บินสูงสไตล์เจ้าพ่อคอนโดฯ แกะพิมพ์เขียว LPN บุกตลาด 1.1 หมื่น ล.
แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ เปิดคอนโดฯแถลง ผลประกอบการและแผนลงทุนที่โครงการ ลุมพินี วิลล์ รามอินทรา-หลักสี่ โดยมีนัยสำคัญคือ โครงการนี้เป็นตัว คิกออฟ แผนรับรู้รายได้โครงการแรกในปี 2552 หลังจากนั้นจะทยอยรับรู้รายได้อีก 6 โครงการคือ ลุมพินี วิลล์ ประชาชื่น- พงษ์เพชร, ลุมพินี วิลล์ รามคำแหง 26, ลุมพินี สวีท ปิ่นเกล้า, ลุมพินี สวีท พระราม 8, ลุมพินี เพลส พระราม 8 และลุมพินี คอนโดทาวน์ รัตนาธิเบศร์ รวมมูลค่า 8,000 ล้านบาท จาก 7 โครงการ
ปูแผนเชิงรุกปั๊มยอดโต 15%
ประเมินตลาดคอนโดฯ ในภาพรวม ยังเชื่อว่าจะลดลงจากปีที่แล้ว และน่าจะลดเยอะด้วย เซ็กเมนต์ที่จะอิมแพ็กต์แรงดูจากส่วนแบ่งตลาดปีที่แล้ว จะพบว่าราคา 1-3 ล้านมีสัดส่วนสูงสุด ฉะนั้นปีนี้น่าจะเป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบแรงสุด ขณะที่ราคาระดับ 1 ล้านบาทไม่น่าจะหดตัวมาก และเราเล่นกับตลาดนี้อยู่
คำอธิบายเปิดประเด็นของ โอภาส ศรีพยัคฆ์ เอ็มดีของ แอล.พี.เอ็น.ฯ
ผลประกอบการปี 2551 แอล.พี.เอ็น.ฯ มียอดขายทั้งสิ้น 9,000 ล้านบาท จาก 5 โครงการที่เปิดตัว ขณะที่บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวมเป็นเงิน 7,200 ล้านบาท จากการโอนกรรมสิทธิ์ใน 7 โครงการ จำนวนรวมประมาณ 8,000 ยูนิต ทำให้มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในตลาดคอนโดฯ
สำหรับแผนการลงทุนปี 2552 แอล.พี.เอ็น.ฯ วางเป้าหมายเปิดตัวโครงการใหม่ 6-8 โครงการ เฉลี่ยไตรมาสละ 2 โครงการ อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งหมดจะทำให้เสร็จภายในไตรมาสสาม เนื่องจากไตรมาสสุดท้ายบริษัทมีปฏิทินจัดกิจกรรมให้กับลูกบ้าน 30,000 ครัวเรือน คิดเป็นฐานลูกค้า ไม่ต่ำกว่า 50,000-60,000 ราย พื้นที่ใช้สอย 3 ล้านตารางเมตรค่อนข้างชุกชุม
รายละเอียดโครงการใหม่ 8 โครงการ จำนวนรวมประมาณ 10,000 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 11,000 ล้านบาท มีที่ประกาศทำเลได้เลยคือ โครงการลุมพินี วิลล์ ประชาชื่น-พงษ์เพชร เฟสสองลุมพินี วิลล์ รามอินทรา-หลักสี่ เฟสสอง และ ลุมพินี เพลส พระราม 9 เฟสสอง
ที่เหลืออีก 5 โครงการจำเป็นต้องเก็บงำเป็นความลับทางธุรกิจ เพราะมีการชิงความได้เปรียบอยู่เสมอๆ ในเรื่องการ ตัดหน้าดักลูกค้าจากเพื่อนร่วมวงการ แต่คอนเซ็ปต์โครงการใหม่ที่จะเปิดตัว ในปีนี้จะเป็นลักษณะ โครงการขยาย (expand project) เป็นหลัก
การเปิดตัวโครงการใหม่ปีนี้จะโตขึ้น 10-15% ถือเป็นการลงทุนเชิงรุก คำกล่าวถึงสไตล์การบุกตลาดของ แอล.พี.เอ็น.ฯ ในปีนี้จากปาก เอ็มดีโอภาส
ตกผลึกประสบการณ์สู้ศึกเศรษฐกิจ
ประสบการณ์ 12 ปีทำให้แอล.พี.เอ็น.ฯ รู้ว่าวันนี้เราเป็นใคร... คำตอบสั้นๆ ของ ทิฆัมพร เปล่งศรีสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานคณะกรรมการบริหาร แอล.พี.เอ็น.ฯ เมื่อถูกถามถึงคีย์ซักเซสของบริษัทในการแข่งขันปีนี้
โอภาส ขยายผลถึงมาตรการปรับตัวของแอล.พี.เอ็น.ฯ มีอย่างน้อย 4-5 กลยุทธ์ด้วยกัน ประกอบด้วย การบริหารสภาพคล่องทางการเงิน ณ วันนี้ บริษัท กอดเงินสด ไว้ในมือเกือบๆ 2,000 ล้านบาท สำหรับรองรับภาวะฉุกเฉินในกรณี เลวร้ายสุดๆ คือสถาบันการเงินไม่ปล่อย เงินกู้ให้อีกต่อไป
ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง บริษัทยังสามารถรันการก่อสร้างได้จนจบทุกโครงการที่จะเปิดตัวใหม่ในปีนี้
การระบายสินค้าคงคลัง ปกติบริษัทจะไม่มีสินค้าคงคลังหรือสต๊อกห้องชุด แต่เหตุการณ์ไม่ปกติก็คือ การเร่งเปิดโครงการใหม่ ทำให้พนักงานขายทุ่มเทไปกับการเปิดโครงการใหม่จนลืมกลับมาเก็บ โครงการเก่า ทำให้กลางปีที่ผ่านมา บริษัทมีสินค้าคงคลังตกค้างอยู่ใน 2 โครงการคือ ลุมพินีคอนโดทาวน์ บดินทรเดชา-รามคำแหงประมาณ 20% หรือ 500-600 ยูนิต และลุมพินี เพลส รัชดาฯ-ท่าพระอีกประมาณ 250 ยูนิต
นำไปสู่การปรับแผนช่วงกลางปีโดยชะลอเปิดตัวโครงการใหม่ออกไป และมุ่งเน้นเคลียร์สต๊อกในโครงการเหลือขาย ส่งผลให้สินค้าคงคลังลดลงเหลือประมาณ 10% หรือประมาณ 1,400 ล้านบาท โดยเป้าหมายคือจะต้องกลับไปสู่จุดเดิม จุดที่ ไม่มีสินค้าคงคลัง ภายในปีนี้
การปรับแผนงานก่อสร้าง ตุ๊กตาของแผนงานด้านนี้คือเจรจากับพันธมิตรบริษัทรับเหมาขอให้เร่งงานก่อสร้างเร็วขึ้น 1 เดือน เรามองว่ายิ่งเร็วเท่าไหร่ ความเสี่ยงก็ยิ่งลด...
R & D บริษัทจัดทำระบบงานวิจัยซึ่งรวบรวมผลสำรวจฐานข้อมูลลูกค้าตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมา และกลายเป็นระบบที่ส่งเสริมให้บริษัทประสบความสำเร็จในการเปิดตัวโครงการในทุกทำเลที่เข้าไปบุกตลาด หน้า 7