บล.กิมเอ็ง : รายงานภาวะหุ้น 11/02/53

บล.กิมเอ็ง : รายงานภาวะหุ้น 11/02/53

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บล.กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 11/02/53

แนวโน้มตลาดวันนี้
เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะแกว่งตัวในกรอบแคบในวันนี้และในช่วงที่เหลือ
ของสัปดาห์ โดยกรอบการปรับตัวขาขึ้นยังคงค่อนข้างจำกัด โดยวานนี้ดัชนี SET
บวกเพียง 2.52 จุด ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายลดลงมาอยู่ที่ 11,556 ลบ. เราเห็นว่า
การเข้าลงทุนในระยะนี้ควรใช้ความระมัดระวัง จากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่
เพิ่มขึ้น ในกรณีการตัดสินคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ในช่วง 2 สัปดาห์ข้าง
หน้า รวมทั้งการเข้าสู่ช่วงตรุษจีน ซึ่งปกติจะเป็นช่วงที่ปริมาณการซื้อขายเบาบาง
โดยเราแนะนำนักลงทุนให้หาจังหวะเข้าสะสมหุ้นที่มีพื้นฐานดี และกำไรมีแนวโน้ม
เติบโตแข็งแกร่ง รวมทั้งหุ้นที่คาดการณ์การรายงานผลประกอบการที่โดดเด่นในช่วง
ปลายเดือนนี้ โดยหุ้นที่เราแนะนำในวันนี้ ได้แก่ BEC PTT และ SCB  
นักลงทุนยังเลือกที่จะชะลอการลงทุนในเวลานี้: ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้
บ่งชี้ทิศทางตลาดในระยะ 3-4 วันข้างหน้าได้เป็นอย่างดี แม้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และ
ยุโรปจะปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งจากข่าวเชิงบวกเรื่องการให้ความช่วยเหลือประเทศกรีซ
แต่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเพียง 2.52 จุด มาปิดที่ระดับ 688.41 จุด โดยมูลค่าการ
ซื้อขายโดยรวมลดลงเหลือเพียง 11,556 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันใน
ประเทศ และต่างประเทศกลับมาซื้อสุทธิ 544 ล้านบาท และ 616 ล้านบาทตาม
ลำดับวานนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนที่เราเฝ้ารออยู่ อย่างไรก็ตามมูลค่าการซื้อขายที่
เบาบางบ่งชี้ชัดว่านักลงทุนส่วนใหญ่ขอเลือกที่จะชะลอการลงทุนจนกว่าสถานการณ์
ต่างๆ จะเริ่มคลี่คลายชัดเจน แล้วค่อยเข้าสะสมหุ้นอีกครั้ง  
นักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มกังวลกับทิศทางนโยบายการเงินที่เข้มงวด
ขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงเล็กน้อยวานนี้ จากแผนงาน
ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นาย Ben Bernanke ที่ระบุว่าทางการจะเริ่มลด
มาตรการให้ความช่วยเหลือแก่สถาบันการเงินในสหรัฐฯ บางอย่างลง ทั้งนี้รัฐสภา
สหรัฐฯ ปิดทำการในคืนที่ผ่านมาเนื่องจากหิมะตกหนักมาก และทำให้กำหนดการ
แถลงแผนการดำเนินงานของนาย Ben Bernanke ต่อวุติสภาต้องถูกเลื่อนออกไป ทำ
ให้ทางการได้เพียงแต่ตีพิมพ์แผนการดำเนินงานดังกล่าวออกสู่สาธารณะชนเท่านั้น
เรามีความเห็นว่าแผนการดังกล่าวบ่งชี้ชัดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่มใช้นโยบาย
การเงินที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจมีการ
ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเล็กน้อยในระยะต่อไป แม้ว่านั่นจะไม่ใช่สัญญาณที่
ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องการสื่อต่อสาธารณชนโดยตรง แต่เราเชื่อว่าท่าน
เองมีความตั้งใจที่จะบอกเป็นนัย นอกจากนี้เราพบว่านักลงทุนยังมีความกังวลกับแผน
การให้ความช่วยเหลือของสหภาพยุโรปแก่กรีซ เนื่องจากรายละเอียดของแผนยังไม่
ชัดเจนจนกว่าผู้นำสหภาพยุโรปจะมีการประชุมกันในวันนี้ ทั้งนี้ดัชนี Dow Jones ปรับ
ตัวขึ้น 20.26 จุด หรือ 0.20% ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้น 0.22%
และ 0.14% ตามลำดับ  
ค่าเงิน US dollar และราคาสินค้าโภคภัณฑ์เคลื่อนไหวแกว่งตัว: ในคืนที่
ผ่านมาค่าเงิน US dollar เทียบยูโร และเยนแข็งค่าขึ้น 0.5% และ 0.3% ตามลำดับ
แต่ขณะที่ค่าเงิน US dollar เทียบปอนด์อ่อนตัวลง 0.8% ทั้งนี้เนื่องจากนักลงทุนยังมี
ความกังวลกับแผนการให้ความช่วยเหลือของสหภาพยุโรปแก่กรีซ รวมถึงตัวเลขการ
ขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 3.64 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือน
พฤศจิกายนเป็น 4.02 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคม เราพบว่าราคาสินค้า
โภคภัณฑ์เคลื่อนไหวแกว่งตัว โดยราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าปรับตัวขึ้น 0.27 เหรียญ
สหรัฐฯ เป็น 74.79 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้าปรับตัวขึ้น
1.10 เหรียญสหรัฐฯ เป็น 1,076.1 เหรียญสหรัฐฯ ต่อออนซ์

แนวการลงทุน:
เราปรับลดสัดส่วนการถือครองหุ้นลงเหลือ 60%

สัดส่วนลงทุน:
หุ้น = 60%
เงินสด = 40%

หุ้นแนะนำ
กลุ่มพลังงาน : PTT, PTTEP, BANPU, PTTAR, IRPC
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ : BBL, KBANK, TCAP, KTB
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ : SPALI, AP, LPN, QH
กลุ่มวัสดุก่อสร้าง : SCC, TASCO, DCC, SSI
กลุ่มสื่อสาร : ADVANC, DTAC
กลุ่มอิเล็คโทรนิคส์ : HANA
กลุ่มเดินเรือ : TTA
กลุ่มอื่นๆ : CPF, TPC, TVO, AIT, MAJOR


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook