แซมตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ สนามหลวง ชนสุขุมพันธุ์วันเดียวกัน9ม.ค.นี้ หลังเสียงตอบรับดีขึ้น
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า ในวันศุกร์ที่ 9 มกราคม จะเปิดปราศรัยใหญ่ ที่สวนเบญจสิริ ตั้งแต่เวลา 17.00-21.00 น. จะมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม. นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีด้วย
วันเดียวกัน ที่ลานอเนกประสงค์ ยู เซ็นเตอร์ บริเวณจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครผู้ว่ากทม. หมายเลข 12 กลุ่มกรุงเทพใหม่ แถลงนโยบายชูแนวทางปฏิรูปการศึกษาโรงเรียนในสังกัด กทม. ว่า หากได้เข้าเป็นผู้ว่าฯ จะเน้นยุทธศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงการศึกษาเพื่อพัฒนาโรงเรียนสังกัด กทม. ทั้ง 435 แห่ง พร้อมกันแบบไม่มีการเลือกโรงเรียนนำร่อง ซึ่งจะค้นหาและพัฒนาผู้ที่มีความสามารถมาเป็นครู เน้นจัดระบบการเรียนการสอนที่ดี สร้างโอกาสและขยายทางเลือกในการเรียนรู้ รวมถึงสร้างระบบบริหารใหม่และจัดสรรทรัพยากร การประเมินคุณภาพ และเงินค่าตอบแทนครูให้มีประสิทธิภาพ
เน้นหลักที่การพัฒนา 3 ครู คือ 1.ครูปัจจุบัน ซึ่งจะเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเข้ามา็นครูโดยสร้างเครื่องมือให้ครูได้พัฒนาตนเอง 2.ครูใหญ่ มุ่งประเด็นการสร้างระบบคัดสรรเพื่อให้ได้ครูที่สอนเก่งมีทักษะ มีความสามารถในการบริหารเข้ามาเป็นครูใหญ่ และ 3.ครูโฉมใหม่ ซึ่งเป็นการสร้างครูแบบใหม่ โดยดึงคนเก่งจากสาขาต่างๆ มาเป็นครู และสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้วิชาชีพครูโดยแนวคิดนี้จำเป็นต้องทำงานร่วมกับภาคองค์กรมหาชน ซึ่งคาดว่า 4 ปี โครงการดังกล่าวจะเห็นผลเป็นรูปธรรมขึ้น นายแก้วสรรระบุ
ด้านนายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจบ้าน ซอยพหลโยธิน 54/4 เขตสายไหม โดยมีอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ตำรวจชุมชนกว่า 30 นาย ต้อนรับ
ทั้งนี้ นายยุรนันท์กล่าวถึงความสำคัญของ อปพร.ที่ขึ้นทะเบียนกับ กทม. ประมาณ 60,000 คน เป็นบุคคลที่เสียสละดูแลชุมชน โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ ส่งผลให้เมื่อได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน ไร้หน่วยงานช่วยเหลือ ขณะเดียวกันเมื่อต้องการพัฒนาชุมชนด้านไหนก็ต้องลงขันกันหางบประมาณมาดำเนินการกันเอง
ด้านนายวิสูตร สำเร็จวาณิชย์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตลาดกระบัง พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงแนวทางการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายของนายยุรนันท์ ว่า พรรคจะเน้นการลงพื้นที่ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบรรดา ส.ก. และสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) ที่เน้นการแจกสื่อต่างๆ ทั้งแผ่นพับ ใบปลิว เพื่อให้รู้จักผู้สมัครมากขึ้น รวมทั้งการใช้รถแห่แนะนำตัวผู้สมัคร เบื้องต้นจะใช้รถแห่เขตละ 1 คัน นอกจากนี้ พรรคยังมีมติจัดเวทีปราศรัยใหญ่ขึ้นครั้งแรก ในวันที่ 9 มกราคมนี้ ตั้งแต่เวลา 16.30 น. ที่ท้องสนามหลวง เพื่อดึงคะแนนเสียงให้มากที่สุด
นายวิสูตร กล่าวอีกว่า สำหรับตัวผู้สมัครฯ จะเน้นขึ้นเวทีดีเบตเป็นหลัก เพราะที่ผ่านมานายยุรนันท์ ได้รับความสนใจจากประชาชนมาก ที่สำคัญสื่อมีส่วนช่วยมาก เพราะคนเริ่มติดภาพมากขึ้น และจริงๆ มีความคิดว่าจะนำ มาสคอต แซม ซึ่งเป็นตัวการ์ตูนของ นายยุรนันท์ ออกตระเวนหาเสียงทุกพื้นที่ด้วย
ทางพรรคไม่ได้กังวลถึงคะแนนความนิยมมากมายนัก แต่กังวลปัญหาการเลือกตั้งนอกระบบมากกว่า เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านเขตดุสิต ว่า ขณะนี้มีรายชื่อผีประมาณ 50-60 รายชื่อเข้ามาอยู่ในบัญชีตรวจสอบสิทธิการเลือกตั้ง โดยเข้ามาในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2551 ซึ่งตามหลักแล้วต้องมีชื่อในทะเบียนบ้านไม่ต่ำกว่า 1 ปี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ถึง 2 เดือนด้วยซ้ำ เรื่องนี้อยากฝากให้กกต.ตรวจสอบด้วย เพราะหากทุกอย่างโปร่งใสก็ไม่ต้องกังวล แต่หากมีเรื่องนี้เข้ามาเกี่ยวข้องก็น่าวิตกเช่นกัน นายวิสูตร กล่าว
ขณะที่ ม.ล.ณัฐกรณ์ เทวกุล หรือ ปลื้ม ผู้สมัคร หมายเลข 8 สังกัดอิสระ ลงพื้นที่หาเสียงบริเวณตลาดนัดหลังการบินไทย พร้อมกล่าวว่า ตลาดหลังการบินไทย ถือเป็นตลาดที่ได้มาตรฐาน จึงมีนโยบายยกระดับตลาด กทม.ทุกพื้นที่ให้ได้มาตรฐานเทียบเท่าตลาดเอกชน โดยจะนำตลาดหลังการบินไทยมาเป็นต้นแบบในการพัฒนา นอกจากนี้ จะขอความร่วมมือกับตลาดเอกชน โดยเฉพาะตลาดหลังการบินไทย ตลาดยิ่งเจริญ ในการแก้ปัญหาคนว่างงานใน กทม. โดยจะประสานคนว่างงานที่ต้องการสร้างอาชีพ ให้มาฝึกอบรมอาชีพที่ศูนย์ฝึกอาชีพของ กทม. เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นตราสินค้าของ กทม.โดยเฉพาะ ภายใต้ชื่อ BMA (Bangkok Metropolitan Administration) และกทม.จะนำผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปฝากขายที่ตลาดเอกชนด้วย
เวลา 17.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไปยังห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ช่วย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์หาเสียง มีประชาชนมาขอถ่ายรูปและขอลายเซ็นจำนวนมาก
จากนั้นเวลา 18.30 น. นายอภิสิทธิ์พร้อมบุตรสาวไปที่โรงภาพยนตร์พารากอนซีนีเพล็กซ์ เพื่อชมภาพยนตร์ ความสุขของกะทิ รอบปฐมทัศน์ ซึ่ง น.ส.งามพรรณ เวชชาชีวะ พี่สาวนายอภิสิทธิ์เป็นผู้ประพันธ์เรื่องนี้เข้าร่วมชมด้วย
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ค่อยได้ชมภาพยนตร์ก็อยากมาดูเพื่อให้รู้ว่าเมื่อหนังสือความสุขของกะทิทำเป็นหนังแล้วเป็นอย่างไร เพราะไม่ค่อยได้อ่านหนังสือเล่มนี้ อ่านแต่หนังสือวิชาการที่มาใช้ในงาน อยากให้คนไทยมาดูหนังไทย