อง ใช้ฉีดเพื่อเติมส่วนที่บุ๋มหรือเพื่อเพิ่มส่วนต่าง ๆ ให้โหนกนูนขึ้น เช่น หน้าผาก, ขมับ, แก้ม สิ่งที่ดีที่สุดและไม่มีปัญหาใด ๆ กับร่างกายในระยะยาว คือ ไขมันตัวเอง โดยแพทย์จะดูดไขมันจากส่วนอื่นของร่างกาย เช่น ท้อง ตนขา ต้นแขนส่วนเกิน นำมาเติมในใบหน้าส่วนที่ขาดให้เต็มขึ้น บริเวณที่ได้ผลมากที่สุด คือ แก้มตอบ มีข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือ อาจไม่ได้ขนาดเต็มที่เท่าที่ต้องการ เนื่องจากธรรมชาติของไขมันจะมีการสลายของเซลล์ไขมันหรือละลายไปบางส่วน ซึ่งการลดเปอร์เซ็นต์ ของการดูดซึมกลับก็อยู่ที่เทคนิคของแพทย์ที่ทำ อย่างไรก็ตามการฉีดไขมันหมอก็ไม่แนะนำให้ทำที่จมูกหรือคางนะครับ เพราะจะไม่สามารถทำให้รูปทรงคงที่ตามที่ต้องการได้ ไม่เหมือนกับการเสริมด้วยวัสดุที่เป็นของแข็งซึ่งจะทำให้จมูกหรือคางที่เสริมคงตัวได้ดีกว่าและสวยงามกว่า ส่วนสารอื่น ๆ ในกลุ่มนี้ที่มีปัญหามากคือ ผู้ที่ได้รับการฉีดสารซิลิโคนเหลว หรือ พาราฟิน ซึ่งมักจะฉีดโดยผู้ไม่มีใบประกอบโรคศิลปะ และทางการแพทย์ยังถือเป็นสารต้องห้าม โดยมากผู้ฉีดมักแอบอ้างว่า เป็นไขมันเทียม ฮอร์โมน เจลาติน หรือคอลลาเจน ปัจจุบันนิยมฉีดกันมากที่หน้าผาก แก้ม ใต้ตา จมูก คาง หรือหลาย ๆ ส่วนตามร่างกาย จะทำให้มีปัญหาของการอักเสบเรื้อรัง และห้อยย้อยไหลลง หรือเกิดเป็นตุ่มนูนคลำได้เป็นก้อนแข็ง ต่อมาในระยะยาว 5-10 ปีให้หลัง ซึ่งจะมีอาการเกิดเร็วหรือช้าขึ้นกับปริมาณที่ฉีด ฉีดมากก็เกิดเร็ว ฉีดน้อยก็เกิดช้าหน่อย แต่ยิ่งนานยิ่งเห็นปัญหา จะเห็นได้ชัดๆ ว่าผู้ที่ได้รับการฉีดสารซิลิโคนเหลวหรือพาราฟิน มักจะเกิดปัญหาและต้องมาพบศัลยแพทย์ตกแต่งเพื่อแก้ไขให้ทุกคน แต่หมอบอกได้เลยว่า ยากมากที่จะรักษาแก้ไขให้ดีขึ้นครับ เนื่องจากเนื้อเยื่อร่างกายจะมีอาการแข็งเป็นก้อนจับตัว จากสารที่ฉีด การเอาสารที่ฉีดออกย่อมต้องกระทบต่อเนื้อเยื่อร่างกายบริเวณนั้น และรวมถึงเส้นประสาทใบหน้าด้วย ทำให้การรักษาแก้ไขทำได้ยากจริง ๆ ครับ หมอแนะนำว่าเราทุกคนตองระวังและหลีกเลี่ยงในการที่จะมีการฉีดสารที่เป็นอันตรายบนใบหน้า อย่าหวังเพียงให้ใบหน้าดูอวบอิ่มชั่วคราว แต่เป็นปัญหาตลอดชีวิตเลยนะครับ กลุ่มที่ 2. กลุ่มคอลลาเจน หรือสารสังเคราะห์ สารกลุ่มนี้สามารถใช้ได้ ซึ่งโดยทั่วไปถือว่ามีความปลอดภัย แต่ใช้ในกรณีที่มาเติมส่วนรอยย่นที่เป็นรอยขีด (Wrinkle) เช่น ร่องหน้าผากร่องแกมลึก รอยขมวดคิ้วลึก เดิมใช้คอลลาเจน คือเป็นโปรตีนจากลำไส้ของสัตว์กินหญ้า แต่ต่อมาไม่นิยมเพราะมีโอกาสแพ้สูงและอยู่ได้เพียง 6 เดือนก็หายไปหมด จึงมีความพยายามในการผลิตสารใหม่เพื่อให้โอกาสแพ้น้อยลงและมีความอยู่ตัวนานขึ้น ยกตัวอย่าง เช่น HA (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีในร่างกายตามธรรมชาติ โดยแต่ละชนิดมีความเหมาะสมแตกต่างกัน รวมถึงระยะเวลาในการสลายตัว บางอย่างอยู่ได้แค่ 2-3 เดือน แต่บางชนิด อยู่ได้ตลอดไป ในเมืองไทยมีเพียงบางชนิด รวมถึงมีความแตกต่าง เรื่องความหนืด ความยากง่ายของการฉีด และผลข้างเคียง แต่โดยรวมของกลุ่มนี้ยังมีความปลอดภัยพอสมควร (แม้บางชนิด เช่น Bioplastique ซึ่งเป็นโมเลกุลของซิลิโคนน้ำยาผสมกับสารเคลือบที่ช่วยลดการไหลย้อยแต่ในหลายประเทศยังไม่ให้การยอมรับ) ยาในกลุ่มนี้ราคาค่อนข้างสูง โดยประมาณ 10,000 บาท ขึ้นไป ต่อซีซี ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการใช้สารกลุ่มนี้มาฉีดเพื่อเพิ่มปริมาณจะมี ค่าใช้จ่ายสูงมาก จึงเหมาะสำหรับใช้ฉีดเติมบริเวณร่องแก้มหรือริ้วรอยที่เป็นเส้นลึกมากกว่าครับ กลุ่มที่ 3. BOTOX ยาที่ระงับการหดตัวของกล้ามเนื้อใบหน้า คือ BOTOX เพื่อลดรอยย่นที่หน้าผาก หว่างคิ้ว หรือตีนกา ยากลุ่มนี้ไม่ได้ทำให้ใบหน้าตึงขึ้นหรืออวบอิ่มขึ้นนะครับ อย่าเข้าใจผิด เป็นเพียงทำให้กล้ามเนื้อเฉพาะส่วนหยุดทำงานชั่วคราวประมาณ 4-6 เดือน เมื่อกล้ามเนื้อหยุดทำงาน ผิวหนังด้านบนก็จะไม่มีรอยย่นตามไปด้วยครับ ในการรักษาโดยการฉีดสารเติมแต่งบนใบหน้านั้นราคาค่าฉีดสารขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของยาที่ใช้แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของแต่ละคนครับ ซึ่งราคาโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 12,000-15,000 บาท ก่อนจบหมอขอย้ำนิดนะครับว่า ก่อนการตัดสินใจฉีดสารบนใบหน้า คุณต้องรู้และเขาใจว่า สารนั้นเป็นสารอะไร ปลอดภัยดีแค่ไหนและผู้ที่ฉีดต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ไม่งั้นคุณต้องได้มาให้หมอแก้ไขให้อีกรอบแน่ ๆ ครับ

อัลบั้มภาพ 2 ภาพ

อัลบั้มภาพ 2 ภาพ ของ การฉีดสารเติมแต่งบนใบหน้า

การฉีดสารเติมแต่งบนใบหน้า
การฉีดสารเติมแต่งบนใบหน้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook