รดน้ำให้สวนชุ่มฉ่ำ รับหน้าหนาว

รดน้ำให้สวนชุ่มฉ่ำ รับหน้าหนาว

รดน้ำให้สวนชุ่มฉ่ำ รับหน้าหนาว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรื่องที่ลืมไม่ได้สำหรับสวนสวยของเราก็คือ ระบบน้ำการเลือกระบบรดน้ำไปใช้งานแต่ละพื้นที่นั้นเราต้องดูด้วยว่าเหมาะกับขนาดพื้นที่และเหมาะกับสภาพสวนในบ้านหรือไม่ เพราะหากเราเลือกไม่เหมาะสมอาจจะส่งผลกับต้นไม้ในสวนของเราได้ ดังนั้นระบบน้ำ 2 ระบบ มาแนะนำให้ไปเลือกใช้กันค่ะ 1. ระบบรดน้ำแบบสายยาง เป็นการรดน้ำแบบพื้นฐานดั่งเดิมมากๆ…

1. ระบบรดน้ำแบบสายยาง

เป็นการรดน้ำแบบพื้นฐานดั่ง เดิมมากๆ ซึ่งการใช้งานเราจะเลือกในพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น  คอนโด อะพาร์ทเมนต์  มุมระเบียง เป็นต้น ซึ่งมุมเล็กเหล่านี้จะเหมาะกับการใช้สายยางมากกว่า เพราะติดตั้งก็ง่ายๆ เพียงแค่ติดตั้งท่อน้ำจากท่อน้ำหลักจากนั้น ติดบอลวาล์วเพื่อเปิด-ปิดน้ำ และนำสายยางมาติดกับก๊อกน้ำ ควรติดที่แขวนสายยางไว้ด้วยเพื่อง่ายต่อการจัดเก็บและกระชับพื้นที่

ข้อดีของการใช้สายยางรดน้ำ คือ ต้นไม้ ได้น้ำในปริมาณที่เหมาะสมตามชนิดของต้นไม้และวัสดุปลูก แต่วิธีนี้ควรต่อฉีดหัวบัวหรือหัวฉีดพ่นฝอยแทนการบีบปลายสายยาง เพื่อให้แรงดันน้ำสม่ำเสมอ ไม่เป็นอันตรายต่อต้นไม้ เจ้าของบ้านสามารถทำได้เอง

2. ระบบรดน้ำด้วยสปริงเกลอร์

ระบบนี้เหมาะสำหรับพื้นที่ สวนขนาดใหญ่หรือคนที่อยากจะประหยัดเวลาในการรดน้ำต้นไม้ ส่วนการที่เราจะติดตั้งนั้นก็ทำได้โดยเรามีอุปกรณ์ดังนี้คือ เครื่องปั๊มน้ำ เครื่องตั้งเวลาอัตโนมัติ  ข้อต่อ  ท่อ PVC และสปริงเกลอร์ส่วนหัวของสปริงเกลอร์นั้น  ถ้าพื้นที่เล็กกว้างไม่เกิน 1-2 เมตร แนะนำให้เป็นแบบมินิสปริงเกลอร์เพราะเหมาะกับสวนพุ่ม สวนหย่อมแต่ถ้าเป็นพื้นที่สนามหญ้าขนาดใหญ่  ต้องการฝังสปริงเกลอร์ลงใต้ดิน  ก็นำแนะนำ หัวแบบป๊อปอัพ ส่วนวัสดุที่ของหัวสปริงเกลอร์ก็แล้วแต่เราจะเลือก จะเป็นแบบโลหะ หรือพลาสติกก็ได้แล้วแต่ผู้ใช้ส่วนจะตั้งระยะให้น้ำไปไกลแค่ไหนก็ขึ้นอยู่ กับพลังแรงม้าเครื่องปั๊มน้ำและระยะที่เรากำหนดแล้ว

ข้อดีของการรดน้ำแบบสปริงเกอร์ คือ การให้น้ำระบบนี้จะช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศบริเวณที่ปลูกต้นไม้ได้ และสามารถช่วยลดอุณหภูมิในบริเวณที่เราปลูกต้นไม้ได้ เหมาะสำหรับเจ้าของบ้านที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแล ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่วัยทำงานได้เป็นอย่างดี  แต่การใช้สปริงเกลอร์ก็มีข้อควรคำนึงอยู่บ้างคืออาจทำให้พื้นที่บางจุดอาจ รับน้ำไม่ได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากการให้น้ำระบบนี้จะค่อนข้างสม่ำเสมอกันทั้งพื้นที่ จึงไม่เหมาะสมสำหรับกรณีปลูกต้นไม้ที่มีความต้องการน้ำแตกต่างกัน โดยเฉพาะถ้าต้นไม้มีขนาดทรง ความหนาแน่น พุ่มต่างกัน เพราะขนาดและความหนาแน่นทรงพุ่มจะมีผลโดยตรงต่อปริมาณน้ำที่ระบบรากจะได้รับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก..

Written by 

ข้อมูลและภาพจาก www.homedeedeeforyou.com

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook