เทคนิคแก้ปัญหาหน้าหมองเพราะนอนน้อย ให้กลับมาสดใสอีกครั้ง

สาวๆ ที่ต้องทำงานหนักทุกวันจนกลายเป็นชีวิตประจำวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาจจะต้องเผชิญกับสภาพผิวที่หมองคล้ำ ดูไม่สดใส ตื่นเช้าขึ้นมาก็ต้องเจอกับสภาพโทรมๆ ที่ไม่น่ามองของตัวเอง นานวันเข้ายิ่งทำให้ผิวดูเสื่อมสภาพ กลายเป็นสาวที่ดูแก่ก่อนวัย เพื่อหยุดต้นตอหน้าโทรมในวันที่ชีวิตต้องเหนื่อยล้าแบบนี้ ลองมาดูตัวช่วยดีๆ ที่จะเปลี่ยนคุณให้ดูมีชีวิตชีวา เป็นสาวสวยสดใส บูสพลังผิวอ่อนเยาว์ให้กลับมาใหม่อีกครั้งกันดีกว่าค่ะ

ตื่นเช้าขึ้นมาดื่มน้ำเปล่าทันที                

วางน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องเอาไว้ข้างตัวก่อนเข้านอน เพราะในช่วงเวลากลางคืนที่ต้องนอนดึก ทำให้ร่างกายพักผ่อนได้น้อย การนอนหลับและต้องตื่นมาในตอนเช้าตรู่เพื่อเริ่มต้นการทำงานที่คั่งค้าง ให้จิบน้ำเปล่าเยอะๆ ก่อนลุกจากเตียง ซึ่งมีส่วนช่วยให้สาวๆ กระปรี้กระเปร่า เติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้มากขึ้น จากการที่เซลล์ขาดน้ำในช่วงนอนหลับ และยังเป็นการดีท็อกซ์ผิวแบบง่ายๆ ได้ความสดชื่นเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อยแล้ว

สูตรขัดผิวขาวแล้วตามด้วยมาสก์หน้าก่อนนอน

สาวๆ ที่พอจะมีเวลาตัวเองก่อนเข้านอน แนะนำว่าแต่ละอาทิตย์ควรหาเวลาขัดผิวด้วยสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองบ้าง เพื่อเป็นการช่วยกำจัดเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอก พร้อมช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่ดียิ่งขึ้น จากนั้นก่อนนอนให้มาร์กผิวด้วยสูตรที่เน้นความชุ่มชื้นเพิ่มเข้าไปด้วย จะได้ทำให้ผิวได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ มาสก์ทิ้งไว้สัก 20-30 นาที แล้วค่อยล้างออก รับรองเลยว่าตื่นเช้ามาในวันที่นอนน้อยแค่ไหน ก็ยังดูสวยใสสุขภาพดี ไม่มีหน้าโทรมมาเยือน

ออกกำลังกายเบาๆ ในตอนเช้า

การออกกำลังกายเบาๆ ในช่วงเช้าหลังจากตื่นนอนขึ้นมา อาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับสาวๆ ที่ต้องทำงานหนักแล้วตื่นมาเจอกับสภาพอันเหนื่อยล้า รู้สึกนอนไม่เต็มอิ่ม แต่ถ้าอยากเติมพลังชีวิตให้ตัวเองดูสดใส ลองขยับแขนขาด้วยท่าออกกำลังกายเบาๆ บนที่นอนสัก 10-15 นาที นอกจากจะทำให้ตื่นตัวมากขึ้นแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงเซลล์ผิวตามส่วนต่างๆ ของร่างกายอย่างทั่วถึง ทำให้ใบหน้าดูสดใส ลดปัญหาผิวโทรมลงไปได้มากเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามแม้จะมีวิธีช่วยลดความเสื่อมสภาพของผิวจากการนอนน้อย แต่กระนั้นสาวๆ ก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หันมานอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นสิ่งที่จะตามมาคือปัญหาสุขภาพในระยะยาว ที่บอกได้เลยว่าไม่ใช่แค่ปัญหาผิว แต่จะต้องเจอกับอาการไม่สบายตัว และโรคภัยอีกมากมายจากการไม่ยอมดูแลตัวเอง