“ชนินทร์” ซัด “ชูวิทย์” หยุดเพ้อ หวังทำลาย “เศรษฐา” ย้ำกระบวนการซื้อขาย ไม่มีอะไรผิดปกติ

“ชนินทร์” ซัด “ชูวิทย์” หยุดเพ้อ หวังทำลาย “เศรษฐา” ย้ำกระบวนการซื้อขาย ไม่มีอะไรผิดปกติ

“ชนินทร์” ซัด “ชูวิทย์” หยุดเพ้อ หวังทำลาย “เศรษฐา” ย้ำกระบวนการซื้อขาย ไม่มีอะไรผิดปกติ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“ชนินทร์” จวก “ชูวิทย์” หยุดเพ้อ ปมซื้อที่ดินทองหล่อแสนสิริ หวังทำลาย “เศรษฐา” ก่อนโหวตนายกฯ ชี้ ผู้ขายที่ดินช่วยอำนวยความสะดวกผู้ซื้อได้ ไม่ผิดกฎหมาย – ปกติแวดวงอสังหาฯ

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มีความพยายามบิดเบือนข้อมูลให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดว่า บริษัทผู้ขายให้ที่ดินให้กับแสนสิริเป็นผู้เซ็นต์เอกสารการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม หรือ EIA โครงการ Khun by YOO ทองหล่อ ว่าไม่สามารถทำได้ และการทำ EIA ก่อนที่ที่ดินผืนนั้นจะเป็นของแสนสิริ เป็นการกระทำที่ผิดนั้น ตนเกรงว่าจะสร้างความเข้าใจที่ผิดต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จึงขอให้ข้อมูลแก่สังคมเพิ่มเติมว่า

1.ในวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้ความสำคัญกับระยะเวลาโครงการ หรือ Project Timeline เป็นอย่างมาก เพราะทุกเดือนที่ล่าช้าไป คือต้นทุนโครงการที่เพิ่มขึ้น และผลตอบแทนจากการลงทุนที่ลดลง ทำให้บริษัทและผู้ถือหุ้นได้ผลประโยชน์ลดลงด้วย

2.การเตรียมความพร้อมในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หลายโครงการทำในระหว่าง หรือก่อนรับโอนที่ดิน เช่น การออกแบบ การขออนุญาตก่อสร้าง หรือการขอ EIA

3.การซื้อที่ดินบางแปลง มีการซื้อพร้อมใบขออนุญาตก่อสร้างด้วยซ้ำ เพื่อความมั่นใจในการพัฒนาต่อได้ และเพื่อร่นระยะเวลาในการพัฒนาโครงการ เหมือนที่คุณชูวิทย์เสนอขายที่ดิน ซอยสุขุมวิท 24 พร้อมใบอนุญาติก่อสร้างโรงแรมไว้นั่นเอง

4.การที่ต้องขอ EIA หรือขออนุญาติก่อสร้าง ก่อนรับโอนที่ดินจากผู้ขาย เป็นเพราะการทำงานของเอกชนต้องแข่งขันกับเวลา ที่ดินบางแปลงมีปัจจัยจากฝั่งของคนขายที่ดิน เช่น ยังเคลียร์ที่ไม่เสร็จ หรือยังติดสัญญากับผู้เช่ารายอื่น เป็นต้น

ดังนั้น เพื่อความมั่นใจของ ‘ผู้ซื้อ’ ว่าจะได้ที่ดินแปลงนั้นมา กระบวนการโดยทั่วไปจึงมีการทำ “สัญญาจะซื้อจะขาย” ไว้ก่อน เพื่อระบุเงื่อนไข และอาจมีการจดจำนอง (เอาที่ดินไปวางค้ำประกันการขายก่อน) เพื่อเป็นการรับประกันและสร้างความมั่นใจให้ผู้ที่ซื้อไปว่า ผู้ขายจะขายที่ดินผืนนั้นแน่นอนตามสัญญา ซึ่งที่ดินในลักษณะนี้เป็นทำเลดี มีความต้องการสูง และเมื่อมีการทำสัญญาต่างๆให้เกิดความมั่นใจแล้ว ผู้ซื้อที่ดิน จึงสามารถเตรียมความพร้อมในการพัฒนาโครงการได้ก่อน ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด และในบางครั้ง ‘ผู้ขาย’ หรือเจ้าของที่ดิน จึงต้องให้ความร่วมมือในการเป็นผู้ลงนามขออนุญาตต่างๆแทนด้วย เพราะยังเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์บนที่ดินอยู่

“กระบวนการทั้งหมดนี้ ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ และชอบด้วยกฎหมายทั้งสิ้นครับ ส่วนเรื่องว่าใครเป็นนอมินีของใครหรือไม่ ผมว่าทางแสนสิริ ชี้แจงไว้ชัดเจน หยุดบ่อนทำลายกระบวนการได้มาซึ่งนายกฯเถอะครับ ประชาชนทุกคนตอนนี้ลำบาก ต้องการรัฐบาลมาทำงานให้ประชาชน คุณชูวิทย์ไม่เดือดร้อนเหมือนประชาชน ก็ขอให้หยุดการกระทำแบบนี้” นายชนินทร์กล่าว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook