“สวนภาชนะ” ในคอนโด เริ่มต้นอย่างไร สำหรับมือใหม่หัดปลูก

ปัจจุบันหลายคนหันมาดูแลสุขภาพโดยการปลูกผักไว้ทานเอง แต่สำหรับบางคนแค่คิดก็ยากเพราะว่าไม่มีพื้นดินสำหรับปลูกผักอย่างที่ตัวเองต้องการ โดยเฉพาะการพักอาศัยอยู่ตามคอนโดมิเนียม ห้องเช่าใจกลางเมือง ยิ่งทำให้เข้าถึงพืชผักสดๆ ไร้สารได้ยาก แต่ Sanook! Home อยากให้คุณลองเริ่มต้นทำ “สวนภาชนะ” ด้วยการใช้พื้นที่บริเวณระเบียงหลังห้องเป็นแปลงปลูกผักย่อมๆ ที่แม้แต่มือใหม่ก็ยังทำได้

1.เตรียมเครื่องไม้เครื่องมือให้พร้อม ก่อนอื่นเลยคุณคงต้องเตรียมอุปกรณ์ เครื่องไม้ เครื่องมือต่างๆ ให้พร้อมสำหรับการทำสวนภาชนะ เช่นภาชนะที่คุณต้องการใช้ ช้อนพรวน ส้อมพรวน ถุงมือ ฝักบัวรดน้ำ หรือจะเป็นพวกกรรไกรตัดกิ่ง ฯลฯ

2.เลือกพืชผักที่คุณต้องการปลูก ผักสวนครัวส่วนใหญ่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในภาชนะต่างๆ คนส่วนใหญ่มักเลือกปลูกสมุนไพรในกระถาง แต่อยากแนะนำว่าคุณชอบทานผักอะไรก็เลือกปลูกผักที่คุณชอบทานนั่นแหละ

3.เลือกสถานที่ ตำแหน่งที่เหมาะสม ตำแหน่งระเบียงเป็นตำแหน่งที่มีแสงแดดส่องถึง แต่บริเวณระเบียงคอนโดมิเนียมของคุณอาจใช้วางทั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ ราวตากผ้า ตะกร้า กะละมัง ฯลฯ อย่างไรก็ตามเวลาเลือกตำแหน่งที่วางภาชนะสำหรับทำสวนก็ควรเป็นตำแหน่งที่ไม่รบกวนพื้นที่ หรือเข้าถึงได้ยากจนเกินไปนัก

4.เลือกพืชที่เหมาะสม เมื่อคุณได้พืชที่ต้องการแล้ว อาจต้องคำนึงเรื่องความเหมาะสมด้วย เพราะพืชบางชนิดต้องการแสงแดดเป็นช่วงเวลาอย่างน้อย 6 ชั่วโมง แต่พืชบางชนิดก็ไม่ได้ต้องการแสงแดดมากขนาดนั้น ดังนั้นอาจไม่เหมาะจะปลูกที่บริเวณระเบียง

5.เลือกภาชนะที่เหมาะสม ภาชนะแต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ภาชนะพลาสติกเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเนื่องจากมีราคาถูกและน้ำหนักค่อนข้างเบา แม้มันจะไม่สวยงามมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับภาชนะที่ทำจากวัสดุอื่น ดังนั้นก่อนตัดสินใจควรเลือกภาชนะให้เหมาะสม หรือคุณจะนำภาชนะที่เคยใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่เช่นกระป๋องกาแฟ แก้วพลาสติกหรือขวดน้ำขนาดใหญ่ ถ้วยโยเกิร์ต ฯลฯ

6.เพิ่มการระบายน้ำให้กับต้นไม้ของคุณ การระบายน้ำได้น้อยนั้นเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้ต้นไม้ตาย เพราะพืชไม่ชอบแช่ลำต้นหรือขังอยู่ในน้ำเป็นเวลานานๆ ดังนั้นหากภาชนะที่คุณเลือกใช้ระบายน้ำได้ไม่ดีนัก คุณอาจเพิ่มรูหรือเจาะช่องเพิ่มการระบายน้ำให้ได้มากขึ้น

เป็นอย่างไรบ้างคะ หวังว่ามือใหม่หัดปลูกน่าจะลงมือทำตามได้ไม่ยากนะคะ

เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก http://www.sparkpeople.com

ภาพจาก www.istockphoto.com