อาหารดีเพื่อสุขภาพที่แม่ท้องควรทาน

แม่ท้องทานอาหารอย่างไร ลูกก็ได้อาหารแบบนั้น ซึ่งอาหารการกินในช่วงคุณแม่ตั้งครรภ์นับว่าสำคัญมาก เพราะถ้าเลือกทานแต่อาหารที่ดีมีประโยชน์นั่นก็หมายความว่า ลูกน้อยย่อมมีสุขภาพแข็งแรง ฉลาดและพัฒนาการดีสมวัย สำหรับสารอาหารที่แม่ท้องควรได้รับ ควรมีอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ

1.DHA

DHA เป็นสารอาหารที่อยู่ในปลาทะเล เช่น ปลาแซลมอน ปลาทู แต่ต้องปรุงให้สุกก่อนก็จะช่วยให้ทารกมีพัฒนาการทางสมองที่ดีในเรื่องของความทรงจำ และช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี โดยควรรับประทานอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์

2.โปรตีน

แร่ธาตุรวมไปถึงวิตามินต่างๆ รวมทั้งโคลีน โดยกินได้จากไข่ เนื้อหมู โดยเฉพาะเนื้อแดง ปลา นมถั่วเหลือง หากแม่ท้องขาดโปรตีนก็จะส่งผลให้การเจริญเติบโตของลูกน้อยผิดปกติ จึงควรหามารับประทานให้มากๆ

3.ธาตุเหล็ก

เป็นสารอาหารที่มีมากในเนื้อแดง ไข่ ถั่วแดง ขนมปังโอลวีท สาหร่ายทะเล เนื้อแดงไม่ติดมันจะช่วยไม่ให้คุณแม่และลูกน้อยเป็นโรคโลหิตจาง แถมยังมีพัฒนาการสมองที่เหมาะสม

4.โฟเลต

สำคัญมากทั้งตอนเตรียมตัวตั้งครรภ์และขณะที่ตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก เพราะเป็นสิ่งจำเป็นต่อการสร้างเซลล์ในระบบประสาทและไขสันหลัง ขณะตั้งครรภ์ ควรได้รับอย่างเพียงพอเพื่อป้องกันความผิดปกติในสมองของลูก โดยโฟเลตพบมากในบล็อกโคลี่ คะน้า แคนตาลูป และหน่อไม้ฝรั่ง เป็นต้น

5.แคลเซียม

เป็นสารอาหารสำคัญที่จะขาดไม่ได้เลย และต้องได้รับอย่างเพียงพอ เพราะแคลเซียมจะช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันของลูกน้อยให้แข็งแรง ในแม่ท้องเองก็มีความต้องการมาก เนื่องจากสามารถช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนในอนาคตของแม่ได้ สำหรับสารอาหารชนิดนี้พบได้มากในปลาตัวเล็ก นมและผักคะน้า

6.ไอโอดีน

เป็นสารอาหารที่มีดีต่อพัฒนาการทางสมองและระบบประสาท ทำให้เด็กมีสติปัญญาดี สมบูรณ์ สำหรับไอโอดีนนั้นอยู่ในอาหารประเภททะเล เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา สาหร่ายทะเล และปลาหมึก

7.คาร์โบไฮเดรต

คาร์โบไฮเดรจจะช่วยให้พลังงานแก่แม่และลูก คุณแม่หาทานได้จากข้าว ขนมปัง ผลไม้ และธัญพืชต่างๆ

8.ผลไม้ต่างๆ และน้ำดื่ม

ผลไม้ที่แม่ท้องควรรับประทาน ได้แก่ ฝรั่ง ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินซี และเอ โดยจะช่วยบำรุงฟันและเหงือก แอปเปิ้ล มีเกลือแร่และวิตามิน ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด ลดคอเรสเตอรอล มะละกอสุก จะช่วยให้แม่ตั้งครรภ์ถ่ายสบาย ท้องไม่ผูก มะพร้าว ช่วยแก้อาการอ่อนเพลียและแก้กระหาย อีกทั้งยังให้กลูโคสและแคลเซียมอีกด้วย ส่วนลูกพรุน ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย และยังช่วยในเรื่องของโลหิตจาง เพราะมีส่วนประกอบเหล็กเป็นหลัก แม่ท้องไม่ควรทานผลไม้รสหวาน เพราะเสี่ยงกับการเป็นโรคเบาหวานและควนดื่มน้ำวันละไม่ต่ำกว่า 6-8 แก้ว

แม่ท้องไม่ควรทานอาหารแปรรูป อาหารกระป๋อง และสำหรับ 3 เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ แม่ท้องจำเป็นต้องเน้นทาน พวกโปรตีนและแคลเซียมให้มากเป็นพิเศษ เพราะลูกกำลังเติบโตเต็มที่จะต้องใช้ในการสร้างกระดูกและฟัน อีกทั้งแคลเซียมยังช่วยลดการเกิดตะคริวให้กับแม่ในระยะของโค้งสุดท้ายของการตั้งครรภ์อีกด้วย