5 วิธี ลดสิว ผิวเย็น หน้าไม่มัน รับลมร้อน

5 วิธี ลดสิว ผิวเย็น หน้าไม่มัน รับลมร้อน

5 วิธี ลดสิว ผิวเย็น หน้าไม่มัน รับลมร้อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ฤดูร้อน" อาจเป็นฤดูโปรดของ สาวๆ โดยเฉพาะสาวๆที่อยากอวดผิวสวย แต่ฤดูร้อนกลับเป็น "ฤดูกาลที่น่ากังวัลใจของสาวๆที่มีปัญหาสิว" เพราะฤดูร้อนมาเยือนทีไร อาการสิวผุด สิวเห่อ และอาการแสบผิวจากแสงแดดแผดเผา รวมถึงหน้ามันเยิ้มถาโถมเข้ามาทันที

เคยสงสัยบ้างหรือไม่ว่า ทำไม "ฤดูร้อน" ถึงเป็นสิวได้ง่ายกว่าฤดูอื่นๆ  สาเหตุสำคัญ คือ เป็นฤดูที่ ฟ้าโปร่ง ทำให้แสงหรือรังสีตกลงมาด้วยความเข้มข้นที่มากกว่า นอกจากนั้นอากาศที่ร้อนยังทำให้ผิวสูญเสียน้ำจากการขับเหงื่อออกมามากเพื่อลดอุณหภูมิและปกป้องผิว ส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมาหล่อเลี้ยงผิวมากขึ้น เพื่อต้องการรักษาความชุ่มชื้นของผิวและลดการระเหยของน้ำ

เมื่อผิวมีการขับน้ำมันออกมามาก จึงกลายเป็นน้ำมันส่วนเกินทำให้ผิวหน้ามัน ประกอบกับสิ่งสกปรก หรือเกสรดอกไม้ในฤดูร้อนหรือสิ่งระคายเคืองอื่น ๆ ที่ตกลงมาที่ จึงเกิดเป็นวงจรสิว ทั้ง สิวอุดตัน ผื่นจากการแพ้ระคายเคือง หรือสิวชนิดอื่น ๆ ตามมา จึงทำให้เกิดสิวอักเสบเห่อเต็มหน้าได้ง่ายกว่าฤดูกาลอื่นๆ

ปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดจากฤดูกาลที่เปลี่ยนไปทำให้โอกาสในการเกิดการแพ้ระคายเคืองและการเกิดสิวในแต่ละบุคคล สำหรับแต่ละฤดูกาลแตกต่างกัน นอกจากนั้นสาเหตุของการเกิดสิวอื่น ๆ เช่น การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การพักผ่อน ความเครียด ฮอร์โมน ผลิตภัณฑ์ที่ต้องสัมผัสกับผิวหนัง ยา และเครื่องสำอาง ก็เป็นส่วนสำคัญในการเกิดสิวด้วย ความเข้าใจเรื่องสาเหตุการเกิดสิวในฤดูร้อนร่วมกับการปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องจะลดปัญหาเรื่องสิวในฤดูร้อนนี้ลงได้

แต่เมื่อ ฤดูร้อน มาถึง กิจกรรมกลางแจ้งสำหรับฤดูร้อนก็มาเต็ม การหลีกเลี่ยงแสงแดดตลอดเวลาของวัยรุ่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นเรามาดูเคล็ดลับ 5 วิธี “ ลดสิว ผิวเย็น หน้าไม่มัน” กันดีกว่าว่าเราจะทำอย่างไรเมื่อเราต้องอยู่กลางแจ้ง และต้องออกมาทำกิจกรรมสนุกๆ ท้าลมร้อนกัน

วิธี "ลดสิว" ข้อที่หนึ่ง "สวมใส่สิ่งกำบังใบหน้า"


แสงแดดจัดและความร้อนในฤดูร้อน แผดเผาเราอย่างแรงเมื่อเราต้องออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้งนาน ๆ การลดทอนทั้งแสงแดดและความร้อนที่กระทบลงผิวเป็นเรื่องที่จะช่วยเรื่องสิวบนใบหน้าได้อย่างดี วิธีง่าย ๆ ที่ได้ผลดีมากคือหาการใช้วัสดุกำบังแสง ความร้อน และลม โดยปรกติสิ่งกำบังที่ใช้กันทั่วไปคือ หมวก ผ้า ร่ม ซึ่งเราสามารถเลือกทั้งชนิดทอถี่หรือทอห่างหรือชนิดเคลือบสารกันรังสี ซึ่งการลดทอนความร้อนและแสงนี้เป็นการช่วยลดการที่ผิวถูกทำร้าย ลดการหลังน้ำมันบนผิว ซึ่งวิธีที่ 1 นี้เป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุดและง่ายที่สุด

วิธี “ลดสิว” ข้อที่สอง ล้างหน้าให้สะอาด


ควรล้างหน้าให้สะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่ทำร้ายผิว หรือผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผิวเป็นสิว วันละ 2ครั้งตอนเช้าและเย็น เนื่องจากล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดธรรมดาทั่วไปอาจไม่สามารถขจัดสิ่งสกปรกจากมลภาวะ เครื่องสำอาง และครีมกันแดด ที่ตกค้างในรูขุมขนออกได้อย่างหมดจด หลังล้างหน้าควรซับหน้าเบาๆ ให้แห้ง ด้วยผ้าสะอาด   

ในช่วงที่อากาศร้อนระอุ และมลภาวะเยอะเช่นนี้ อาจมีบางคนเข้าใจว่าการล้างหน้าบ่อยๆจะช่วยทำให้ผิวหน้าสะอาดขึ้น แท้ที่จริงแล้วเป็นการเข้าใจผิด เนื่องจากการล้างหน้าบ่อยจนเกินไปจะทำให้หน้าแห้งตึง และเป็นการกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาหล่อเลี้ยงผิวหน้ามากเกินไป ฉะนั้นล้างหน้าให้ถูกวิธีวันละ 2 ครั้งเช้าและเย็นก็เพียงพอแล้วสำหรับกิจวัตรประจำวันปรกติ

วิธี "ลดสิว" ข้อที่สาม เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวหน้าและฤดูกาล

ในช่วงหน้าร้อนหากใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า “ชนิดครีม” แล้วรู้สึกผิวหน้ามันเยิ้ม ควรเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชนิด "เจล หรือ โลชั่น" แทน เนื่องจากโดยทั่วไปแล้ว เจล หรือ โลชั่น จะมีเนื้อที่เป็นส่วนประกอบของน้ำมากกว่าน้ำมัน ทำให้มีความรู้สึกบางเบา ไม่เหนอะหนะ ไม่เพิ่มน้ำมันบนใบหน้า

นอกจากนั้นกรณีผิวถูกทำร้ายจากแสงแดดจนรู้สึกได้ให้เลือกใช้ "เจลว่านหางจระเข้" ช่วยลดอาการแสบร้อนและบำรุงผิว และหากเป็นสิวเคล็ดลับในการลดสิวคือสามารถใช้สเปรย์สิวสำหรับผิวหน้าโดยเฉพาะสเปรย์ที่ดูแลเรื่องสิว สเปรย์ให้ทั่วใบหน้าก่อนการลงสกินแคร์และการแต่งหน้าจะช่วยให้ลดการเกิดสิวอุดตันและช่วยลดสิวอักเสบจากเครื่องสำอางได้

วิธี "ลดสิว" ข้อที่สี่ เลือกผลิตภัณฑ์ "กันแดด" แบบ "สะท้อนรังสียูวี"


สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือต้องทาครีมกันแดดทุกเช้าแม้ไม่ได้ออกไปเผชิญกับแสงแดดภายนอกอาคารก็ตาม โดยสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด ชนิดกายภาพ (Physical sunscreen) ซึ่งจะช่วยสะท้อนรังสียูวีที่ตกกระทบผิวได้  โดยสามารถสังเกตชื่อส่วนผสมหลังผลิตภัณฑ์กันแดดที่มี Zinc Oxide หรือ Titanium Dioxide ส่วนความสามารถในการป้องกันแสงยูวีนั้น ค่า "SPF30" และ "PA+++" 

นับว่าเป็นค่าความสามารถในการป้องกันแสงยูวีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลแล้วว่า ค่า SPF 30  สามารถป้องกันผิวไหม้แดดจากรังสี UVB แตกต่างจาก SPF 50 เพียง 1 % เท่านั้น อย่างไรก็ตามการใช้ครีมกันแดดไม่ว่าจะเป็นชนิด physical sunscreen หรือ chemical sunscreen เพื่อความมั่นใจให้ทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงเนื่องจากครีมกันแดดมันถูกเช็ดออกโดยไม่รู้ตัวทำให้เกิดช่องว่างที่แสงจะเข้ามาทำร้ายผิวได้

ส่วน "PA+++" จะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA ที่เป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร และจุดด่างดำ ซึ่งทั้ง UVA และ UVB ล้วนเป็นรังสีที่มีส่วนกระตุ้นให้เกิดสิวได้

 
วิธี "ลดสิว" ที่ห้า พกสเปรย์สิวสำหรับผิวหน้าไว้ฉีดระหว่างวัน


การพกสเปรย์สิวสำหรับผิวหน้าไว้ฉีดระหว่างวันจะช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนใบหน้าจากแสงแดดได้ ช่วยให้ "ผิวเย็น"  และ "ลดความมัน" บนใบหน้า และยังเพิ่มความสดชื่นในระหว่างวันได้อีกด้วย ควรเลือกใช้สเปรย์สิวที่ไม่มีส่วนผสมของ ของ BHA เนื่องจาก BHA มีความเป็นกรดจะยิ่งทำร้ายผิว และอาจทำให้ผิวไวต่อแสง ซึ่งไม่เหมาะกับการออกมาเผชิญกับแสงแดดจ้าในช่วงฤดูร้อน

โดย "โอลด์ร๊อค แอคเน่ สเปรย์" (Old Rock Acne Spray) สามารถช่วยแก้ไขทุกปัญหาสิวอย่างปลอดภัย โดยผู้เชี่ยวชาญในรูปแบบสเปรย์เพื่อบำรุงผิวหน้าสำหรับผิวเป็นสิว ด้วยส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ และสารสกัดจากหินน้ำมันฝรั่งเศสที่มีความบริสุทธิ์สูง ช่วย "ลดสิว ผิวเย็น หน้าไม่มัน" สูตร Non-Comedogenic ที่ไม่ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน อันเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิวอย่างต่อเนื่อง ทั้งสิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวสเตียรอยด์ สิวฮอร์โมน  และปัญหาสิวอื่นๆ 

ผ่านการทดสอบการแพ้ระคายเคืองจากแพทย์ผิวหนังแล้ว  และที่สำคัญคือไม่มีส่วนผสมของ BHA สามารถใช้ได้กับผิวเป็นสิวทุกประเภท นอกจากนั้นยังมีส่วนช่วยลดรอยแดงและอาการคันจากการเป็นสิว โดยสามารถใช้สเปรย์ให้ทั่วใบหน้าก่อนการแต่งหน้าจะช่วยให้การแต่งหน้าเรียบเนียน ติดทนนาน

ดังนั้น ช่วงฤดูร้อน หมดกังวลเรื่องปัญหาสิวกับที่มาพร้อมกับอากาศร้อนได้เลย หากนำ 5 เคล็ดลับนี้ไปลองปฏิบัติที่สำคัญคือ ผู้ที่มีปัญหาสิว  อย่าลืมพก "โอลด์ร๊อค แอคเน่ สเปรย์" ติดตัวไว้ตลอด เพื่อเป็นตัวช่วย ลดสิว ผิวเย็น หน้าไม่มัน และปรับสภาพหน้าให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง พร้อมทำกิจกรรมกลางแจ้งสนุกๆ ในช่วงหน้าร้อนและทุกฤดูกาล.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook