ฺBe magazine : กันยายน 2555

ฺBe magazine : กันยายน 2555

ฺBe magazine : กันยายน 2555
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

YOUR LIFE CHOICES
เลือกชีวิต... เป็นในแบบคุณ
ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์

จะมีกี่คนที่เข้าใจและพึงพอใจรูปแบบในการดำเนินชีวิตของตนเอง ในสังคมที่มีกรอบ มีขอบเขต ผู้คนต่างเดินตามเส้นทางของคนส่วนมากที่ยังดีกว่าเลือกเส้นทางเดินที่ไม่เคยมีใครเคยก้าว อาจด้วยเหตุผลมากมายเเต่เหตุผลนั้น น่าจะมีคำว่า "ก็คนส่วนใหญ่เขาทำกัน" แต่ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ไม่ได้รู้สึกว่าการเดินตามคนส่วนมากคือคำตอบของการใช้ชีวิตของเขา เขาขอเลือกในสิ่งที่เขาคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เขาอยากทำมากกว่าการฝืนจำทนดำเนินชีวิต ในสิ่งที่เขาไม่ต้องการ แม้ว่าเส้นทางนั้นอาจหมายถึงการล้มลุก เปื้อนฝุ่น แต่มันก็คุ้มค่าพอที่เขาจะเรียกมันว่าชีวิต  ชีวิตที่เขาได้เลือก

 

 

 

มุมมองและทัศนคติในการใช้ชีวิต ซันนี่คิดว่าซันนี่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมในรูปแบบไหนบ้าง

ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมทำหน้าที่ของตัวเอง และก็จิตสำนึกดี

คำว่าจิตสำนึกในที่นี้ ช่วยตีความหมายให้ฟังได้ไหม

เริ่มตั้งแต่จิตใจของตัวเอง โดยไม่ได้คิดในแง่ร้าย ไม่ได้คิดไม่ดีต่อใครและต่ออะไร ไม่ได้จะทำเป็นแผ่นอะไรเพื่อหาประโยชน์ต่อตัวเอง ไม่ได้วางแผนเอาเปรียบคนอื่น จะหลอกคนอื่นเพื่อทำอะไรให้ตัวเองได้ประโยชน์ครับ

ซันนี่คิดว่าคนในสังคมมีรูปแบบการวางแผนชีวิตไว้ทำร้ายกันในสังคมมากน้อยแค่ไหน

จริงๆ อาจจะไม่มีการวางแผนอะไรในรูปแบบของเขาหรอกครับ มันจะมีคนดีอยู่ในสังคม จะมีพวกที่ว่า แค่เรื่องธรรมดาที่แบบว่าอายุเท่านี้ต้องมีอะไร อายุเท่านี้ทำอะไร โตมาต้องมีลูก ต้องมีอะไร ต้องแต่งงานตอนไหน มันเป็นอิทธิพลของสังคมอยู่แล้ว รอบๆ ตัวเหมือนคนส่วนใหญ่เขาเป็นกันอยู่แล้ว ซึ่งไม่รู้ว่าใครปลูกฝัง

ซันนี่คิดว่าซันนี่ใช้ชีวิตเป็นแบบแผนนั้นไหม

ไม่ครับผม ผมรู้สึกว่าถ้าผมรู้สึกก่อนผมจึงจะทำ ถ้าใครบอกแล้วทำเลย ผมต้องรู้สึกว่าผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เหรอ

อะไรที่ทำให้ซันนี่ถูกปลูกฝังมาว่าต้องรู้สึกก่อนจึงจะทำอย่างนี้ครับ การเลี้ยงดู หรือซันนี่ใช้ชีวิตการทำอะไรมาตั้งแต่เด็กๆ

ผมก็ไม่แน่ใจ มันก็มีการคุยกับตัวเองว่า เวลาผมเห็นสมัยก่อนเวลาคนมีเรื่องมีปัญหาอะไร ชอบมาฟูมฟาย ชอบมาพูดนู่นพูดนี่พูดนั่น แล้วเหมือนมันเป็นแพทเทิร์นเดียวกัน อกหักต้องทำอย่างไร อะไรต้องทำอย่างไร ผมรู้สึกว่าผมคิดถึงตัวเอง ผมไม่เห็นรู้สึกอย่างนั้นแล้วทำไมผมต้องทำ อกหักเหรอผมไม่เห็นจะเฮิร์ทเลยแล้วทำไมผมต้องมานั่งกินเหล้าต้องมานั่งโวยวายบอกให้ใครฟังว่ามีปัญหาชีวิต ผมไม่รู้สึกว่ามีปัญหาชีวิต

คุณว่าพวกเอ็นเตอร์เทนเมนท์ พวกละคร หนัง เพลง มีอิทธิพลต่อชีวิตเขาแบบไหน

ถ้ามันเยอะแล้วมันทำเหมือนกันหมด ถ้าคนไม่ได้คิดอะไรเลยก็รู้สึกว่าคนส่วนใหญ่เขาเป็นอย่างนี้กันจริงๆ เหรอ คือจริงๆ ทุกอย่างมันมีอิทธิพลต่อตัวเองอยู่แล้วว่าเราจะรับอะไร รับส่วนไหน มันขึ้นอยู่กับความชอบ ถ้าเขาชอบจริงๆ แล้วชอบส่วนไหน สมมุติชอบวงๆ หนึ่ง แล้วไปเลียนแบบมาหรืออะไรก็ขึ้นอยู่กับเขา อยากทำตัวแบบนั้นมันแล้วแต่เขาชอบ



บอกชีวิตในมุมมองของความเป็นผู้ชาย ในทัศนคติของซันนี่ว่าผู้ชายแบบไหนต้องเป็นผู้ชาย

คือผมไม่ได้จำกัดอย่างนั้น จะทำอะไรก็ได้ ผมรู้สึกว่าถ้าเป็นผู้ชายก็ตามธรรมชาติมันเป็นแบบเดียว มันเป็นผู้ชายก็เป็นแบบคล้ายๆ กันหมด เหมือนผู้หญิงก็เป็นแบบเดียวกันในการที่คิดคนละแบบกับผู้ชาย ไม่เข้าใจกัน สไตล์เดียวกันหมดไม่ว่าจะเป็นใคร เหมือนแมวเวลาที่หันมันหันเหมือนกันหมด

คุณว่าความเป็นผู้ชายกับความเป็นผู้หญิงมันเป็นรูปแบบที่แตกต่างกันหรือไม่

ใช่ครับ มันเป็นเหมือนสองสิ่งที่คิดไม่เหมือนกัน โดยแปลกประหลาด แล้วความฮาคือเขาจับมาให้คู่กัน ให้มาอยู่ด้วยกัน จริงๆ มันอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่จับให้มันมาคู่กันและมาทดสอบว่ามันอยู่ด้วยกันอย่างไร

มุมมองเรื่องผู้หญิงในความคิดของซันนี่ มองผู้หญิงยังไง มีความต่างเรื่องไหนบ้าง ที่ซันนี่มักจะศึกษาพฤติกรรมผู้หญิงฮาๆ

จริงๆ ผมก็ไม่ได้ศึกษาหรอกครับ จริงๆ มันก็ไม่ได้ฮา ไม่คิดว่าตัวเองผิด เขารู้สึกอย่างนี้ มีเหตุผลในทุกอย่างของตัวเอง ทุกการกระทำของตัวเอง

บางทีมีเหตุผลมารองรับทุกการกระทำทุกอย่างใช่ไหม

ใช่ๆ ทุกการกระทำ จริงๆ ผู้ชายเป็นอย่างนั้นนะ แต่ผมรู้สึกว่า คือถ้ามีผิด ชอบ ชั่ว ดี ในการที่จะตัดสินใจว่าตัวเองจะไม่ทำสิ่งนั้น ไม่ล้ำเส้นไปมากกว่า

ซันนี่คิดว่าผู้หญิงเข้าใจยาก แต่ไม่สามารถเข้าใจได้เลยต่างหาก เป็นอย่างนั้นเลยใช่ไหม

จริงๆ ไม่ใช่ ไม่สามารถเข้าใจได้ จริงๆ ผู้ชายสามารถเข้าใจได้ในระดับหนึ่งแล้วนะ ในการที่เขาไม่พูดอะไร คือเข้าใจแล้วนะ จะมาเถียงกันเรื่องเดิมๆ เหรอ คือรู้อยู่แล้วนะ คุณก็รู้อยู่แล้ว แล้วจะให้ผมมานั่งพูดเรื่องนี้ทำไมอีก จะเป็นแบบนั้น คือไม่พูดดีกว่า

ความรักในมุมมองของซันนี่คือรู้สึกอย่างไรบ้าง

ก็ดีนะ สวยงาม เวลาใครรู้สึกอยากทำอะไรให้ใคร หรือว่ารู้สึกดีต่อใครก็เป็นเรื่องที่ดี

อะไรคือเสน่ห์ในการใช้ชีวิตของคุณ

ไม่รู้เลยครับ ใช่ ชีวิตก็มีเสน่ห์ มีกิมมิคอย่างนี้แหละครับ

มันทำให้คุณรู้สึกว่า ชอบชีวิตอย่างนี้จังเลย

ไม่รู้ ก็ผมชอบชีวิตอย่างที่ทำ ไม่ว่าจะเศร้า จะสุข จะทุกข์ ผมชอบมันหมดไม่ว่าจะอะไรก็ตาม จะมีปัญหาอะไรผมชอบที่จะแก้ปัญหา ผมไม่ชอบมานั่งคิดว่าจะต้องมานั่งแก้ปัญหาอะไรที่เครียด ผมไม่เครียด ผมชอบแบบนี้



วิธีการจัดการตัวเอง คือการไม่เอาตัวเองไปอยู่ในปัญหาอะไรพวกนี้ หรือว่าอย่างไร

เปล่าๆ คือมาเลยครับ แต่ทุกอย่างมันไม่ใช่ว่าจะไปแก้ได้เลย คือปัญหาทุกอย่างถ้ามันเกิดกับตัวเองตัดใจตัวเรามันแก้ได้ แต่ถ้าตัดใจจากคนรอบข้าง เราบังคับไม่ได้ สิ่งที่ต้องทำก็คือ ตั้งใจแล้วทำ มันต้องใช้เวลา ทุกสิ่งทุกอย่าง 10 ปีถึงจะแก้ได้ก็มี

คิดว่าตัวเองต้องการความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน ความสำเร็จเป็นความจำเป็นของซันนี่ไหม

ผมรู้สึกว่า ผมเกิดมาใช้ชีวิต ผมอยากทำอะไรและก็ใช้ชีวิต แต่ว่ามันมีสิ่งหนึ่งขึ้นมาคือ ผมไม่เคยรู้จักและรักสิ่งไหนมาก่อนเลยในชีวิต จนมาเจอการแสดง ผมรู้สึกว่าอยากทำสิ่งนี้ ผมเห็นคุณค่าของอาชีพ ผมรักที่จะตื่นมาทำทุกวัน รักที่จะตื่นมาทำสิ่งนี้ คือสิ่งที่รัก เหมือนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระองค์ทรงทำเพื่อพสกนิกรชาวไทย พระองค์ไม่ทรงเหน็ดเหนื่อย เพราะพระองค์รักพสกนิกร ผมก็ไม่เคยเหนื่อยเลย แบบเฮ้ย! ขี้เกียจออกกองจัง อะไรแบบนั้น

ระหว่าง ‘การใช้จินตนาการ' กับ ‘การใฝ่หาความรู้' ซันนี่ให้ความสำคัญกับสิ่งไหนมากกว่ากัน เหมือนที่ไอน์สไตน์บอกว่า "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้"

จริงหรือครับ ผมไม่รู้ว่าเขาพูดคำนี้หรือผมเชย จริงๆ มัน ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่ผมชอบคิดเองมากกว่า เหมือนกับว่าถ้ามีคนอยากทำอะไรเป็น ผมไม่อยากจะไปเรียนรู้ ไม่อยากให้ใครมาสอน ผมอยากจะเรียนเอง ผมอยากจะเป็นด้วยตัวเอง พิสูจน์ด้วยตัวเอง เหมือนการเล่นกีต้าร์ ผมไม่อยากให้ใครมาสอนผม ผมอยากจะทำเอง ไม่อยากเสียตังค์อะไรแบบนี้ ผมอยากทำเอง ผมรู้สึกว่าคนแรกยังทำได้เลย เขาเก่งกว่าอีก เขาต่อกีต้าร์ขึ้นมานะ ไล่เสียงมาเองเลยอย่างนี้ อยากทำเองมากกว่า

ตอนนี้ดนตรีมีผล มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตคุณมากน้อยแค่ไหน

ตอนนี้ก็แค่ฟัง แค่เล่นๆ มันเล่นแล้วสนุก มันไม่ได้รัก คือสมัยก่อนเราเล่น คือลองทำนู่น ทำนี่ไปเรื่อยๆ ต่อมาเราก็เริ่มรู้สึกว่าเราไม่ได้รักมันขนาดนั้น เราไม่ได้อยากทำมันให้ดีที่สุด เราก็แค่เล่นสนุกๆ มันไม่เหมือนกับการแสดงซึ่งเราก็ทำอย่างนี้ เราไม่เคยค้นพบ จนมาเจอกับสิ่งนี้

ถ้ายังไม่ได้ค้นพบการแสดง ตอนนี้คุณจะทำอะไรอยู่ครับ

ก็คงจะยังไม่ได้ทำอะไรที่ตัวเองรู้สึกถึงคุณค่าของมัน ก็คือใช้ชีวิต เพราะหลักๆ แล้วที่ผมอยู่ก็คือการใช้ชีวิต การทำอะไรในสิ่งที่เราอยากทำ

การใช้ชีวิตของคุณเป็นอย่างไร

ไปนู่น ไปนี่ เที่ยวเล่น อยู่โน่น อยู่นี่กับเพื่อน ไม่ค่อยมีการโฟกัสเรื่องหาเงิน



ถ้าไม่ใช่การแสดงคุณก็ไม่รู้ว่าจะทำอาชีพอะไรเหมือนกันใช่ไหม

ใช่ เพราะรู้สึกว่าตอนที่เรียนผมทำงานกับคนเยอะๆ ไม่ได้ ตอนเรียน เวลาผมนั่งทำงานกลุ่ม ผมทำไม่ได้ เวลาผมคิดอยากจะทำอะไร ผมทำไม่ได้ แล้วมานั่งคิดงานกลุ่มว่าอันไหนดี คนอื่นไม่เห็นคิดอย่างผมเลย ผมรู้สึกว่าขี้เกียจจะพูดแล้วด้วยซ้ำ ผมก็จะนั่งอยู่ในกลุ่มเขาเฉยๆ ให้คนเขาด่าไปว่าไม่เห็นทำไรเลย

อย่างนี้แปลว่าเราไม่สามัคคีหรือเปล่า หรือไม่เกี่ยว หรือไม่ใช่คำนี้

ไม่เชิงหรอกครับ สมมุติว่ามันเป็นผลงานของเรา เราไม่อยากเล่าเรื่องนี้ ส่วนมากผมจะมานั่งคุยกันว่า ก็ไม่อยากบอกอย่างนี้ นั่นคือความต้องการของคนในกลุ่ม

แสดงว่าความต้องการของคนในกลุ่มไม่ได้มีความเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้วใช่ไหม

จริงๆ มันก็มี แต่ผมไม่ได้เห็นแบบนั้น คนในหมู่มากมองเห็นแต่ผมไม่ค่อยเห็น ว่ามันดีหรือว่าอะไร เหมือนเป็นแพท เทิร์นว่าทำอย่างนี้เพื่อเอาใจ เพื่อต้องการอะไร อยากให้อะไร ไม่มีอะไร แค่ทำให้มันถูกต้อง ถูกครรลองครองธรรมไป ไม่ได้มีอะไรใหม่เกิดขึ้น ไม่ได้มีสิ่งอะไรที่มันแปลกใหม่ ก็แค่เหมือนหนังสือ เป็นสิ่งที่อยู่ในหนังสือ

ซันนี่คิดว่าการเดินทางของผู้ชายมีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน การเดินทางเช่นเที่ยว ไปต่างประเทศหรือว่าการไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือว่าการไปใช้ชีวิต ซันนี่คิดว่ามันทำให้เราโลกกว้างมากขึ้นไหม

คืออันนี้ผมไม่รู้ ผมก็แค่อยากไปเฉยๆ แต่จริงๆ คนเรามันโตขึ้นในทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างบางทีเราเจอกัน เราโตขึ้นในแง่ของความคิด หรือเจอสิ่งใหม่ ทำให้เราเข้าใจได้มากขึ้น คือโตขึ้น ก็เป็นอยู่แล้วคือทุกอย่าง

ก่อนหน้านี้ซันนี่คิดเห็นอย่างนี้ไหม ก่อนหน้าที่จะมาทำงานตรงนี้

ก็มีเด็กๆ โตมาก็เป็นอย่างนี้แหละครับ ก็เคยเจอคนบอกว่าก็อย่างนี้ มันเป็นอย่างนี้ โตมาต้องเป็นอย่างนี้นะ หรือตอนเรียนคนก็บอกว่า คนก็เป็นอย่างนี้ เราก็กลัวผิดไง จริงๆ เราก็ถามตัวเองเหมือนนั่งอยู่กับมันจนชิน เราเลยไม่รู้ว่ามันคืออะไร อันไหนผิด อันไหนเป็นอะไร ให้คนเขาอยู่กันอย่างนี้ เราเดินออกมาห่างๆ มันอยู่ใกล้ตาจนเราไม่รู้ ชินนะ เรื่องที่ไม่ถูกต้องเราก็ชิน เราก็เห็นว่ามันถูกต้อง

ถ้าให้ซันนี่วิพากษ์สังคม ซันนี่คิดว่าซันนี่เห็นเรื่องอะไร

เยอะเลยนะ ความไม่ยุติธรรม ทำให้เป็นเรื่องยุติธรรม รับไม่ได้ คือสิ่งที่อย่ามาใช้ประชาธิปไตยหรือพลังคน อย่ามาอ้าง บางทีเจตนาคุณรู้หรือเปล่า เจตนาคืออะไร รู้เหรอ ความต้องการของตัวเองคืออะไร หรือว่าจริงๆ แล้วมันคือคนกลุ่มหนึ่งที่อยากได้ผลประโยชน์ หรืออยากจะได้อะไรที่มันไม่ใช่ของตัวเอง อยากจะมีอำนาจในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แล้วมาพูด มาทำให้คนคล้อยตาม สุดท้ายแล้วก็เป็นแค่คนสนับสนุนเขา ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา และผมก็เชื่อในเจตนาที่คนจะทำอะไรเพื่อประเทศ ทำอะไรเพื่อสังคม



เพราะว่าอะไร ทำไมคุณถึงรู้สึกว่าไม่เชื่อ ก็ไม่เชื่อ ก็สิ่งที่เห็น และการกระทำ

ถ้าสมมุติคนๆ หนึ่งมีกลุ่ม

มันก็ไม่ได้อยากแก่งแย่งอะไรกันขนาดนี้หรอกครับ ถ้าคนเขามีใจ ผมเห็นคนที่คอยทำเพื่อคนอื่น คุณครูตามดอย คนอย่างนี้น่ายกย่องกว่าตั้งเยอะ ไม่ต้องไปนั่งใส่สูทแล้วพูดจากวนตีน แต่ก็ต้องมีคนไปบอกว่าพวกท่าน พูดจาก็ไม่ได้เรื่องเลย แล้วก็ทำอะไรหน้าด้านด้วย ความหน้าด้านนี้เหมือนกงจักรเป็นดอกบัว หน้าด้านมาก ซึ่งผมไม่เชื่อ ผมว่าอย่างนี้ดูไม่มีเกียรติมากกว่าคุณครูที่เขาทำเพื่อเด็กๆ นะ

ซันนี่คิดว่า โชคชะตามีส่วนกำหนดความสำเร็จของมนุษย์ไหม

ชีวิตผมโชคชะตาล้วนๆ เลยครับ สัญชาตญาณผสมโชคชะตา เชื่อใน Destiny มากกว่า ผมจะชอบในความรู้สึกทุกครั้งไม่รู้เป็นอะไร ผมรู้สึกว่าเวลาเราจะทำอะไรสักอย่าง มันจะมีความรู้สึกว่าเราจะต้องมีอะไรดีกว่านี้ มันจะรู้สึกได้ว่าเรารอด เราไม่ตายหรอก

เพราะว่ารักในสิ่งที่ตัวเองทำหรือเปล่าเลยมีความรู้สึกเชื่อ

ไม่ แต่ก่อนหน้านั้นก็ไม่รู้สึกหรอกว่า เหมือนจบไปเราต้องทำอะไรสักอย่าง เรียนจบทำอะไรดี มันต้องมีอะไรสักอย่างสำหรับเรา อันนี้เหมาะ อันนี้ไม่ใช่

คุณคิดว่ามันจะมีวิธีคิดแบบไหนที่ทำให้เราหลุดออกมาจากนอกกรอบพวกนี้ สมมุติเราเรียนนะ เกิดมาเรียนสอบเข้ามหาวิทยาลัย

คือรู้สึกว่าถ้าเรียน เรียนให้ฉลาดไม่ได้ เรียนให้เป็นคนเรียนเก่งเฉยๆ เรียนเก่งไม่ได้หมายความว่าฉลาดทุกคน เรียนให้ฉลาด เรียนให้รู้ว่าอะไรคืออะไร มองว่าอะไรคืออะไร วิจารณญาณของเราสำคัญมากกว่าอีก ถ้าอยากแยกออกมาผมรู้สึกว่าต้องคุยกับตัวเอง ถามก่อนว่าเรารู้สึกจริงเหรอ เรามีเรื่อง เราเครียดกับเรื่องนั้นจริงๆ เหรอ แค่นั้นเหรอ ทนกับเรื่องนี้ไม่ได้เหรอ เพราะบางทีเราเป็นเยอะแยะที่เราไม่ได้รู้สึกแบบนั้น แต่ต้องทำให้เป็นแบบนั้น

เห็นด้วยที่มีคนที่ไม่รู้สึกอะไรแต่ต้องทำแบบนั้น

ก็ทำตามเหมือนเป็นสูตร (เหมือนพวกมากลากไป) ก็อะไรอย่างนั้น

7 เรื่องดีๆ ของชีวิตคุณมีอะไรบ้าง

เรื่องครอบครัว ขาดไม่ได้ ถ้าขาดไปผมไม่รู้จะทำยังไง ถ้าขาดไปเป็นปัญหาที่หนักที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยเจอ แล้วตอนนี้ครอบครัวกำลังดีๆ อยู่ สองก็ไม่รู้ การแสดงมั้ง เหมือนเราเจอคุณค่าในสิ่งที่รัก อะไรแบบนี้ ถ้าไม่เจอสิ่งนี้ผมก็ไม่มีอะไรที่ทำให้มีความสุข ไม่รักในสายอาชีพ ส่วนสาม นั่นสิ ไม่ค่อยรู้อะไร



ชีวิตตัวเองหมายถึง เป็นเรื่องที่ดีไหมที่มีชีวิตแบบนี้ ต่อเนื่องมาจากงาน

ก็ชีวิตเรามันก็ต้องดีอยู่แล้ว ผมไม่คิดที่อยากจะเปลี่ยนอะไรสักนิดเลย สิ่งที่ทำแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นกับเราผมก็ไม่อยากเปลี่ยนอะไร

คุณเคยดูเรื่อง Butterfly Effect ที่มันบอกว่ากลับไปเปลื่ยนอดีตก็เท่ากับเปลี่ยนอนาคตไปด้วย

ผมไม่อยากจะเปลี่ยนเลย ผมรู้สึกว่าอย่างนี้

จริงๆ มันมีอยู่ในคำถามด้วยนะ ว่าอะไรที่คุณทำแล้วมันมาเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณมากที่สุด

นั่นสิ... เลิกดมกาวแหละ (หัวเราะ) ล้อเล่น ไม่รู้เหมือนกัน

คุณมีวิธีจัดการกับความสำเร็จอย่างไรบ้าง ชื่อเสียงที่เข้ามา แล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไป

จริงๆ ผมไม่ได้มองเป็นความสำเร็จ เราแค่อยากทำในสิ่งที่เราอยากทำ มันเป็นสิ่งที่เราเป็น คนมองอีกว่าแบบนี้คืออะไร หรือคนมองเป็นสิบล้าน แบบนี้คือความสำเร็จ หรือมีอะไรเป็นชื่อเสียง ผมอยากทำจริง ผมอยากทำอย่างนั้นมากกว่า ไม่ได้มองความสำเร็จ ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ

แล้วอุปสรรคมีไหม มีวิธีจัดการกับอุปสรรคอย่างไร

สู้ครับ สู้อย่างเดียว

ดูคุณเป็นคนที่ไม่ปฎิเสธปัญหา ลุยเข้ามาเลย เพราะว่าอะไรคุณถึงกล้าสู้

บางทีคิด บางทีอยากทำงาน เขารำคาญไปไกลๆ ก็นั่งเฉยๆ ไม่เคยหนีครับ

แล้วปัญหาที่คุณรู้สึกรำคาญ แล้วอยากหนี

ไม่หนีครับ เอาให้ได้ เถียงเอาให้ได้ ถ้าไม่จบก็เอาให้ได้ บางทีขี้เกียจก็นั่งรอเฉยๆ รอให้เวลาผ่านไป

คุณเป็นคนที่หงุดหงิดหรืออารมณ์เสียกับเรื่องอะไรมากที่สุด

ผมนิสัยไม่ดีครับ ขี้หงุดหงิดกับทุกอย่างอยู่แล้ว ขี้โวยวาย ชอบพูดจาไม่ดีออกมา เอาแต่ใจ

พูดไม่ดี พูดประชดประชันไหม

ใช่ๆ บางครั้งแบบห้ามไม่ได้ด้วยนะ

ทำไมผู้ชายชอบประชดประชัน

ไม่เชิงประชดประชัน แต่ว่าบางครั้งชอบพูดอะไรไม่ดีออกมา ยิ่งกับคนที่บ้าน กับครอบครัว ชอบพูดอะไรอย่างนี้



เรามักจะพูดจาทำร้ายคนใกล้ตัวเรามากที่สุดใช่ไหม

ใช่ๆ เราชอบพูดอะไรประมาณนั้น เหมือนมันฝังอยู่ในตัว ฝังอยู่โดยที่เราไม่รู้ พอทำแล้วเพิ่งรู้สึกผิด

แต่ในขณะที่เราเกรงใจคนอื่นนอกบ้านเต็มไปหมด

ใช่ๆ กับเพื่อน กับอะไรเราเกรงใจจัง คนอื่นเราเกรงใจไปหมด แต่ที่บ้านเราใส่เต็ม

ถ้าคุณอยากจะขอบคุณใครสักคนหนึ่ง คุณจะขอบใจใคร

ครอบครัวทั้งหมดเลยครับ

ดูคุณเป็นคนรักครอบครัวนะ

พยายามอยู่ครับ นิสัยไม่ดีมาเยอะเลยครับ พยายามเป็นคนดี

กลับมาที่ 7 เรื่องรู้สึกดี ถ้าถามเจาะไปที่ครอบครัว 7 เรื่องดีๆ ที่ครอบครัวทำให้คุณ หรือว่าอะไรอย่างนี้มีไหม

จริงๆ ไม่รู้ ก็ดีหมดทุกอย่างสิ่งที่เขาทำ เรื่องที่จะเถียงกัน เอาแต่ใจ หรือไม่แสดงความรู้สึกกันก็เป็นสิ่งที่ดี

คุณมีปัญหาอะไรมากที่สุดในครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่

ไม่เชิงมีปัญหาหรอกครับ ก็กับแม่นี่แหละ ชอบมีปัญหา แม่จะชอบมีเรื่องอะไร ฮาๆ มาตลอด

หรือ 7 เรื่องที่แม่คุณทำให้คุณ ฮาที่สุดอะไรอย่างนี้ ขอสัก สอง สามเรื่องก็ได้

ครับเขาฮาตลอดอยู่แล้ว อยู่ดีๆ แบบหลับอยู่ อยากจะทำข้าวตอนเช้ามาให้กิน ทำมาให้เรียบร้อย ถือมาวาง กินสิกิน ไม่เดี๋ยวจะนอนก่อน กินเลย กินเลย เดี๋ยวมันเย็น ถ้าหลับอยู่นะจะใส่ปากมาเลย เข้าใจไหม แม่ก็งอนเลย อุตส่าห์ลุกขึ้นมาทำ (หัวเราะ) คือตัวเองอยากทำ เราจะสนองความต้องการตัวเองใช่ไหม แต่ตัวเองต้องคิดว่านี่คืออะไร แล้วถ้าเขาไม่หิวแม่ผมจะเป็นอย่างนี้ อีกอันหนึ่งรู้สึกว่าแม่จะรักพี่ชายมากกว่า ชอบเสียความรู้สึก (ทำไมๆ) ไม่ ผมพูดเล่น ผมรู้สึกว่าพี่ชายเป็นลูกรัก แซวตลอด เพราะมันมีเหตุการณ์หนึ่ง (ฮา) ผมกลับบ้านมาดึกๆ หิวครับ หิวมาก เปิดมาในห้องแม่ มันจะมีถุงเบอร์เกอร์วางอยู่ชิ้นหนึ่ง หลับกันหมดนะ หลับกันหมดทั้งห้อง ก็ค่อยๆ เดินย่องเข้าไป พอจะหยิบเบอร์เกอร์ เสียงถุงมันดัง แกร๊ป แม่บิดขึ้นมาเลย อันนั้นของพี่ชาย นั่น! แบบรู้ได้ไงว่าผมเข้ามาแล้วจะหยิบ แล้วรอที่จะขึ้นมาบอก ถ้าผมไม่ได้กิน แล้วถ้าผมไม่มีกิน (นี่คุณฝังใจใช่ไหมครับ) ป่าวผมพูดเล่นๆ ครับ ไม่ได้ฝังใจหรอก

สุดท้ายแล้ว อยากให้ซันนี่ช่วยอธิบายเวลาให้ฟังหน่อยว่า ซันนี่มองเวลาเป็นอะไรบ้าง หมายถึงนิยามของเวลาของซันนี่ นาฬิกา เข็มสั้น เข็มวินาที เข็มชั่วโมง เปรียบตัวเองเหมือนเข็มอะไร

ไม่รู้ครับ บางทีผมไม่สนใจเลยครับ บางทีคนบอกว่าเหลือเวลาแค่นี้ต้องรีบทำชีวิต ใช้เลย ผมก็ทำไปเรื่อยตลอด ผมไม่มีการเร่งรีบอยากทำอะไร ครั้งหนึ่งในชีวิตไปร้านเสริมสวย ความรู้สึกใช่ชีวิตนะครับ อยากทำอะไรก็ทำเช่นพรุ่งนี้ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น ทำวันนี้ให้เต็มที่

ตายก็ตายครับ ผมก็ไม่รู้ว่าความตายเป็นอย่างไร ผมก็ไม่ได้เสียดายชีวิต คงไม่มีวิญญาณลอยมาแล้วบอกว่าเสียดายจังเลยที่ไม่ได้ทำสิ่งนี้ ผ่านไป 40 วันเอง ผมได้ทำในสิ่งที่ผมอยากทำแล้วทำตลอด คือผมไม่ได้ทำอะไรโดยที่ผมไม่อยากทำ ไม่ว่าจะทำอะไร แค่เดินไปผมก็อยากทำตลอด

เหมือนกับว่าถ้าคุณได้ทำในสิ่งที่อยากทำคุณก็ไม่ต้องเสียดายอะไรแล้ว เพราะคุณได้ทำในสิ่งที่อยากทำแล้ว

ครับผม ไม่ครับผมก็ไม่รู้จะเสียดายอะไรก็ทำครับทำเรื่อยๆ ยกเว้นว่าอยากดูภาพยนตร์ของตัวเอง ยังไม่ออกก็ดันตายก่อน รู้สึกเสียดายแบบนิดๆ ไปไม่ได้เพราะวิญญาณผมไม่อยู่อะไรแบบนี้

Quote 1

"ผมก็ไม่รู้ว่าความตายเป็นอย่างไร ผมก็ไม่ได้เสียดายชีวิต คงไม่มีวิญญาณลอยมาแล้วบอกว่าเสียดายจังเลยที่ไม่ได้ทำสิ่งนี้ ผ่านไป 40 วันเอง ผมได้ทำในสิ่งที่ผมอยากทำแล้วทำตลอด คือผมไม่ได้ทำอะไรโดยที่ผมไม่อยากทำ ไม่ว่าจะทำอะไร แค่เดินไปผมก็อยากทำตลอด"

Quote 2

"ผมเห็นคุณค่าของอาชีพ ผมรักที่จะตื่นมาทำทุกวัน รักที่จะตื่นมาทำสิ่งนี้ คือ..."

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook