คุณพร้อมจะเป็น ผู้ตาม ในหมู่สตรีไหม ?

คุณพร้อมจะเป็น ผู้ตาม ในหมู่สตรีไหม ?

คุณพร้อมจะเป็น ผู้ตาม ในหมู่สตรีไหม ?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
บางคนความรักก็สมหวังดีอยู่หรอก แต่เมื่อถึงคราวต้องแสดงลีลาแล้ว กลับสร้างความผิดหวังให้กับคู่ครอง ที่พูดนี่มักจะเป็นฝ่ายชาย ซึ่งแน่นอนละ เรื่องเซ็กซ์ถ้าฝ่ายชายไม่นำไป แล้วใครจะนำ เดี๋ยวจะหาว่า ลูกสาวฉันช่ำชอง ผ่านอะไรต่อมิอะไรมามาก-ซะงั้น !



จะว่าไปก็ไม่เห็นจะเป็นธรรมตรงไหน ถ้าฝ่ายหญิงจะริอ่านเป็นผู้นำด้านนี้กันบ้าง แล้วกลับดูถูกดูแคลนซะนี่ ทำไมสาวๆ จะศึกษาเรื่องนี้มาบ้างไม่ได้ หนังสือและตำราก็มีให้ศึกษา อย่างลุงอลิศแกก็เขียนถึงบ่อยๆ แต่แกก็พร้อมจะเป็นผู้ตามเหมือนกันนะ

เหมือนที่ดาราตลก-จอร์จ เบิร์นส์เคยกล่าวไว้ว่า “ผมน่ะชอบเป็นผู้นำในหมู่บุรุษ แต่ก็ยินดีที่จะเป็นผู้ตามในหมู่สตรี”

ที่จริง การที่หญิงสาวจะมีเพศสัมพันธ์ด้วย ชายหนุ่มก็ไม่ควรจะรีบร้อนหาความสุขให้ตัวเองแต่ฝ่ายเดียว บางครั้งต้องปล่อยให้เธอเป็นผู้นำดูบ้าง ธรรมเนียมของชาวยิวบ่งไว้ว่า การร่วมรักแต่ละครั้งของสามี-ภรรยาจะต้องได้รับการยินยอมพร้อมใจจากฝ่ายหญิงเสียก่อน มิฉะนั้นก็จะกลายเป็นการข่มขืนหลังการแต่งงาน ซึ่งชาวยิวถือเป็นข้ออ้างอย่างเข้มงวดกวดขันมาก เพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่บนเตียง

พอไปเจอสามีชาวไทยบางคนเข้า กลับเข้าใจว่า หลังสู่ขอแต่งงานแล้วหญิงนั้นก็คือสมบัติชิ้นหนึ่งของตน จะหยิบขึ้นมาใช้เมื่อไรและอย่างไรก็ได้ บางทีฝ่ายหญิงยังไม่พร้อม หรือตัวเองไม่มีความสามารถในการปลุกเร้าที่ดีพอ ฝ่ายหญิงก็ยิ่งรับไม่ได้ ก็เกิดคดีทำร้ายร่างกาย หรือถึงกับฆ่ากันตายเพราะเรื่องงี่เง่าทำนองนี้แหละ

ในสมัยจีนโบราณ จักรพรรดิจีนเกือบทุกพระองค์มักจะต้องปรึกษาหารือเรื่องยาอายุวัฒนะและการร่วมรักเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะการร่วมรักที่จะทำให้พระองค์มีสุขภาพดี มีอายุยืนยาวกว่าคนธรรมดา อย่างจักรพรรดิจีนนามอึ้งเต้นั้น ก็มักจะเรียกเซียนเต๋าผู้สามารถเรื่องยาอายุวัฒนะเข้าเฝ้าปรึกษาหารือ นอกจากเซียนเต๋าแล้วก็ยังมีหญิงงามนามไชนึ้ง ซึ่งมีความเข้าใจความพิสดารของศิลปะในห้องนอนยิ่งนัก

ไชนึ้งจึงน่าจะเป็น ‘ผู้นำในหมู่สตรี’ ที่ว่าด้วยเรื่องเซ็กซ์คนแรกๆ ในประวัติศาสตร์ ตามบันทึกที่เป็นบทเรียนจากไชนึ้งตอนหนึ่งบอกศิลปะแห่งความเป็นหญิงไว้ว่า

“ก่อนหน้าที่ชายจะร่วมรสรักกับหญิง ให้เธองอเท้าทั้งคู่ถ่างออก ชายจะนอนคว่ำอยู่หว่างกลางเท้าทั้งคู่ของหญิง จูบริมฝีปากดูดลิ้นเล่น ใช้มือจับเครื่องเพศ เคาะที่บริเวณสองแคมช่องคลอด เมื่อกระทำการลูบโลมชั่วเวลาหนึ่งแล้ว จึงค่อยๆ สอดเข้าไปในช่องคลอดของหญิง

“ชายที่มีเครื่องเพศอ้วนใหญ่ สอดเข้าไปนิ้วครึ่ง ถ้าของใครผอมก็ให้สอดเข้าไปประมาณ 1 นิ้ว จงอย่ายักย้าย ค่อยๆ ชักออกแล้วสอดเข้าไปอีก ส่วนหญิงรู้สึกเสมือนยากจะสกัดกั้นอารมณ์ที่พลุ่งพล่านไว้ได้ เป็นจังหวะที่เหมาะสมกับชายที่จะสอดเข้าไปให้ลึก ความสุขหรรษาจะเต็มเปี่ยม

“อีกด้านหนึ่งฝ่ายหญิงต้องควบคุมให้ชายบดส่วนปลายเพียงตื้นๆ ซึ่งต่อมกระสันของฝ่ายหญิงจะมีอยู่แค่เพียง 1 นิ้วเศษๆ เท่านั้น หลังจากนั้นค่อยสอดเข้าไปลึกอีก 3 นิ้ว ฝ่ายหญิงเงยหน้าจูบริมฝีปากคนรัก ระหว่างที่ดำเนินการสอดเข้า-ออก”

จะเห็นได้ชัดว่า ไชนึ้งเน้นการใช้ริมฝีปาก เรียกว่าปากเป็นเอก เพราะริมฝีปากเป็นทางของเส้นประสาทที่กระตุ้นเตือนความกำหนัดทางเพศ ในตำรับรักฮ่องเต้กล่าวไว้ว่า ไชนึ้งรอบรู้ทุกขั้นตอน นับจากจุดสูงสุดขีดทางเพศ จากนั้นก็จะค่อยๆ ลดต่ำลงสู่สภาพเดิม นางจะเริ่มแนะนำให้บุรุษเคลื่อนไหวประเล้าประโลมต่างๆ พร้อมกับถึงจุดหลั่งรสรักแล้ว ยังจะต้องเคลื่อนไหวร่วมรักให้สมบูรณ์จนหญิงค่อยๆ สงบดังเดิมอีกด้วย

ตำรับรักฮ่องเต้แม้จะเก่าแก่โบราณ แต่ทุกวันนี้ความรู้เรื่องปฏิบัติการทางเพศของคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ก็ยังอ่อนด้อย ไม่เท่าแม้ขี้เล็บนิ้วก้อยเท้าซ้ายของบรรพบุรุษ

การเลิกร้างเพราะความไม่สมดุลทางเพศจึงเกิดขึ้นกับคนรุ่นใหม่มากมาย จะเห็นได้จากสถิติการหย่าร้างที่กระทรวงมหาดไทยทำไว้ล่าสุดกลับสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่น 10 ปีหลังมานี้การหย่าร้างเพิ่มขึ้น 2 เท่า เฉลี่ยชั่วโมงละ 10 คน ทำให้มีพ่อม่ายร้างเมีย และแม่ม่ายร้างผัวที่ต้องเลี้ยงดูบุตรธิดาโดยลำพังถึง 1.3 ล้านครอบครัว แต่ส่วนใหญ่เรามักจะอ้างว่า เป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจ หรือเรื่องความไม่เข้าใจกันในเรื่องอื่นๆ

ก็เรื่องแบบนี้มันจะอ้างกันตรงๆ เข้าไปได้ยังไง-อายเขาตาย !
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook