เด็กน้อยชอบอยู่บ้านเพื่อน

เด็กน้อยชอบอยู่บ้านเพื่อน

เด็กน้อยชอบอยู่บ้านเพื่อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรื่อง : นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ จิตแพทย์แผนกจิตเวช โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์

Q. ที่บ้านเรา เพื่อนๆ ลูกสาว (อยู่ชั้น ป.5) จะมาทำการบ้านด้วย เด็กๆ ติดรถกันมาตั้งแต่ตอนไปรับกลับ เสาร์-อาทิตย์ก็มีบ้างถ้ามีรายงาน แต่มีเพื่อนอยู่คนหนึ่งอยากมาบ้านเราตลอด มาเองก็บ่อย จนบางครั้งเรารู้สึกอึดอัด พอถามเด็กว่าพ่อแม่รู้หรือเปล่า ส่วนใหญ่จะไม่ได้บอก ผมต้องโทรไปบอกพ่อแม่เด็ก ด้านพ่อแม่ก็ไม่ว่าอย่างไรเหมือนปล่อยๆ ลูก อย่างนี้เราควรทำอย่างไรครับ

เพื่อนลูกเป็นเด็กนักเรียนชั้นประถม 5 ถือว่าเป็นเด็กที่ยังเล็กมาก เขาไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะรู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร ผู้ใหญ่มีหน้าที่สอนครับ

ก่อนที่จะสอน อย่าลืมคำพูด "รักลูก รักเพื่อนของลูกด้วย" การต้อนรับดูแลเพื่อนของลูกเป็นการแสดงน้ำใจของพ่อแม่ที่ดี ผลลัพธ์ที่ดีไม่ได้ตกอยู่กับเพื่อนของลูกแต่ตกอยู่กับลูกของเราเอง เป็นการส่งสัญญาณให้ลูกของเรารู้ว่าพ่อแม่ยอมรับการคิด การตัดสินใจ และการกระทำของเขา เมื่อยอมรับแล้วเขากลับจะฟังเราในภายหลัง หากไม่ยอมรับเพื่อนของลูก โดยทั่วไปมักนำไปสู่ปัญหาพูดอะไรเขา (คือลูกของเรา) ก็ไม่ฟัง

การต้อนรับดูแลทำได้ทั้งกาย วาจา ใจ นั่นคือด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พูดจาไพเราะ และใจเมตตา แต่เมื่อไรที่เพื่อนของลูก (และลูกของเรา) ทำอะไรที่เกินเลย ไม่เหมาะไม่ควร ก็อย่ารีรอที่จะบอกกล่าวและสอนสั่ง

หากเพื่อนของลูกมาบ่อยจนอึดอัด เราบอกความคาดหวังของเราได้ว่าเขาควรทำตัวอย่างไรและกำหนดกติกาที่ทุกฝ่ายยอมรับได้แล้วทำตามนั้น แน่นอนว่าอะไรที่ปล่อยปละละเลยจนเกินเลยมานานแล้วเมื่อต้องมานั่งกำหนดกติกากันใหม่อาจจะนำมาซึ่งความไม่เข้าใจหรือมึนตึงเป็นธรรมดา ก็ต้องยอมรับว่าเป็นธรรมดาแต่ทุกฝ่ายมีหน้าที่ปรับตัว  มิใช่อึดอัดแล้วทนอึดอัดกันอยู่เช่นนั้น

การยอมรับเพื่อนของลูกแล้วกำหนดกติกาไม่เหมือนการบ่นว่าเพื่อนของลูกให้ลูกฟัง เรื่องทำนองนี้สำหรับเด็กนักเรียนประถมห้าเป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ควรมีปัญหาอะไร เรื่องจะยากมากขึ้นเมื่อเขาถึงชั้นมัธยม วันหนึ่งเพื่อนของลูกบางคนจะสูบบุหรี่ บางคนจะกินเหล้า บางคนจะขับรถเร็ว ฯลฯ เรายิ่งต้องฝึกทักษะ "การยอมรับเพื่อนของลูกแล้วกำหนดกติกา" ให้เก่งขึ้นเรื่อยๆ

ผมเดาว่าลูกสาวของคุณมีเพื่อนฝูงรักใคร่มากมายถึงกับมาทำการบ้านกันทุกวัน คุณพ่อคุณแม่ก็คงมีสถานที่ ขนม และน้ำคอยเลี้ยงดูปูเสื่อเพื่อนๆ ของลูกทุกวัน ทั้งหมดทั้งปวงนี้เป็นผลดีต่อลูกสาวของคุณมากมาย เพื่อนๆรักเขา เขาได้อวดทุกคนว่าพ่อแม่ฉันดีขนาดไหน พ่อแม่ก็ต้อนรับขับสู้เพื่อนๆ ด้วยน้ำใจทุกวัน ความชื่นชมตนเอง ชื่นชมพ่อแม่ ชื่นชมบ้าน เหล่านี้จะเป็นฐานของบุคลิกภาพที่ดีในอนาคต การลงทุนกับเพื่อนของลูกที่แท้คือการลงทุนกับลูก วันข้างหน้าเขาน่าจะมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีเพราะมีฐานที่มั่นที่ดีนั่นเอง ฐานที่มั่นจะดีก็ด้วยกติกาที่ดีด้วย เช่น ไม่อนุญาตให้.... ไม่อนุญาตให้.... และไม่อนุญาตให้.... ลองยกตัวอย่างดูว่าเด็กประถมห้าเราไม่อนุญาตให้ทำอะไร อย่าลืมว่ารักลูกรักเพื่อนของลูกด้วย เราไม่อนุญาตให้ลูกของเราทำอะไรเราก็ไม่อนุญาตให้เพื่อนของลูกในเขตบ้านเราทำอย่างนั้น ไม่อนุญาตให้กลับดึก ไม่อนุญาตให้นอนค้าง ไม่อนุญาตให้เข้าเว็บโป๊ เป็นต้น แล้วแต่จะกำหนด ทุกเรื่องมีกติกาบางอย่างอยู่แล้วครับ


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook