เปิด “บ้านจักรพงษ์” ริมเจ้าพระยา อายุกว่า 100 ปี จากต้นราชสกุล “จักรพงษ์”
“…แม่จะนั่งทานอาหารเช้าที่ระเบียงข้างบน ทุกเช้าจะไปทานอาหารเช้าด้วยก่อนไปโรงเรียน คุณแม่จะมีหนังสือพิมพ์ที่ส่งมาสมัยนั้นเป็นกระดาษแอร์เมล์ ซึ่งมันบางมาก และมีเสียงก๊อบแก๊บๆ…"
คุณหญิงสา ม.ร.ว.นริศรา จักรพงษ์ เจ้าของบ้านจักรพงษ์คนปัจจุบันย้อนเล่าถึงความทรงจำวัยเด็กที่มีร่วมกับคุณแม่หรือหม่อมเอลิซาเบธในบ้านหลังนี้
บ้านจักรพงษ์มีอายุถึงปัจจุบันกว่า 100 ปี เป็นบ้านที่ถูกสร้างขึ้นโดยต้นราชสกุลจักรพงษ์ จอมพล สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ หากแต่ท่านมิได้ประทับอยู่ ณ บ้านหลังนี้ เมื่อเสด็จทิวงคต บ้านหลังนี้จึงตกเป็นของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ เมื่อทรงเสกสมรสกับ หม่อมเอลิซาเบธ ชาวอังกฤษ ทรงมีพระธิดาคนเดียวคือคุณหญิงสา หรือคุณแม่ของ “ฮิวโก้" หรือ เล็ก-จุลจักร จักรพงษ์ ศิลปินดารามีชื่อ
รูปแบบสถาปัตยกรรมของบ้านจักรพงษ์เป็นสไตล์อิตาลี ตั้งอยู่บนพื้นที่มากกว่า 2 ไร่ (แต่ปัจจุบันเหลือพื้นที่ทั้งหมด 2 ไร่ เนื่องจากมีการแบ่งที่ดินขายไปก่อนหน้านั้น) ตัวอาคารมี 3 ชั้น ด้านบนเป็นหอคอยซึ่งใช้เป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพระพันปีหลวง จอมพล สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ และ หม่อมเอลิซาเบธ ซึ่งคุณหญิงสาจะต้องขึ้นไปกราบไหว้สักการะทุกครั้งเมื่อตนเองจะเดินทางจากบ้านหลังนี้ไปที่ใดสักแห่ง
“บ้านจักรพงษ์ในอดีตไม่ได้สวยงามเหมือนอย่างที่เห็น บ้านดูเหมือนใหญ่เพราะสมัยก่อนนิยมสร้างบ้านเพดานสูงเพื่อให้ลมถ่ายเท แต่จริงๆ แล้วมีห้องนอนแค่ 4 ห้องเท่านั้น โถงรับแขกที่เรานั่งอยู่เมื่อก่อนเป็นห้องเปิดโล่ง ร้อน ยุงบินเต็มไปหมด และยังมีเสียงเรือดังจนได้ยินมาถึงในบ้าน ไม่มีส่วนให้นั่งเล่น “สมัยเด็กๆ ก็ไม่ได้เป็นที่ๆ คนนิยม หรือเห็นคุณค่าเท่าไร ตอนอยู่โรงเรียนเพื่อนๆ จะอยู่สุขุมวิท เขาจะเห็นว่าเราน่าสงสารที่อยู่ปากคลองตลาด เพิ่งมาช่วงหลังที่บูมขึ้นมา”
หลังจากคุณหญิงเดินทางกลับมาจากประเทศอังกฤษจึงเกิดความคิดเรื่องซ่อมแซม ปรับปรุงบ้านหลังนี้เสียใหม่ เนื่องจากโครงสร้างเดิมของอาคารและพื้นห้องยังใช้ได้ จึงมีการเพิ่มเติมส่วนต่างๆ ของบ้านไม่มากนัก จะมีแต่เพียงการนำของตกแต่งที่เคยถูกเก็บไว้ในห้องใต้ดินออกมาใช้ประดับเพิ่มเติม ไปพร้อมกับการซื้อหาของเก่าที่เธอชื่นชอบเข้ามาเพิ่มบรรยากาศในบ้าน
“ พื้นกระเบื้อง พื้นไม้ ประตู โครงสร้างหลักๆ ของบ้านหลังนี้สวยอยู่แล้ว เราจึงไม่ได้เปลี่ยนเลย แต่สิ่งที่ไม่ดีคือพวกสายไฟ ท่อน้ำที่ผุ เราต่อเติมแค่เฉลียงให้ยื่นออกไปตรงสวนนอกบ้าน กำแพงทางขึ้นก็เอาออกเพื่อให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้น ของตกแต่งเป็นของเก่าแก่จากรุ่นคุณปู่ รุ่นคุณพ่อ ที่เก็บไว้ในห้องใต้ดินเช่นพวกเครื่องมุก ถ้วยชามเบญจรงค์ แต่ก็ซื้อของเก่าเพิ่มมาบ้าง เลยชอบสไตล์ผสมผสาน บางคนเห็นว่ายุ่งเหยิงเกินไป แต่เราอยากทำให้บ้านเหมือนวังปารุสก์ที่เคยเห็นในรูป ผนังบ้านจะติดรูปเยอะมาก มีรูปปั้นม้าที่ทูลหม่อมปู่ทรงตอนอยู่รัสเซีย เราก็เลยเอาของพวกนี้ขึ้นมา”
ปัจจุบันบ้านหลังนี้จึงมีห้องโถงด้านหน้าใช้สำหรับนั่งเล่น พูดคุยกันระหว่างคนภายในครอบครัว หรือใช้ต้อนรับแขกแบบไม่เป็นทางการมากนัก สำหรับห้องแดงใช้สำหรับต้อนรับแขกผู้ใหญ่ที่อาจจะดูเป็นทางการขึ้นมา ในบริเวณติดกันมีห้องรับประทานอาหาร และมีห้องทรงพระอักษรในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ส่วนด้านบนมีห้องนอนอีก 4 ห้อง และชั้นสามของอาคารกำลังจะถูกปรับเป็นออฟฟิศสำหรับการทำงานหนังสือของคุณหญิงสา ซึ่งค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว
“ความทรงจำต่อบ้านหลังนี้ดิฉันว่ามันคือบ้านเกิดของดิฉัน เพราะแรกเริ่มที่เรามีความคิดในสมองก็เป็นบ้านหลังนี้ และเราก็ผูกพันกับบ้านหลังนี้เพราะเราตกแต่ง ปรับเปลี่ยนบ้านหลังนี้ด้วยตัวเอง สำหรับดิฉันแล้วที่นี่คือ “บ้าน สถานที่ๆ ทำให้เรารู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย มีความผูกพันถึงพ่อแม่ และหวังว่าลูกหลานจะรักษาต่อไป”
วันเวลากว่า 100 ปีที่หมุนผ่านไป ทำให้ “บ้านจักรพงษ์” เป็นบ้านที่เต็มไปด้วยเรื่องราวหลากมิติ ทั้งในด้านของสถาปัตยกรรมที่งดงาม ประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละยุคสมัย ความรัก การจากพราก ล้วนเกิดขึ้นภายในบ้านหลังนี้
อัลบั้มภาพ 40 ภาพ