เช็กมาตรการรับมือ “ไวรัสโคโรนา” ทั่วโลกเขาทำอะไรกันแล้ว

โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) แพร่ระบาดไปทั่วโลก ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากมาย สร้างความตื่นตระหนกและหวาดกลัวให้กับผู้คนในสังคม โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นในทุก ๆ วัน องค์การอนามัยโลกจึงได้ประกาศให้โรค COVID-19 เป็นโรคระบาดใหญ่ทั่วโลก (Pandemic)

อัปเดตโควิด-19 ล่าสุด ยอดผู้ป่วยสะสมทะลุ 398,000 เสียชีวิต 17,365 รายทั่วโลก

มาตรการห้ามเดินทาง ปิดเมือง หรือปิดประเทศ เริ่มถูกบังคับใช้ในหลายประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในประเทศต่าง ๆ ก็มีความไม่แน่นอน ดังนั้น การตรวจสอบข้อมูลจากรัฐบาลจึงเป็นคำแนะนำที่ทุกคนควรทำตาม ดังนั้น Sanook จึงได้รวบรวมมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกมาฝากทุกคน

ทวีปเอเชีย

ไทย

ปิดสนามม้า สนามมวย และสนามกีฬาไม่มีกำหนด ปิดสถานบันเทิง โรงหนัง โรงละคร ฟิตเนส สปา และร้านนวดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นเวลา 14 วัน แต่ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่าง ๆ ยังเปิดให้บริการตามปกติ รวมทั้งปิดสถานศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศ 14 วันเช่นกัน และแนะนำให้ประชาชนทำงานจากบ้าน หรือเหลื่อมเวลา พร้อมกันนี้ ยังเลื่อนวันหยุดสงกรานต์ 13 – 15 เม.ย. ออกไปด้วย

ไวรัสโคโรนา: สู้วิกฤติโควิด-19 ในไทย ลุงตู่เผยละเอียดยิบ! 6 มาตรการเตรียมรับมือระบาดหนัก

กัมพูชา

ห้ามผู้เดินทางจากประเทศสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และสเปนเข้าประเทศเป็นเวลา 30 วัน โดยเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. 2563

จีน

ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ได้แก่ การปิดเมืองต่าง ๆ ในมณฑลหูเป่ยซึ่งเป็นต้นกำเนิดของการระบาด และให้ประชาชนกักตัวอยู่ในที่พักอาศัย ในกรุงปักกิ่ง ผู้เดินทางจากต่างประเทศทุกคนต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ขณะที่ทั่วประเทศ ผู้เดินทางมาจากประเทศอิหร่าน อิตาลี ญี่ปุ่น หรือเกาหลี ที่ต้องการเดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง กวางโจว หรือเซี่ยงไฮ้ต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วันเช่นกัน

ฮ่องกง

ชาวต่างชาติที่ไม่ได้พำนักอยู่ในฮ่องกงจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าฮ่องกง ตั้งแต่วันพุธ ที่ 25 มี.ค. ทั้งนี้ ผู้เดินทางเข้าฮ่องกงทุกคน รวมถึงพลเมืองฮ่องกงและผู้พำนักถาวร ต้องทำการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. 2563

ฮ่องกงหวนรับมือไวรัสโคโรนาระลอกใหม่ หลังลดระดับการป้องกัน

อินเดีย

อินเดียยกระดับมาตรการการป้องกันโดยทำการปิดประเทศเป็นเวลา 21 วัน มีผลตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. ก่อนหน้านี้ อินเดียห้ามการเดินทางไปหรือเดินทางเข้ามาจากประเทศในแถบยุโรป สหราชอาณาจักร และตุรกี ผู้ที่ทำการเปลี่ยนเครื่องหรือผู้ที่เดินทางมาจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ โอมาน คูเวต จีน และเกาหลีใต้ ต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน รวมทั้งยังระงับวีซ่าท่องเที่ยวไปจนถึงวันที่ 15 เม.ย. 2563 ยกเว้นวีซ่าคณะทูต วีซ่าราชการ วีซ่า UN หรือองค์กรนานาชาติ และวีซ่าทำงาน

สิงคโปร์

ห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศหรือทำการเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศสิงคโปร์ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์ ที่ 23 มี.ค. พร้อมกับห้ามการรวมตัวกันขนาดใหญ่ แต่โรงเรียนและบริษัทห้างร้านยังเปิดทำการอยู่

เกาหลีใต้

ห้ามผู้เดินทางเข้าประเทศที่เคยเดินทางไปยังมณฑลหูเป่ย ประเทศจีนในระยะเวลา 14 วัน และพลเมืองจากภูมิภาคนั้น ๆ เข้าประเทศ

ญี่ปุ่น

ห้ามผู้เดินทางที่เคยเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคในประเทศจีน เกาหลีใต้ หรืออิตาลี ในช่วง 14 วันที่ผ่านมาเข้าประเทศ ยกเว้นผู้มีสัญชาติญี่ปุ่นและครอบครัว สถานที่ท่องเที่ยวอย่าง โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ถูกสั่งปิด ในขณะที่ทั่วประเทศก็อยู่ในสภาวะการปิดเมืองเป็นบางส่วน

เวียดนาม

ห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ ยกเว้นผู้ที่มีจุดประสงค์ทางการทูตหรือกรณีพิเศษอื่นๆ ที่ได้รับอนุญาต มีผลตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. เป็นต้นไป ขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในประเทศ เช่น ฮาลองเบย์ จะปิดให้บริการจนถึงวันที่ 26 มีนาคม กิจกรรมท่องเที่ยวในเมืองฮานอย ฮอยอัน และกว๋างนิญถูกระงับ ยิ่งกว่านั้น รัฐบาลได้ระงับโปรแกรมยกเว้นการขอวีซ่าสำหรับประเทศเดนมาร์ก นอร์เวย์ ฟินแลนด์ สวีเดน สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส และสเปน จนกว่าจะมีประกาศถัดไป

มาเลเซีย

ห้ามนักท่องเที่ยวและประชาชนเดินทางออกนอกประเทศ ขณะที่ชาวมาเลเซียที่เดินทางกลับจากต่างประเทศต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศ โดยมีระยะเวลา 2 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 18 – 31 มี.ค. 2563

บรูไน

ห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศ และไม่ให้ผู้ที่พำนักอยู่ในประเทศเดินทางออกนอกประเทศ

ฟิลิปปินส์

ปิดการคมนาคมทุกช่องทางในกรุงมะนิลาเพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 15 มี.ค. พร้อมสั่งเคอร์ฟิวบางพื้นที่ตั้งแต่เวลา 20:00 น. – 05:00 น. และปิดโรงเรียนทั่วประเทศเป็นเวลา 1 เดือน

ไต้หวัน

ตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. ไต้หวันสั่งห้ามผู้ที่เคยเดินทางไปประเทศจีน ฮ่องกง และมาเก๊าในช่วง 14 วันที่ผ่านมาเข้าประเทศ

ทวีปอเมริกา

สหรัฐอเมริกา

ห้ามเที่ยวบินจากยุโรปทุกเที่ยวบินเข้าประเทศ เป็นเวลา 30 วัน และปิดด่านข้ามพรมแดนระหว่างสหรัฐอเมริกาและแคนาดาตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. 2563 เป็นต้นไป ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศคำแนะนำการเดินทางขั้นที่ 4 โดยแนะนำให้พลเมืองอเมริกันเดินทางกลับประเทศหรือไม่ก็พักในที่พักอาศัย

ประกาศปิดโรงเรียนรัฐบาลทั่วประเทศ ขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงการอยู่รวมกลุ่มเกิน 10 คนและงดการเดินทางที่ไม่จำเป็นภายในประเทศ

อาร์เจนตินา

ระงับเที่ยวบินจากสหรัฐอเมริกา ประเทศในทวีปยุโรป จีน อิหร่าน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

โบลิเวีย

ปิดด่านข้ามพรมแดนและไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่ได้พำนักในประเทศเข้าประเทศ รวมทั้งระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศทุกเที่ยวบิน มาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2563

แคนาดา

ปิดด่านข้ามพรมแดนสำหรับบุคคลที่ไม่ใช่พลเมืองและผู้อยู่อาศัยชั่วคราว และในวันที่ 18 มี.ค. 2563 ประกาศปิดด่านข้ามดินแดนที่เชื่อมต่อกับสหรัฐอเมริกา โดยเป็นข้อตกลงร่วมกันของสองประเทศ

ชิลี

ปิดด่านข้ามพรมแดนทั้งหมดในวันที่ 18 มี.ค. 2563

โคลอมเบีย

ห้ามผู้เดินทางจากประเทศฝั่งยุโรปและเอเชียเข้าประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. 2563 เป็นต้นไป พลเมืองโคลอมเบียและผู้พำนักถาวรที่เดินทางกลับจากยุโรปและเอเชียต้องทำการกักตัวเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ผู้ที่เดินทางจากอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ยังสามารถเข้าประเทศได้แต่จะถูกกักตัวเพื่อทำการคัดกรองโรค

คอสตาริกา

ปิดด่านข้ามพรมแดนสำหรับผู้เดินทางจากทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. 2563 เป็นต้นไป พลเมืองและผู้พำนักอยู่ในประเทศคอสตาริกาต้องกักตัวอยู่ในที่พักอาศัยเป็นเวลา 14 วัน

เอกวาดอร์

ปิดด่านข้ามพรมแดนสำหรับผู้เดินทางจากต่างประเทศทั้งหมด รวมทั้งแนะนำให้พลเมืองเอกวาดอร์และผู้พำนักถาวรกลับเข้าประเทศก่อนวันจันทร์ที่ 16 มี.ค. 2563 โดยข้อบังคับต่าง ๆ จะถูกประกาศใช้หลังจากนั้น

เอลซัลวาดอร์

ประกาศสภาวะฉุกเฉินในวันที่ 15 มี.ค. 2563 ถึงแม้จะยังไม่พบผู้ติดเชื้อก็ตาม พร้อมประกาศใช้ข้อบังคับการเข้าออกจากประเทศ และสั่งห้ามการรวมตัวกันในที่สาธารณะ

กัวเตมาลา

ห้ามพลเมืองจากประเทศแถบยุโรป อิหร่าน จีน เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกาและแคนาดาเข้าประเทศ

ฮอนดูรัส

ปิดด่านข้ามพรมแดนของประเทศเป็นเวลา 1 สัปดาห์ บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. 2563

ปานามา

ห้ามผู้ไม่ใช่พลเมืองของประเทศเดินทางเข้าประเทศ และระงับการเดินทางเข้าประเทศโดยมีเป้าหมายทางเศรษฐกิจทั้งหมด

เปรู

ระงับทุกเที่ยวบินจากประเทศในแถบยุโรปและเอเชีย พร้อมสั่งการให้ประชาชนกักตัวอยู่ในที่พักอาศัย

อุรุกวัย

สั่งการให้ผู้เดินทางเข้าประเทศจากประเทศจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อิหร่าน สเปน อิตาลี ฝรั่งเศส และเยอรมนี ต้องทำการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน

เวเนซุเอลา

ประชาชนทั่วประเทศต้องทำการกักตัวอยู่ในที่พักอาศัย โดยสั่งห้ามการเดินทางข้ามเมือง ยกเว้น บริการขนส่งมวลชน บริการด้านสุขภาพ และบริการส่งอาหาร

ทวีปยุโรป

สหภาพยุโรปห้ามผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองหรือไม่มีเหตุจำเป็นเดินทางเข้า 26 ประเทศสมาชิก ได้แก่ ออสเตรีย เบลเยียม บัลแกเรีย โครเอเชีย ไซปรัส สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก เอสโตเนีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ฮังการี อิตาลี ลัตเวีย ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก มอลตา เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ โปรตุเกส โรมาเนีย สโลวาเกีย สโลวีเนีย สเปน และสวีเดน

ออสเตรีย

พลเมืองออสเตรียต้องทำการกักตัวเองหลังประกาศใช้มาตรการระงับการเดินทางทั่วประเทศเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2563 ร้านขายของที่ไม่จำเป็นถูกสั่งปิดตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. และสั่งปิดร้านอาหารในวันที่ 17 มี.ค. มีการแนะนำให้ประชาชนออกจากบ้านเมื่อจำเป็นเท่านั้น และสั่งห้ามการรวมตัวกันที่มากกว่า 5 คนขึ้นไป นอกจากนี้ยังสั่งห้ามไม่ให้ผู้ที่เดินทางจากสหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ รัสเซีย และยูเครน เข้าประเทศหากไม่มีใบรับรองแพทย์ สั่งระงับรถไฟและเที่ยวบินที่มาจากประเทศอิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ สเปน และฝรั่งเศสที่มีจุดหมายปลายทางเป็นออสเตรีย

เบลเยียม

โรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศถูกสั่งปิดตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. - 3 เม.ย. 2563 กิจกรรมการแข่งขันกีฬาหรือกิจกรรมความบันเทิงถูกยกเลิกหรือเลื่อนออกไป คาเฟ่ ผับ และร้านอาหารถูกสั่งปิด ขณะที่ร้านขายของต้องปิดในวันเสาร์อาทิตย์ ร้านขายยาและซูเปอร์มาร์เก็ตยังเปิดทำการได้ตามปกติ

สาธารณรัฐเช็ก

วันที่ 12 มี.ค. ประกาศสภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 30 วัน โดยสั่งปิดโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถาบันทางวัฒนธรรมทั่วประเทศ พร้อมสั่งห้ามการรวมตัวกันของผู้คนที่มากกว่า 30 คน บาร์และร้านอาหารต้องปิดตั้งแต่ช่วงเวลา 20:00 น. จนถึง 06:00 น. และในวันที่ 14 มี.ค. ก็ได้เพิ่มมาตรการให้ปิดธุรกิจค้าปลีก รวมถึงศูนย์การค้าต่าง ๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 10 วัน และประกาศให้ปิดด่านข้ามพรมแดนสำหรับผู้เดินทางชาวต่างชาติ

เดนมาร์ก

ปิดด่านข้ามพรมแดนสำหรับผู้เดินทางจากทั่วโลกตั้งแต่วัน ที่ 14 มี.ค. - 13 เม.ย. 2563 ยกเว้นพลเมืองเดนมาร์กและผู้พำนักถาวรในเดนมาร์กเท่านั้น พร้อมทั้งสั่งปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ

ฝรั่งเศส

ปิดเมืองตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 16 มี.ค. เป็นเวลา 15 วัน พลเมืองสามารถออกจากบ้านไปซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา และที่ทำงานเท่านั้น ด่านข้ามพรมแดนจะปิดตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. เป็นต้นไป แต่พลเมืองฝรั่งเศสและผู้พำนักถาวรจะได้รับการยกเว้น

เยอรมนี

โรงเรียนและมหาวิทยาลัยในเมืองบาวาเรีย เบอร์ลิน ซาร์ลันท์ และโลว์เออร์ซัคเซินจะปิดทำการไปจนถึงวันที่ 20 เม.ย. 2563 ห้ามกิจกรรมการรวมตัวกันของผู้คนที่มากกว่า 1,000 คน ขณะที่ Angela Merkel นายกรัฐมนตรีขอให้งดเว้นการรวมตัวกันมากกว่า 100 คน และปิดด่านข้ามพรมแดนที่เชื่อมต่อกับประเทศฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย เดนมาร์ก และลักเซมเบิร์ก

กรีซ

วันที่ 16 มี.ค. ผู้เดินทางจากต่างประเทศทุกคนต้องต้องทำการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน พร้อมสั่งปิดด่านข้ามพรมแดนที่เชื่อมต่อกับประเทศแอลเบเนียและประเทศนอร์ทมาซิโดเนีย

ฮังการี

ผู้เดินทางจากประเทศจีน อิหร่าน อิสราเอล หรือเกาหลีใต้ต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ห้ามการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมหรือกีฬาต่าง ๆ สั่งปิดร้านอาหารและบาร์ ร้านค้าต่าง ๆ ต้องจำกัดเวลาเปิดปิด และมีการตรวจคัดกรองโรคสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศ

อิตาลี

ประชาชนทั่วประเทศต้องกักตัวอยู่ในที่พักอาศัยจนถึงวันที่ 3 เม.ย. 2563 มีการสั่งปิดเมืองและร้านค้าต่าง ๆ ยกเว้นซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายยา พลเมืองจะออกจากที่พักอาศัยได้เมื่อยื่นเอกสารที่แสดงเหตุผลอันสมควรสำหรับการออกนอกพื้นที่ที่พักอาศัย เช่น การซื้ออาหาร การซื้อยารักษาโรค หรือช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ เป็นต้น

ไอร์แลนด์

ปิดเมืองบางส่วนตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. 2563 ปิดโรงเรียน มหาวิทยาลัยและสถาบันทางวัฒนธรรมจนถึงวันที่ 29 มี.ค. ห้ามรวมตัวกันเกิน 100 คนในอาคารและ 500 คนนอกอาคาร ยกเลิกเทศกาล St. Patrick’s Day ปิดผับและบาร์ทั่วประเทศ และขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น

เนเธอร์แลนด์

โรงเรียน คาเฟ่ ร้านอาหาร และสปอร์ตคลับทุกแห่งถูกสั่งปิดตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. 2563 พื้นที่สาธารณะต่าง ๆ เช่น พิพิธภัณฑ์ ลานคอนเสิร์ต และโรงหนังก็ปิดทำการด้วยเช่นกัน

นอร์เวย์

ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศอื่น ๆ นอกประเทศกลุ่มนอร์ดิก (เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน รวมถึง กรีนแลนด์ หมู่เกาะแฟโรและหมู่เกาะโอลันด์) ต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน

โปแลนด์

ห้ามผู้เดินทางจากทุกประเทศเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. และประกาศให้พลเมืองที่เดินทางกลับเข้าประเทศต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน

สโลวาเกีย

ระงับการเดินทางเข้าและออกจากประเทศ พร้อมจัดให้มีการตรวจคัดกรองโรค ณ ด่านข้ามพรมแดน ปิดโรงเรียน สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม

สโลวีเนีย

ร้านค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต แผงหนังสือพิมพ์ ปั๊มน้ำมัน ร้านขายยา ธนาคารและร้านขายสินค้าเกษตรทั่วประเทศถูกสั่งปิด ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 15 มี.ค. 2563 รวมไปถึงโรงเรียนและขนส่งสาธารณะ ทั้งนี้ มีการออกคำแนะนำพิเศษสำหรับการเดินทางไปยังประเทศอิตาลี เซอร์เบีย สเปน อิหร่าน เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และจีน

สเปน

ปิดเมืองบางส่วนเป็นเวลา 15 วันตั้งแต่วัน ที่ 14 มี.ค. ร้านค้าต่าง ๆ โรงเรียน ร้านอาหาร สถานบันเทิงและบาร์ทั่วประเทศ ถูกสั่งปิด และประชาชนสามารถออกจากที่พักอาศัยได้เมื่อจำเป็นเท่านั้น หากไม่ทำตาม อาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

สวิตเซอร์แลนด์

ปิดโรงเรียน และสั่งห้ามการรวมตัวของผู้คนมากกว่า 100 คน พร้อมทั้งจำกัดการเข้าร้านอาหาร บาร์ และคลับ ให้มีจำนวนครั้งละ 50 คนเท่านั้น สกีรีสอร์ททั่วประเทศถูกสั่งปิด ขณะเดียวกัน ก็มีประบวนการคัดกรองโรคในด่านข้ามพรมแดนของประเทศ และสั่งปิดด่านข้ามพรมแดนที่ติดกับประเทศอิตาลี

สหราชอาณาจักร

ในวันที่ 17 มี.ค. 2563 รัฐบาลประกาศให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการไปผับ และทำงานจากที่บ้าน

ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

ออสเตรเลีย

ประกาศปิดด่านข้ามพรมแดนของประเทศทุกทาง (อากาศและทางเรือ) มีผลบังคับใช้วันที่ 19 มี.ค. 2563 โดยห้ามทุกคนเดินทางเข้าประเทศยกเว้น พลเมืองออสเตรเลีย ลูกเรือสายการบิน และครอบครัว รวมทั้งพลเมืองนิวซีแลนด์ที่พักอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย แต่บุคคลเหล่านี้ต้องกักตัวในที่พักอาศัยเป็นเวลา 14 วัน และเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประกาศใช้มาตรการกักตัวกับทุกคนที่เดินทางเข้าประเทศออสเตรเลีย 

นิวซีแลนด์

รัฐบาลประกาศปิดด่านข้ามพรมแดนทุกช่องทาง มีผลบังคับใช้วันที่ 20 มี.ค. 2563 ไม่อนุญาตให้เรือสำราญเทียบท่าที่ท่าเรือของนิวซีแลนด์จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. และแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น

ทวีปแอฟริกา

กานา

ห้ามผู้ที่เคยเดินทางไปในประเทศที่มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง (มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 200 ราย) ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา เดินทางเข้าประเทศ ยกเว้น พลเมืองกานาและผู้พำนักถาวร พร้อมประกาศให้มีการกักตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศ 14 วัน

เคนยา

ปฏิเสธการเข้าประเทศของบุคคลที่ไม่ใช่พลเมืองหรือผู้พำนักถาวร บุคคลใดที่เข้ามาในประเทศในช่วง 14 วันที่ผ่านมาต้องทำการกักตัว โรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศปิดทำการ

โมร็อกโก

เลื่อนทุกเที่ยวบินที่มุ่งหน้าไปยังประเทศอัลจีเรีย เบลเยียม จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ โปรตุเกส และสเปน หยุดบริการเรือข้ามฟาก รวมทั้งปิดด่านข้ามพรมแดนกับเซวตาและเมลียา (Ceuta and Melilla) ผู้เดินทางเข้าประเทศต้องกรอกข้อมูลสุขภาพและจะถูกกักตัวเพื่อคัดกรองโรค

ไนจีเรีย

ห้ามผู้เดินทางจาก 13 ประเทศที่มีรายงานผู้ติดเชื้อมากกว่า 1,000 ราย เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร อิตาลี สเปน เยอรมนี นอร์เวย์ และเนเธอร์เเลนด์ เป็นต้น 

แอฟริกาใต้

รัฐบาลแอฟริกาใต้ประกาศให้ประเทศอยู่ใน “สภาวะภัยพิบัติ” พร้อมปิดด่านข้ามพรมแดนสำหรับผู้เดินทางจากประเทศในกลุ่มเสี่ยง คือ อิตาลี สเปน สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส อิหร่าน จีน และสหรัฐอเมริกา พลเมืองของแอฟริกาใต้ที่เดินทางกลับจากประเทศดังกล่าวต้องทำการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน

แคริบเบียน

หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน

ห้ามเรือสำราญเทียบท่าเป็นเวลา 30 วัน พร้อมกับสั่งห้ามการรวมตัวกันขนาดใหญ่ และประกาศเลื่อนหรือยกเลิกงานเทศกาลต่าง ๆ

สาธารณัฐโดมินิกัน

ระงับเที่ยวบินพาณิชย์และเรือพาณิชย์ทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. 2563 เป็นต้นไป พร้อมปิดโรงเรียนและศูนย์รวมความบันเทิงเป็นเวลา 15

เฮติ

ปิดด่านข้ามพรมแดนที่เชื่อต่อกับประเทศสาธารณรัฐโดมินิกัน

จาเมกา

ประกาศภาวะภัยพิบัติ กิจกรรมต่าง ๆ ในเดือนมีนาคมถูกเลื่อนออกไปจนกว่าจะมีการออกประกาศอีกครั้ง รวมทั้งสั่งห้ามผู้เดินทางจากสหราชอาณาจักรเดินทางเข้าประเทศ ยกเว้นพลเมืองจาเมกาและครอบครัว รวมถึงผู้พำนักในจาเมกา

เปอร์โตรีโก

ประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศตั้งแต่เวลา 21:00 น. – 05:00 น. จนถึงวันที่ 29 มี.ค. 2563 ประชาชนจะออกจากบ้านไปซื้ออาหาร ยา และเติมน้ำมันได้เฉพาะในช่วงเวลากลางวันเท่านั้น

ตะวันออกกลาง

อียิปต์

ระงับเที่ยวบินขาเข้าและขาออกจากประเทศเป็นเวลา 2 สัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. 2563

อิสราเอล

ห้ามพลเมืองหรือผู้เดินทางจากประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย อันดอร์รา และซานมีโน เข้าประเทศเว้นแต่บุคคลเหล่านั้นจะแสดงหลักฐานที่พักที่สามารถกักตัวได้เป็นเวลา 14 วัน และในวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมาก็ได้ประกาศเพิ่ม โดยให้ทั้งผู้เดินทางเข้าประเทศและพลเมืองที่เดินทางกลับจากทุกประเทศกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ทั้งนี้ ยังประกาศปิดเมืองบางส่วน พร้อมกับปิดบริการสถานที่สาธารณะที่ไม่จำเป็น

จอร์แดน

ปิดด่านข้ามพรมแดนทางบกและทางทะเล พร้อมสั่งระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศทุกเที่ยวบิน

นี่เป็นมาตรการที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกใช้เพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา แม้เชื้อไวรัสดังกล่าวจะสร้างความหวาดกลัวและตื่นตระหนกให้คนทั่วโลก แต่วิธีการรับมือที่ดีที่สุด คือ ต้องมีสติ และปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำแนะนำของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด แล้วเราจะผ่านวิกฤติการณ์นี้ไปด้วยกัน อย่างไรก็ตาม Sanook จะคอยอัปเดตมาตรการของประเทศต่าง ๆ อยู่เสมอ