พัทรวี บุญประเสริฐ ไลฟ์โค้ช ที่ปรึกษาชีวิต รีเซตโปรแกรมจิตใหม่

พัทรวี บุญประเสริฐ ไลฟ์โค้ช ที่ปรึกษาชีวิต รีเซตโปรแกรมจิตใหม่

พัทรวี บุญประเสริฐ ไลฟ์โค้ช ที่ปรึกษาชีวิต รีเซตโปรแกรมจิตใหม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คุณรู้จักตัวเองดีแค่ไหน? คุณต้องการอะไรในชีวิต? คำถามง่าย ๆ แต่หาคำตอบยากยิ่งนัก คล้ายตกในภาวะเดินวนในเขาวงกตชีวิต

เหมือนกับชีวิตขับเคลื่อนอยู่ในทัศนวิสัยไม่ชัดเจน ย่อมมีสิทธิ์เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ดังนั้น ควรปรับโฟกัสให้ชัดก่อนออกเดินทาง

ดีไลฟ์ชวนผู้อ่านมา "ตั้งโปรแกรมชีวิตใหม่" เป็นเหมือนจุดออกสตาร์ตที่ดีสำหรับช่วงชีวิตย่างเข้าปีใหม่ 2557

เพื่อปลดล็อกเครื่องกักขังหน่วงเหนี่ยวชีวิตอันหนักอึ้งกลับอยู่ที่ "วิธีคิดตั้งต้น" ของตัวเอง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะลุกขึ้นมาฉีกกรอบความเชื่อเดิมๆ ปรับเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ แต่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ เพียงแค่ต้องเชื่อก่อนว่า "คุณเปลี่ยนแปลงตัวเองได้"

เช่นเดียวกับที่ "แป๋ว พัทรวี บุญประเสริฐ" พิธีกรข่าวบันเทิงอารมณ์ดีแห่งรายการไนน์เอ็นเตอร์เทน บอกเล่าประสบการณ์ชีวิตเหมือนได้เกิดใหม่ หลังจากชีวิตหลงทางแบบที่เรียกว่า "ไปไม่เป็น" มาแล้ว

"เมื่อ 2 ปีก่อน ในวันที่ไม่ชัดเจนในตัวเอง จนปวดขมับ ตอบตัวเองไม่ถูกว่าจะไปทางไหน ชีวิตแป๋วตอนนั้นเหมือนไปยืนหน้าเคาน์เตอร์ขายตั๋วหนัง แต่ไม่รู้ว่าตัวเองอยากดูหนังเรื่องอะไร ก็ให้คนขายตั๋วเลือกเลยว่า หนังเรื่องไหนดี มีคนดูเยอะ ก็เลือกเข้าไปนั่งดู เพียงเพราะคนอื่นบอกว่ามันดี ลองคิดดูสิ ชีวิตของเราเป็นแบบนี้ตั้งหลายครั้ง"

แป๋วเล่าว่า วัยเกือบเลข 4 นำ เธอเพิ่งเริ่มคิดจริงจังกับคำถามว่า "ชีวิตนี้ต้องการอะไร ?"

เมื่องานประจำที่ทำอยู่กับช่อง 9 ก็ดูไม่มั่นคง นับวันยิ่งมีเด็กรุ่นใหม่เข้ามา ก็เบียดคนเก่าทิ้งไปเรื่อย ๆ ขนาดตอนที่เธอนั่งกินส้มตำแล้วเผลอคิดขึ้นมาว่า ความแก่ชรากำลังจะพรากทุกอย่างที่เคยมีไป แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว

ในมรสุมรุมเร้าชีวิต ได้เกิดมีกัลยาณมิตรเห็นความทุกข์ใจครานั้น เสนอให้ไปลองเข้าคลาสเรียน NLP (Neuro Linguistic Programming) เป็นศาสตร์การโปรแกรมสมองปรับระบบคิดด้วยภาษา เพื่อจะจัดการชีวิตที่เธอเรียกว่า "เน่าสุด ๆ" ให้ดีขึ้นได้

"ตอนแรกเข้าคลาสเข็มทิศชีวิตก่อน ฟังไปมึนงงไป พอเริ่มเรียนรู้ทั้งเรื่องจิตใต้สำนึกและ NLP ซึ่งเป็นคนละศาสตร์กัน เรียนไปเรียนมารู้สึกสนุกติดใจค้นหาคอร์สศึกษาเพิ่มพร้อมกับค้นพบความถนัดของตัวเองถูกจริตกับสไตล์ NLP มากกว่าโหมดเข้าสู่จิตใต้สำนึก"

แป๋วอธิบายกลไกของสมองคนเราแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ "จิตสำนึก" กับ "จิตใต้สำนึก"

"สมองของคนเราเป็นคลังข้อมูล เก็บทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต บันทึกได้เท่ากับตึกเวิลด์เทรด 3 ตึกรวมกัน แต่จิตสำนึกของเราเหมือนลืมไปเกือบทั้งหมด ขณะที่จิตใต้สำนึกไม่เคยลืมเลย แต่ยากที่เราจะไปรื้อหาไฟล์ข้อมูลชุดแรก ๆ ในสมอง"

เธอบอกว่า ชอบวิธีการพูดคุยแบบจิตสำนึกปกติสไตล์ NLP แล้วเข้าสู่กระบวนการปรับวิธีคิด ที่สำคัญวิธีนี้เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงทันที เพราะจะเป็นการสร้างเส้นประสาทชุดใหม่และฝังระบบคิดใหม่ด้วยตัวเอง

"สิ่งเดียวที่ฉุดไม่ให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเอง คือไม่เชื่อว่าเราเปลี่ยนแปลงได้ ยิ่งกว่านั้น การไม่ยอมตัดสินใจจะยอมเปลี่ยน เพราะอำนาจในการตัดสินใจมหาศาลมาก ทันทีที่ตัดสินใจแล้ว เส้นทางเดินจะมา วิธีการจะเกิดขึ้นเอง"

หลังจากเข้าศึกษาอย่างจริงจัง เธอได้นำมาคลี่คลายความขมุกขมัวของชีวิตให้ชัดเจนขึ้น และเห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแบบกลับตาลปัตร

"ถ้าคนที่รู้จักแป๋วในอดีต จะบอกได้เลยว่าไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว แป๋วคนเดิมที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองมีค่าอย่างไร คุณค่าในตัวเองแปลว่าอะไร เห็นตัวเองเล็กเท่ามด ใครจ้างให้ทำงานอะไรก็ทำ เพราะคิดว่าตัวเองคู่ควรแค่นี้ แล้วก็หาเหตุผลดี ๆ มาให้กับตัวเอง นั่นแหละคนเดิม"

แต่พัทรวีในวันนี้มองเห็นชีวิตไร้ขีดจำกัด ย้ำกับตัวเองว่า

"อย่าทำตัวเป็นคนไม่มีทางเลือก"

แป๋วจาก "นักเรียนชีวิต" กลายเป็น "โค้ชชีวิต" (Life Coach) ส่งต่อให้ผู้อื่น เธอบอกว่า กลางปีนี้เตรียมบินไปเรียนกับต้นตำรับศาสตร์ NLP "ริชาร์ด แบนด์เลอร์" ที่ประเทศอังกฤษ

หน้าที่ของโค้ช คือทำให้คนได้รู้จักตัวเอง รู้ความคิด ความรู้สึก และเห็นเป้าหมายของตัวเอง ช่วยไกด์ทิศทางเคลื่อนชีวิตด้วยวิธีการสื่อสาร และการตั้งคำถาม แต่เขาต้องเป็นคนคิดเอง ตัดสินใจเอง เหมือนคนอยากมีซิกแพ็ก แต่ให้คนอื่นซิตอัพให้ ไม่มีทางเกิดแน่นอน

