แม้ว แถลงสุดทนถูกข่มเหง

แม้ว แถลงสุดทนถูกข่มเหง

แม้ว แถลงสุดทนถูกข่มเหง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไม่ได้รับความยุติธรรม ร่อนแถลงการณ์ ถูกปล้นทรัพย์ ชี้ไม่ท้อ-ไม่ยอมแพ้ จะแสวงความเป็นธรรม

วันนี้ (27 ก.พ.) ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯได้อ่านคำแถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ กรณีศาลฏีกามีคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 46,373 ล้านบาทโดยมีเนื้อหา ว่า ผมรู้สึกเสียใจและผิดหวังที่ศาลฏีกาได้ตัดสินและสั่งยึดทรัพย์ครอบครัวของตนกว่าสี่หมื่นล้านบาทเมื่อวานนี้ ผมและครอบครัวไม่ได้รับความยุติธรรม และไม่เห็นด้วยกับคำตัดสิน เพราะเป็นคำตัดสินที่มิชอบด้วยกฎหมาย และข้อเท็จจริง ทรัพย์สินที่ถูกยึดนั้น ผมและครอบครัวได้ทำมาหากินด้วยน้ำพัก น้ำแรง และร่ำรวยมาก่อนเป็นนักการเมือง ยิ่งกว่านั้นทรัพย์สินที่ถูกยึดก็เป็นของลูกและครอบครัวที่ผมได้โอนไปให้ก่อนผมมาเป็นนักการเมือง และตลอดเวลาที่เป็นนายกรัฐมนตรี ผมทุ่มเททำงานเพื่อชาติ ผมไม่เคยทำสิ่งใดที่เอื้อประโยชน์ให้ครอบครัว ผมไม่ได้ร่ำรวยผิดปกติ ราคาหุ้นนั้นสูงขึ้นเป็นปกติตามดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ และตามการขยายตัวของตลาดหุ้นเกือบทุกวันในตลาดหลักทรัพย์มีราคาสูงขึ้นทั้งสิ้น ผมรู้สึกคล้ายกับว่าครอบครัวของผมถูกปล้นทรัพย์ และถูกข่มเหงรังแกจนยากที่จะทานทนต่อไปได้

เมื่อวานนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ที่พี่น้องชาวไทย และชาวโลกจะต้องจดจำไปอีกนาน การอายัดทรัพย์ของ คตส.เป็นความพยายามทำลายล้างผมอย่างไม่ลดละของฝ่ายอำมาตย์ เริ่มตั้งแต่ลอบสังหาร ยึดอำนาจ ทำลายครอบครัว และอายัดทรัพย์ ผมไม่ได้รับความเป็นธรรม ผมไม่ท้อถอยและผมไม่ยอมแพ้ ผมจะแสวงหาความเป็นธรรมในทุกช่องทาง และทุกโอกาสที่ผมสามารถกระทำได้ ผมไม่เคยคิดว่าการเข่นฆ่ากันทางการเมืองจะมีผลรุนแรงตามมามากมายขนาดนี้ ผมรู้สึกเจ็บปวด เพราะผมสงสารครอบครัว และลูกที่ถูกรังแก เด็กที่ต้องมารับกรรมที่ผม และพวกเขาไม่ได้ก่อไว้ ผมรักครอบครัวของผมเหมือนคนไทยทั่วไป

การยึดทรัพย์และสิ่งที่เกิดขึ้นกับผม และครอบครัว คือความอยุติธรรมอย่างยิ่ง พี่น้องที่รักและเห็นใจผม และผู้รักความเป็นธรรมทั้งหลายยอ่มรู้สึกสะเทือนใจ ไม่พอใจ หรือแม้แต่โกรธแค้นแทนผมและครอบครัว ผมขอวิงวอนให้พี่น้องประชาชนใช้ความอดทน อดกลั้น ไม่ใช่ความรุนแรงใด ๆที่อาจนำความเสียหายมาสู่ประเทศชาติ หรือเป็นเหตุให้รัฐบาลใช้มาทำลายการต่อสู้ของประชาชน

ผมขอเรียกร้องต่อพี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตย และรักความเป็นธรรมทั้งหลายว่า แม้จะเกิดความอยุติธรรมอย่างร้ายแรงกับผมและครอบครัวก็ตาม ขอให้พี่น้องผู้รักประชาธิปไตยและรักความเป็นธรรมไม่ต้องคิดว่าจะทำอะไรให้แก่ผมและครอบครัว หรือต่อสู้เพื่อผมและครอบครัว แต่ขอให้ช่วยกันคิดว่านี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับประเทศอันเป็นที่รักของเรา จึงขอให้ช่วยกันต่อสู้เพื่อให้ประเทศนี้เป็นประชาธิปไตย และเกิดความยุติธรรมให้ได้ และนี่คือสิ่งที่ผมเห็นว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด

ผมขอกราบขอบคุณกำลังใจที่ส่งมาให้ผมและครอบครัวในช่วงเวลาที่ยากลำบากในขณะนี้ เมื่อวานนี้อาจจะไม่ใช่วันของผม แต่ผมจะต่อสู้ต่อไปเพื่อประชาธิปไตย และความเป็นธรรมตามแนวทางสันติ เพื่อคนไทยและประเทศไทยของเรา วันนั้นจะมาถึงในไม่ช้าและจะเป็นวันของพวกเราทุกคน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook