อดรู้สึกไม่ได้ว่าคู่ครองเหมือนบริวาร จะให้ทำไงดี?

อดรู้สึกไม่ได้ว่าคู่ครองเหมือนบริวาร จะให้ทำไงดี?

อดรู้สึกไม่ได้ว่าคู่ครองเหมือนบริวาร จะให้ทำไงดี?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อดรู้สึกไม่ได้ว่าคู่ครองเหมือนบริวาร ใจจริงน้องอยากเป็นช้างเท้าหลังหรือไม่ก็ช้างเท้าหน้าด้วยกันมากกว่า แต่ใจมันไม่รู้สึกอย่างนั้นเลยน่ะค่ะ จะให้ทำไงดี? (Kisara Jamie Kudo)

ความทุกข์ยิ่งของผู้หญิงคือการต้องตกเป็นเบี้ยล่างผู้ชาย การกดขี่จากเพศตรงข้ามมีรสขมยิ่งกว่าอะไรอื่น แต่ในทางกลับกัน การไม่อาจเงยขึ้นมองผู้ชายตรงหน้าด้วยความยกย่องนับถือ ก็คือความไม่เป็นสุขอย่างน่าอัดอั้นตันใจด้วย

โดยเนื้อแท้แล้ว ผู้หญิงจะอยากรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่อบอุ่นของผู้ชายสักคน ทำนองเดียวกับที่ลูกสาวเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพ่อ ได้รับการปกป้องจากพ่อ นับถือบูชาพ่อพอจะเต็มใจรับใช้พ่อได้ ทำท่าน่ารักเป็นเด็กน้อยให้พ่อเอ็นดูได้

แต่ถ้าไม่เจอผู้ชายที่เหนือกว่า หรืออย่างน้อยไม่อบอุ่นเหมือนพ่อที่เป็นผู้นำครอบครัวดีๆ สักคน ก็จะเป็นตรงข้าม คืออยากวางตัวอีกแบบหนึ่ง หรือกระทั่งไว้ท่า หัวเด็ดตีนขาดไม่มีทางยอมเป็นเบี้ยล่าง ยิ่งถ้าจะมากดขี่หรือใช้งานกันง่ายๆ ละก็สู้ตายเลย

แล้วเท่าที่ผมเห็นนะ ผู้หญิงที่รู้สึกว่าตัวเองมีดี มีฤทธิ์ มีอำนาจ จะมีแนวโน้มอยากเลือกแฟนที่ยอมเป็นข้าทาสมากกว่าทำตัวเป็นเจ้านาย คือลืมๆ ความรู้สึกอยากได้ผู้ปกป้องที่แสนอบอุ่นไป จะเอาแบบที่เกิดมาเพื่อเอาใจเราโดยเฉพาะมากกว่า ซึ่งสุดท้ายพอได้ข้าทาสมาจริงๆ เป็นฝ่ายข่มขี่เขาได้ทุกครั้ง ในระยะยาวก็เป็นทุกข์อีก ก็เมื่อได้ข้าทาสตัวเป็นๆมาแล้วอย่างนี้ ตอนเดินด้วยกันคุณจะรู้สึกต่างอะไรจากการควงแขน รปภ.? ตอนนั่งรถด้วยกันคุณจะรู้สึกต่างอะไรจากการนั่งคู่กับโชเฟอร์แท็กซี่? แล้วตอนอยู่ในบ้านด้วยกันคุณจะรู้สึกต่างอะไรจากการร่วมห้องกับคนใช้?

สรุปคือความรู้สึกว่าเป็นนายไม่ใช่ความสุขเสมอไปนะครับ ถ้าความรู้สึกนั้นไปเกิดขึ้นกับคนที่ได้ชื่อว่าสามีของเรา ผู้หญิงจะหลอกตัวเองเก่งแค่ไหน ก็ "แกล้งด้อยกว่า" ไม่ไหวหรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเขายอมๆเรามาจนกลายเป็นความเคยชินว่าเราต้องชนะทุกครั้ง หรือเราต้องเป็นฝ่ายตัดสินใจทุกหน

ฝ่ายชายจะยอมเพราะไม่อยากมีเรื่อง หรือยอมเพราะตัดสินใจได้ไม่ดีเท่าเราจริงๆก็ตาม ยิ่งนานก็จะยิ่งตกที่นั่งช้างเท้าหลัง ยากจะแซงขึ้นมาเป็นเท้าหน้าได้ และพอเราเริ่มเบื่อกับบทบาทเจ้านาย อยากให้เขาดีพอจะช่วยให้เรายอมเป็นข้าทาสบ้าง ก็มักใช้วิธีแก้ผิดๆ เช่น พูดประชดประชันเหน็บแนม หรือด่าว่าให้เขารีบปรับปรุงตัว ซึ่งก็จะยิ่งทำให้รู้สึกแย่กับตัวเองเข้าไปอีก ความรู้สึกแย่ๆกับตัวเองจะช่วยให้ใครมั่นใจในตัวเองขึ้นมาพอจะเป็นผู้นำได้?

ทางที่ถูกคือเราต้องท่องไว้ว่าผู้ชายทุกคนมีความเป็นผู้นำอยู่ในตัว ถ้าเขามีความมั่นใจว่าตัวเองรักผู้หญิงของเขา ไม่ใช่หลงมาเป็นเบี้ยล่างของเจ้าแม่ที่ไหน ภาวะผู้นำในชีวิตคู่นั้น ไม่ใช่จะต้องมีความสามารถเหนือกว่าหรือฉลาดกว่าเรามากมาย เอาแค่ว่าถ้าเรากำลังฟุ้งซ่านจัด สับสนอลหม่าน รู้สึกเหมือนหลงทาง ขอแค่เขาทำให้เราใจเย็นลงได้ด้วยความสงบนิ่งหนักแน่นของเขา ก็เหมือนพระมาโปรดให้เราออกจากป่าได้แล้ว

จำไว้ว่าทุกครั้งที่เราออกจากป่าแห่งความฟุ้งซ่านได้เพราะเขา เราจะรู้สึกถึงความเป็นผู้นำในตัวเขามากขึ้นเรื่อยๆ!

แต่หากเป็นตรงกันข้าม เขาช่วยให้เราออกจากป่าไม่ได้ เราจะรู้สึกคล้ายถูกหลอก เหมือนจ้างพรานป่ามานำทาง แต่นำกันไม่ถูก กลับพาหลงวกวนเข้าไปใหญ่ แบบนั้นใจเราจะอยากปลดตำแหน่งให้กลายเป็นลูกหาบทันที

เพื่อจะให้เขาเย็นพอจะพาเราออกจากป่าแห่งความฟุ้งซ่าน เราต้องให้น้ำเย็นกับชีวิตเขาก่อน ไม่ใช่รีบร้อนทวงถามความเย็นราวกับเป็นเจ้าหนี้โรงน้ำแข็ง แน่นอนว่าเราฝืนเป็นใครอีกคนที่เย็นเฉียบทันทีไม่ได้ แต่เราร้อนน้อยลงกว่าเดิมได้ และเป็นเจ้าใหญ่นายโตน้อยลงกว่าเดิมได้

เริ่มจากสร้างความเคยชินที่จะรู้จักใส่ความสุขลงไปกับอะไรเล็กๆน้อยๆ มองไม่เห็น แต่รู้สึกได้ เช่น หาน้ำให้เขาดื่มด้วยใจ ทำกับข้าวที่เขาชอบด้วยใจ ฟังเรื่องที่เขาอยากเล่าด้วยใจ จากนั้น เมื่อใดเผลอมีจิตคิดแบบนายเหนือหัวครั้งหนึ่ง ก็ต้องยอมก้มหัวลงเป็นนางทาสสองครั้ง แล้วจะได้ดุลพอดี เพราะถ้าแค่ยอมแบบครั้งต่อครั้ง เดี๋ยวความรู้สึกในเรามันก็แข่งกันเองว่าจะยอมดีหรือไม่ยอมดี

เมื่อใจเต็ม จนรู้สึกเต็มใจให้เขาออกไอเดียพาเราไปในทิศที่เขาต้องการบ้าง เลิกคาดหวังจะให้เขาเป็นในสิ่งที่ไม่ได้เป็น ท่องไว้ว่าเมื่ออยู่กับคนรัก ให้พยายามค้นให้พบความสุขในโลกของเขา แล้วเราจะไม่ต้องเป็นทุกข์กับมุมมองที่น่าขัดใจในโลกเดิมของตัวเอง

หากทำได้จริง นี่ก็จะกลายเป็นส่วนเสริมสร้างความสุข ความเชื่อมั่นในตัวเขา นี่แหละ เรียกว่าใช้การใจที่เยือกเย็นของเราสร้างความอบอุ่นขึ้นในชีวิตเขา แล้วเราจะเป็นอะไรไปได้ นอกจากเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่อบอุ่นของเขานั่นเองครับ!

อย่าเผลอใช้ทะเบียนสมรสเป็นสัญญาทาส ให้มันเป็นประกาศนียบัตรรับรองอิสรภาพในการหาความสุขร่วมกันตลอดไป


บทความโดย : ดังตฤณ
Facebook.com/AskDungtrin

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook