"ยูเครน-กัวเตมาลา" 2 ชาติที่ดาวตลกก้าวสู่ผู้นำประเทศ หลังประชาชนเอือมคนโกง

สำนักข่าวต่างๆ ทั่วโลกรายงานข่าวเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้ว่า นายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ดาราตลกชาวยูเครน วัย 41 ปี ผู้เคยรับบทเป็นประธานาธิบดีในซีรีส์เรื่องดัง Servant of the People (ผู้รับใช้ประชาชน) เอาชนะ นายเปโตร โปโรเชนโก ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของประเทศยูเครน ได้ตามความคาดหมาย ด้วยคะแนนถล่มทลายถึงร้อยละ 73 หลังจากผลการเลือกตั้งรอบแรกเมื่อ 31 มีนาคมปีนี้ นายเซเลนสกีมีคะแนนนำถึงห่างร้อยละ 10 (ระบบเลือกตั้งประธานาธิบดีของยูเครนนั้น ผู้ที่ชนะต้องได้รับคะแนนเลือกตั้งเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ถ้าไม่มีใครได้คะแนนเลือกตั้งเกินกึ่งหนึ่งต้องมีการเลือกตั้งรอบสองโดยให้ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งที่มีคะแนนเป็นที่ 1 และที่ 2 เข้าชิงชัยกันอีกครั้ง)

นายเซเลนสกีจบปริญญาตรีทางนิติศาสตร์ แต่เข้าสู่วงการบันเทิงและโด่งดังในฐานะดาวตลก เคยร่วมคณะตลก Kvartal 95 เดินสายไปแสดงถึงในรัสเซีย และตัวเองยังเคยแสดงภาพยนตร์ของรัสเซียด้วย

>> คนยูเครนเบื่อการเมืองเก่า ดันดาวตลกจ่อชนะเลือกตั้ง หลังจุดประกายพาประเทศเข้าอียู

>> เอ็กซิตโพลชี้ "ตลกดังยูเครน" ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีถล่มทลาย

AFPนายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี

แต่นายโวโลดีมีร์ เซเลนสกีมิใช่ดาราตลกทางโทรทัศน์คนแรกที่ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนแรกของโลก หากแต่ที่ประเทศกัวเตมาลา (เป็นประเทศในภูมิภาคอเมริกากลาง ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปอเมริกาเหนือ มีชายฝั่งติดกับทั้งมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลแคริบเบียน พรมแดนด้านตะวันตกจรดเม็กซิโก ตะวันออกเฉียงเหนือจรดเบลีซ และตะวันออกเฉียงใต้จรดฮอนดูรัสและเอลซัลวาดอร์ มีพื้นที่ประมาณ 108,889 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 17,263,000คน)

นายจิมมี โมราเลส นักแสดงตลกชื่อดังและพิธีกรรายการทีวีของประเทศกัวเตมาลา ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีเมื่อวันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558 โดยเขาได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งสูงถึง 68% ขณะที่คู่แข่งของเขา แซนดรา ตอร์เรส อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ผู้ได้คะแนนเสียงเพียง 32% เพราะประชาชนชาวกัวเตมาลาผู้เอือมระอาการทุจริตคอร์รัปชันของนักการเมืองหน้าเดิมๆ จึงพากันลงคะแนนเสียงให้นายจิมมี โมราเลสอย่างท่วมท้น ทำให้ จิมมี่ โมราเลส ดาราตลกที่ไม่มีประสบการณ์การเมือง หรือกระทั่งนโยบายบริหารประเทศที่ชัดเจนเลยได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่อย่างปาฏิหาริย์

ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นปาฏิหาริย์สำหรับโมราเลสที่เริ่มต้นการชิงชัยในตำแหน่งประธานาธิบดีด้วยคะแนนนิยมสนับสนุนเพียง 0.5% ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2558 โดยมีจุดพลิกผันของการเลือกตั้งเมื่อประธานาธิบดี ออตโต เปเรซ และพวกถูกจับกุมข้อหาทุจริตเมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2558 ก่อนถึงวันเลือกตั้ง

นายออตโต เปเรซถูกคุมขังเพื่อรอการพิจารณาคดี โดยถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้วางแผนสร้างเครือข่ายทุจริตของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่รับสินบนจากนักธุรกิจ แลกเปลี่ยนกับส่วนลดภาษีนำเข้าผิดกฎหมาย โดยทางอัยการและเจ้าหน้าที่ตรวจสอบของสหประชาชาติ ระบุว่า เครือข่ายดังกล่าวรับสินบนถึง 3.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2557 ถึงเดือนเมษายน พ.ศ. 2558 ซึ่งรวมถึงสินบนของพวกนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ศุลกากรในเครือข่ายคนละ 800,000 เหรียญสหรัฐ และในที่สุดทั้งอดีตประธานาธิบดีออตโต เปเรซ และนางโรซานา บัลเดตตี อดีตรองประธานาธิบดีก็ต้องติดคุกไป

AFPนายจิมมี โมราเลส

นายจิมมี โมราเลส วัย 46 ปี นักแสดงตลกและพิธีกรรายการทีวีผู้มีชื่อเสียงโด่งดังจากบทคาวบอยบ้านนอกที่เกือบได้เป็นประธานาธิบดีในภาพยนตร์เมื่อปี พ.ศ. 2550 ส่วนในชีวิตจริงนั้นเขาเพิ่งลงสนามการเมืองระดับชาติครั้งแรก ได้ขี่กระแสความไม่พอใจนักการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชันที่ทั้งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีต้องถูกจับติดคุกก่อนหน้าการเลือกตั้งจึงมีคะแนนนิยมพุ่งพรวด แต่เขามีนโยบายเป็นรูปธรรมน้อยมากๆ ได้แต่ใช้คำขวัญระหว่างหาเสียงว่า “ไม่ทุจริต ไม่ปล้นประชาชน” โดยไม่เคยนำเสนอแผนการโดยละเอียดว่าจะปราบปรามการคอร์รัปชันอย่างไร นอกจากสัญญาว่าจะเพิ่มงบประมาณสำหรับกระบวนการยุติธรรม ทำให้งบประมาณการใช้จ่ายของรัฐบาลโปร่งใส และตรวจสอบสถาบันต่างๆ เท่านั้น เขายังประกาศระหว่างหาเสียงว่าจะให้ครูติดอุปกรณ์ จี.พี.เอส. เพื่อให้แน่ใจว่าครูจะไม่เบี้ยวการสอน (ซึ่งน่าสนใจทีเดียว)

ครับ! ประธานาธิบดีจิมมี โมราเลส ก็ยังเป็นประธานาธิบดีของประเทศกัวเตมาลาอยู่จนถึงปัจจุบันนี้