Tengoku de Cuisine @ เชียงใหม่เจ้า

Tengoku de Cuisine @ เชียงใหม่เจ้า

Tengoku de Cuisine @ เชียงใหม่เจ้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้พาคุณผู้อ่านมาหาร้านอร่อยที่เมืองเชียงใหม่ เผื่อใครจะพาคู่รักเปลี่ยนบรรยากาศไปเดตใต้อ้อมหมอก ร้านที่ว่านี้ คือ Tengoku de Cuisine ซึ่งมีคุณสันต์ สืบแสง หรือป๋าปึกส์ นักชิมมือหนึ่งแห่งเมืองเชียงใหม่ และเจ้าของบล็อกพาชิมที่ชื่อ restaurantaroi.blogspot.com พร้อมกับคุณปริ๊น - ธนิชภพ สืบแสง ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเป็นเจ้าของร้าน



ร้านนี้เกิดจากความตั้งใจของป๋าปึกส์และคุณปริ๊นที่ชอบกินอาหารญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ จนทำให้ป๋าปึกส์ลงทุนไปเที่ยว ไปศึกษาการทำอาหารถึงประเทศญี่ปุ่นมาเกือบ 2 ปี และได้เจอกับเชฟภิรมย์กุฎีศรี เชฟที่มีประสบการณ์ด้านการทำอาหารญี่ปุ่นมากว่า 30 ปี เลยชักชวนกันมาเปิดร้านนี้ หลังจากที่ได้เชฟฝีมือดี เรื่องอาหารก็ไม่น่าเป็นห่วง ส่วนเรื่องการบริหารจัดการร้านและการบริการ ป๋าปึกส์และคุณปริ๊นก็ดูแลเองทั้งหมด ด้วยเป็นเจ้าของบูติกโฮเต็ลจึงนำหลักการบริหารมาประยุกต์ได้อย่างดี จนทำให้ร้าน Tengoku de Cuisine มีความสมบูรณ์แบบ



สไตล์การตกแต่งร้านเป็นแบบมิกซ์แอนด์แมตช์ ป๋าปึกส์นำของสะสมพวกไม้แกะสลักของจีน เครื่องปั้นดินเผาและภาพวาดสไตล์ญี่ปุ่น มาจัดวางเข้ากับชุดเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลเข้ม ใส่ไลติ้งตามจุดต่าง ๆ ให้ดูสวยงาม ภายในร้านแบ่งออกเป็น 3 ห้องใหญ่ ๆ ด้วยกัน ห้องแรกมีที่นั่งให้เลือก 2 แบบ คือซูชิเคาน์เตอร์บาร์ และโต๊ะเก้าอี้นั่งแบบสบาย ๆ เหมาะกับคู่รักที่จะมาดินเนอร์ได้เป็นอย่างดี ห้องที่ 2 เป็นห้องส่วนตัว รองรับได้ประมาณ 20 คน ส่วนห้องสุดท้ายเป็นซูชิเคาน์เตอร์บาร์แต่ใหญ่กว่าห้องแรก ไว้สำหรับลูกค้าที่จะมารับประทานแบบโอมากาเสะหรือ Chef Table ซึ่งต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งวัน

วัตถุดิบในร้านส่วนใหญ่สั่งตรงจากญี่ปุ่น คุณปริ๊นและเชฟใหญ่ประจำร้านจะคอยเลือกสรรและคัดวัตถุดิบเองเพื่อความสดใหม่และคงคุณภาพให้ได้รสชาติตามต้นตำรับ นอกจากมีวัตถุดิบดีแล้ว ร้านนี้ยังมีทีเด็ดอยู่ที่โชยุสูตรพิเศษที่ต้มไว้ใช้เองในร้าน มีรสหวานเจือเล็กน้อย ไม่เค็มจัดเหมือนโชยุทั่วไป จิ้มกับปลาดิบอร่อยอย่าบอกใครเลย นอกจากนี้วาซาบิของที่นี่ยังใช้วาซาบิสดที่นำหัววาซาบิมาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วหมักกับเครื่องปรุงสูตรเฉพาะของทางร้าน รสจะไม่เผ็ดจี๊ดเกินไป รับประทานได้เรื่อย ๆ

เริ่มอาหารจานแรกกันด้วย ชุดปลาดิบรวม (Ume Set) ในจานนี้เสิร์ฟด้วยปลามากุโรหรือปลาทูน่าสไลซ์ส่วนที่ดีและแพงที่สุด คือส่วนท้องของปลาหรือที่เรียกว่าโอโทโร (ท้องส่วนหน้า) และชูโทโร (ท้องส่วนหลัง) ซึ่งเนื้อส่วนนี้จะมีมันแทรกอยู่ เวลาเคี้ยวแล้วนุ่มลิ้นละลายในปาก นอกจากนี้ยังมีปลาแซลมอนและฮามาจิ (ปลาหางเหลือง) เสิร์ฟคู่มาด้วย ความพิเศษของจานนี้ที่ไม่เหมือนใครก็คือ ขนาดของชิ้นปลาที่หนาและใหญ่เป็นพิเศษ กัดแล้วเต็มปากเต็มคำ

ถัดมาเป็น ซูชิปลาตาเดียว (Engawa Sushi) นำครีบปลาตาเดียวมาสไลซ์เป็นแผ่น โปะบนข้าวญี่ปุ่นเหนียวนุ่ม แล้วนำไปเบิร์นให้ผิวไหม้เล็กน้อยเพื่อความหอม จิ้มกับซอสสูตรเฉพาะรสเค็มหวานที่เคี่ยวจากโชยุต้มเองกับเครื่องปรุงรสอื่น ๆ อร่อยจนต้องขอเบิล

ยำเนื้อ (Beef Tataki) จานนี้บอกได้เลยว่าอร่อยนุ่มลิ้นมาก เพราะใช้เนื้อนิวซีแลนด์อย่างดีส่วนริบอายมาทำให้สุกแค่ผิวด้านนอก เพื่อจะได้เก็บความหวานของเนื้อเอาไว้ สไลซ์เป็นชิ้นบาง ๆ วางบนหอมหัวใหญ่ซอย เวลารับประทานให้คีบเนื้อกับชิ้นหัวหอมกินคู่กัน จิ้มกับน้ำจิ้มพอนสึรสเปรี้ยว ตัดรสหวานของเนื้อและหัวหอมให้กลมกล่อมลงตัว

มาถึงจานผักอย่าง มะเขือม่วงราดซอส (Natsudeng Kaku) จานนี้เขานำมะเขือม่วงลูกโตมาผ่าครึ่ง ทอดในน้ำมันน้อย ๆ พอสุก แล้วนำไปย่างไฟอ่อนให้หอม ราดด้วยซอสมิโซะรสเค็มหวาน หอมกลิ่นมิโซะ เนื้อมะเขือสุกนุ่มกำลังดี พลาดแล้วจะเสียใจ

จานเด็ดสุดท้ายของมื้อนี้ ซูชิตับห่าน (Foiegras Sushi) เป็นซูชิแบบประยุกต์ที่เกิดจากความชอบกินตับห่านทอดแบบฝรั่งเศสของป๋าปึกส์ เลยหยิบมาใส่ไอเดีย โดยหั่นตับชิ้นพอคำนำไปปรุงแบบฝรั่งด้านนอกกรอบเนื้อในนุ่ม แล้วโปะบนข้าวญี่ปุ่น ราดด้วยซอสแอ๊ปเปิ้ลรสเปรี้ยวอมหวานสูตรเฉพาะที่คิดขึ้นมาเองเพื่อลดความมันเลี่ยนของตับห่าน ทำให้อร่อยมากยิ่งขึ้น

นอกจาก 5 เมนูเด็ดที่เรานำมาฝากกันแล้ว ยังมีอีกหลากหลายเมนูให้คุณเลือกสั่งรับประทานหากใครได้ไปเยือนเมืองเชียงใหม่ก็อย่าลืมแวะไปร้าน Tengoku de Cuisine ตั้งอยู่ในซอยวัดบวกครกหลวง ถนนเชียงใหม่ - สันกำแพง หน้าโรงแรมดาราเทวี เปิดให้บริการทุกวัน มื้อกลางวัน 11.00 น. - 14.00 น. และมื้อเย็น 17.30 น. - 22.00 น. สำรองที่นั่งล่วงหน้า โทร. 0-5385-1133 และ 08-1885-5959 ราคาเฉลี่ยต่อคน 800 - 1,000 บาท และโอมากาเสะ 2,500 บาทต่อคน

ภาพประกอบจาก Tengoku de cuisine

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook