วัฒนธรรมการ "ออกเดท" แบบฉบับคนญี่ปุ่น
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/wo/0/ud/27/138385/e.jpgวัฒนธรรมการ "ออกเดท" แบบฉบับคนญี่ปุ่น

    วัฒนธรรมการ "ออกเดท" แบบฉบับคนญี่ปุ่น

    2019-05-26T19:00:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    ญี่ปุ่นเป็นชาติที่ร่ำรวยและโดดเด่นทางด้านวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมด้านอาหาร หรือมารยาทต่าง ๆ ที่มีเอกลักษณ์ และเรื่องการเดทเองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อาจจะต่างกับวัฒนธรรมตะวันตกหรือชาติอื่น ๆ เรามาลองศึกษาวิธีการเดทแบบฉบับคนญี่ปุ่นผ่านมุมมองคนญี่ปุ่นในวัย 20 กันดีกว่า

    การสารภาพรักคือการเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด


    ส่วนใหญ่คู่รักของญี่ปุ่นนั้นก่อนจะออกไปเดทกัน สิ่งสำคัญประการแรกคือการสารภาพรัก เพื่อบอกความรู้สึกของตนเองกับอีกฝ่าย หากอีกฝ่ายมีความรู้สึกเช่นเดียวกันละก็ถึงจะเริ่มออกไปเดทกัน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์

    ที่ญี่ปุ่นมักจะออกไปกินข้าวกลางวันหรือไปคาเฟ่กับเพื่อน ๆ เป็นเรื่องปกติ เพราะฉะนั้นหากไม่สารภาพความรู้สึกไปตรง ๆ ล่ะก็ การออกไปข้างนอกกับคนที่คุณชอบอาจจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาของเพื่อนก็เป็นได้


    คู่รักส่วนใหญ่มักแยกบิล


    เป็นเทรนด์อย่างหนึ่งของวัยรุ่นที่ต่อให้คบกันเป็นคู่รักแล้วก็ตาม เวลาไปทานอาหารก็มักจะจ่ายเงินในส่วนของตัวเอง ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาไม่ป๋านะ แต่เพราะพวกเขาคิดว่ามันแฟร์กว่าหากจะรับผิดชอบส่วนที่ตัวเองกิน และทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เติบโตไปได้อย่างดี แต่ในเทศกาลสำคัญ ๆ อย่างเช่นคริสต์มาส วันเกิดหรือวันครบรอบ ฝ่ายชายก็มักจะเป็นฝ่ายเลี้ยง


    การออกไปข้างนอกด้วยกันในวันหยุดเป็นเรื่องปกติ



    สำหรับฝรั่งเวลาเดทมักจะไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน หรือนั่งดื่มกาแฟ ทานอาหารแบบไว ๆ หรือเดินเล่นเพียงไม่กี่ชั่วโมง แน่นอนว่าชาวญี่ปุ่นก็ทำกิจกรรมเหล่านี้เช่นกัน แต่มักจะใช้เวลาทั้งวันทำกิจกรรมเหล่านี้ร่วมกัน ส่วนใหญ่มักจะนิยมไปเดทกันตามสวนสนุก ช้อปปิ้ง ดูพลุ นั่นเป็นสาเหตุที่ชาวญี่ปุ่นมักแพลนเดทของเขาสำหรับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และมักใช้เวลาไปครึ่งวันหรือทั้งวัน เพราะเพียงมากินข้าวกลางวันร่วมกันมันไม่เพียงพอนั่นเอง


    ไม่นิยมแสดงความรักในที่สาธารณะ


    แน่นอนว่าถ้าเป็นฝรั่งละก็ มันคงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเจอคู่รักกอดหรือจูบกันในพื้นที่สาธารณะ แต่แน่นอนว่าไม่ใช่สำหรับคู่รักชาวญี่ปุ่น เขาอาจจะจับจูงมือกันเท่านั้น เหตุผลในที่นี่อาจแบ่งออกเป็น 2 เหตุผล

    เหตุผลแรก คือ ชาวญี่ปุ่นหวงแหนความเป็นส่วนตัว
    เหตุผลสอง
     คือ เขารู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ควรเคารพคนอื่นในพื้นที่สาธารณะ เพราะการกระทำบางอย่างอาจทำให้คนอื่นรู้สึกอึดอัดนั่นเอง


    ไม่ค่อยบอกรักกัน


    เพราะชาวญี่ปุ่นเป็นพวกขี้อาย และไม่ค่อยชอบที่จะพูดออกมาตรง ๆ ว่า ฉันรักคุณ เพราะพวกเขาเข้าใจมันผ่านการกระทำ ทำให้คำพูดนั้นไม่จำเป็น แน่นอนว่าทุกคนย่อมแตกต่างกัน และปฏิเสธไม่ได้ว่าการไม่แสดงความรักแก่กันอาจทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันระหว่างบางคู่รัก แต่การเข้าใจโดยไม่ต้องพูดนั้นดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในนิสัยประจำชาติญี่ปุ่นไปเสียแล้ว


    ชอบที่จะเดทกันที่บ้าน


    มีคู่รักจำนวนมากที่อยากจะใช้เวลาง่าย ๆ ไปกับคู่รัก นั่นทำให้หลายคู่อาจจะแค่อยากนั่งดูหนัง หรือเล่นเกมส์กันในบ้าน พวกเขาคิดว่าการใช้เวลาร่วมกันเพียงลำพังนั้นคือเรื่องสำคัญ ในทางกลับกันฝรั่งอาจจะนิยมใช้เวลาร่วมกับกลุ่มเพื่อนมากกว่า


    วาเลนไทน์คือวันสำหรับการแสดงความรู้สึกของฝ่ายหญิง


    สำหรับวันวาเลนไทน์ในญี่ปุ่น คือวันที่หญิงสาวมักจะเตรียมช็อกโกแลตสำหรับชายหนุ่มที่พวกเธอหลงรัก และในเดือนถัดมา 14 มี.ค. ที่ญี่ปุ่นจะมีวันที่เรียกว่าไวท์เดย์ เป็นวันสำหรับผู้ชายที่จะมอบของขวัญคืนกลับไปให้แก่ฝ่ายหญิงนั่นเอง


    ส่วนใหญ่มักใช้ชีวิตร่วมกันจริงก่อนแต่งงาน



    ระยะหลังมานี้ ญี่ปุ่นเพิ่มจะนิยมอยู่ร่วมกันก่อนแต่งงานมากขึ้น พวกเขาอาจจะใช้เวลาครึ่งสัปดาห์หรืออยู่ด้วยกันในวันเสาร์-อาทิตย์ แม้พวกเขาจะไม่ได้อาศัยด้วยกันจริง ๆ พวกเขามีความคิดว่าการได้ลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันน่าจะทำให้ชีวิตแต่งงานราบรื่นขึ้น

    การได้พบผู้ปกครองของอีกฝ่ายเท่ากับว่าคุณสามารถเตรียมการ์ดแต่งงานได้เลย



    คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักไม่ได้บอกพ่อแม่เวลาพวกเขาเริ่มเดทกับใคร ไม่ใช่พวกเรารีรอที่จะแนะนำคนรักให้กับครอบครัวนะ แต่ตามธรรมเนียมของญี่ปุ่นแล้วนั้น การแนะนำคนรักให้พ่อแม่ของตัวเองรู้จัก เท่ากับว่าคุณมั่นใจแล้วว่าคนนี้คือคู่ชีวิต คนที่คุณจะแต่งงานด้วยนั่นเอง

    เป็นยังไงธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่น จริง ๆ ก็คล้ายกันกับบ้านเราอยู่เหมือนกันนะ เพราะเราเป็นประเทศเอเชียเฉกเช่นเดียวกัน แต่ถ้าเทียบกับฝรั่งหรือชาวตะวันตกแล้ว น่าจะต่างกันมากโขอยู่เลยล่ะ

    ขอขอบคุณ

    ข้อมูล :tsunagujapan