"โค้ชต้องชี้ให้เห็นอะไรสำคัญที่สุดในชีวิต จัดลำดับความสำคัญในชีวิตใหม่ หาทิศทางชีวิตของตัวเองให้เจอ เพราะมนุษย์จะเดินตามทิศทางที่ตัวเองคิด เมื่อทิศทางสอดคล้อง ชีวิตจะกลมกลืน"

พร้อมยกตัวอย่างความรักจากน้องผู้หญิงหลายคนที่โค้ชแป๋วรับปรึกษา

"หลายคนเกิดอาการงงว่า ทำไมถึงต้องเลิกรากับแฟนตลอดเป็นวัฏจักรเรื่อยมา พอเจอแฟนที่ดี แฟนขอแต่งงาน ก็มีเรื่องให้เลิกรากันอีก เมื่อลองสำรวจทิศทางของเขา ปรากฏว่า ความสำคัญอันดับหนึ่งในชีวิตของเขา คือการให้อิสระเสรี รักอิสระมาก ส่วนความต้องการอันดับสอง คือความมั่นคง

คราวนี้อันดับหนึ่งกับอันดับสองขัดแย้งกันเอง รักอิสระ แต่อยากมั่นคง นั่นไง ทิศทางขัดแย้งกัน ชีวิตก็เป็นเช่นนั้น"

ยังมีอีกหลายกรณีที่น่าสนใจ ซึ่งแป๋วกำลังเก็บรวบรวมประสบการณ์จริงนำมาถ่ายทอดออกเป็นหนังสือ เพื่อบอกต่อกับผู้อื่นที่อาจตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันวางแผงช่วงกลางปีนี้ หากใครสนใจอยากเข้าห้องเรียนให้รู้จักตัวเองสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ "โค้ชแป๋ว" ไปดูรายละเอียดได้ที่ www.facebook.com/PaewNLP โปรแกรมนี้จะเกิดในเดือนกุมภาพันธ์นี้

เมื่อต้องสวมบทเป็น "ที่ปรึกษาทางชีวิต" รับฟังเรื่องทุกข์ร้อนใจของคนอื่นอยู่เป็นประจำ วิธีขจัดเครียดของเธอก็สำคัญเช่นกัน

"ก่อนอื่น ถามตัวเองให้ชัดก่อนว่า เราอยากฟังคนนั้นไหม ตั้งโปรแกรมสมองใหม่ หากเราไม่อยากรับฟัง อย่าฝืนทน ถ้าเรารู้สึกอัดอั้น แปลว่ามันไม่ใช่แล้ว อย่ารับเป็นที่ปรึกษาใครเพียงเพราะอยากเป็นคนดี

การกลัวเป็นคนไม่ดี กลัวไม่ใช่นางฟ้า ทำให้กลายเป็นคนที่เราไม่อยากเป็น ถ้าทำแบบนี้จะติดนิสัยไปทุกเรื่อง คนทรมานที่สุดคือตัวเราเอง กลับไปดูแลหัวใจตัวเองก่อนเถอะ แม่นางฟ้าทั้งหลาย"

หากใครที่ชีวิตกำลังหลงทางอยู่ในวังวนไม่รู้เป้าหมายของตัวเอง ลองหยุดแล้วตั้งคำถามกับตัวเองอย่างจริงจังก่อนว่า

"เราต้องการอะไรในชีวิต ?"

แล้วตั้งใจจะหาคำตอบนี้ให้ได้ แต่อย่าไปเครียด บีบคั้นให้ได้คำตอบในเร็ววัน ใช้ชีวิตอย่างที่ควรใช้อย่างมีความสุข แต่ลองหาอะไรคือสิ่งที่ไม่ได้ทำแล้วจะเป็นจะตาย ชีวิตนี้เราคิดเพื่อคนอื่นมาเยอะพอแล้ว ถึงคราวนี้คิดเพื่อตัวเองจริง ๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook