รับมือกับเชื้อไวรัสโรต้า วายร้ายทำเด็กท้องร่วงรุนแรง!!

รับมือกับเชื้อไวรัสโรต้า วายร้ายทำเด็กท้องร่วงรุนแรง!!

รับมือกับเชื้อไวรัสโรต้า วายร้ายทำเด็กท้องร่วงรุนแรง!!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เชื่อว่าคุณแม่หลายคนคงเคยผ่านประสบการณ์ลูกน้อยร้องไห้งอแง ท้องเสีย อาเจียนแล้วก็ไข้ขึ้นสูงกันอยู่บ่อยครั้งจริงไหมคะ ทุกวันนี้มีเชื้อโรคและโรคจากการติดเชื้อมากมายที่คุณแม่หลายคนคงยังไม่ทราบวันนี้อยากแบ่งปันรู้วิธป้องกันลูกน้อยให้ห่างไกลจากโรคร้ายต่าง ๆ ไม่รู้ว่าเคยได้ยินไวรัสโรต้ากันหรือยัง เพราะโรคนี้ร้ายแรงกว่าที่คิด

ไวรัสโรตา เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่เป็นสาเหตุหลักของโรคลำไส้อักเสบในทารกและเด็กเล็ก ทำให้เกิดอาการอาเจียนและท้องร่วงรุนแรง เสี่ยงต่อการเกิดภาวะขาดน้ำมากที่สุด พบมากที่สุดในเด็กอายุ 7-12 เดือน และมักพบผู้ป่วยโรคนี้มากในช่วงเดือนที่มีอากาศแห้งและค่อนข้างเย็น (พฤศจิกายน – มกราคม)

เด็ก ๆ ติดเชื้อนี้ได้อย่างไร

ไวรัสโรตา เป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อได้ง่ายมาก ชอบแฝงตัวอยู่ตามสิ่งของ เช่น ของเล่นเด็ก และสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานหลายชั่วโมง อยู่ได้นานเป็นวันๆ ซึ่งหากลูกน้อยนำสิ่งของหรือมือที่เปื้อนเชื้อโรคเข้าทางปากก็จะทำให้รับเชื้อไวรัสนี้เข้าไปได้อย่างง่ายดาย

เด็ก ๆ รับเชื้อไวรัสโรตาแล้วมีอาการอย่างไร

1. หลังจากเด็กได้รับเชื้อประมาณ 1-2 วัน จะมีอาการเริ่มต้นด้วยการมีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน กรณีที่อาการไม่รุนแรง อาการไข้และอาเจียนมักจะหายได้เองภายใน 2-3 วัน

2. อาการที่พบได้บ่อยคือ อาการปวดท้อง ท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นน้ำหรือถ่ายเป็นฟองหลายๆ หน บางคนอาจมีน้ำมูกไหลและไอร่วมด้วย อาการท้องเสียอาจเป็นนานได้ถึง 7-10 วัน

แพทย์ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคนี้อย่างไร

เนื่องจากโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส ปัจจุบันยังไม่มียาฆ่าเชื้อไวรัสโรตา คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยลูกน้อยของท่านในเบื้องต้นได้ โดยไม่ควรให้นมในขณะที่เด็กเริ่มมีอาการอาเจียน ควรให้น้ำเกลือแร่ทีละนิดทีละน้อย ถ้ายังมีอาเจียน ควรพามาพบแพทย์ทันที ถ้ามีอาการขาดสารน้ำและเกลือแร่ แพทย์มักจำเป็นต้องรับไว้ในโรงพยาบาล เพื่อให้สารน้ำและเกลือแร่ทางเส้นเลือดดำ

วิธีป้องกันไม่ให้เด็กติดเชื้อไวรัสโรตาได้อย่างไร

1.ล้างมือให้ลูกน้อยบ่อยๆ

2.รักษาสุขอนามัยของสมาชิกในบ้าน และบริเวณที่ลูกชอบเล่น รวมถึงหมั่นล้างของเล่นเสมอๆ

3.เตรียมอาหารของลูกน้อยให้สุก สะอาด ถูกสุขลักษณะ โดยการผ่านความร้อน

4.การดื่มนมแม่จะช่วยให้ลูกมีภูมิคุ้มกันได้ในระดับหนึ่ง ถึงแม้จะติดเชื้อไวรัสโรตาก็จะไม่มีอาการหรือมีน้อย เพราะภูมิคุ้มกันในนมแม่ช่วยในการกำจัดเชื้อได้

5.ปัจจุบัน มีวัคซีนป้องกันไวรัสโรตาชนิดกิน ซึ่งเป็นวิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูง มีความปลอดภัยสูง ใช้ได้อย่างสะดวก ช่วยลดความรุนแรงของโรคและลดการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook