ชุมพรน้ำป่าทะลัก-ท่วมพัทยาเริ่มคลี่คลาย,สตูลจมปิดร.ร.

น้ำป่าไหลทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชนใน อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร เร่งช่วย ส่วน สตูล น้ำป่าหลาก ปิดรร.-ชาวบ้านอพยพ ขณะที่ พัทยา น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย หลังเจ้าหน้าที่เร่งระบาย - จันทบุรี แม่น้ำเอ่อท่วมหลายพื้นที่ ด้าน อุตุฯ เตือน พายุหมุนหว่ามก๋อ ฉบับที่ 17
นายวงศศิริ พรหมชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร สั่งการ ว่าที่ ร.ต.กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอพะโต๊ะ ออกสำรวจสถานการณ์น้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วม และอพยพชาวบ้านที่อาจได้รับอันตรายในพื้นที่ อ.พะโต๊ะ หลังจากฝนตกหนัก 2 วันติดกัน ในช่วงกลางดึก มีฝนตกลงมาตลอดเวลา กระแสน้ำป่าได้ไหลเข้าท่วมถนนสายพะโต๊ะ ถึงบ้านหลางตาง มีความสูงเกือบ 1 เมตร บ้านเรือนชาวบ้าน และวัดแหลมทราย ถูกน้ำป่าไหลล้อมรอบ ชาวบ้านได้อพยพออกมาอาศัยบ้านญาติในที่ปลอดภัย บางส่วนไม่สามารถกลับเข้าบ้านได้ ที่วัดแหลมทราย มีพระภิกษุ 7 รูป ว่าที่ ร.ต.กิตติภพ ได้ไปนิมนต์ให้ออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย แต่พระทั้ง 7 รูป บอกว่า ขออาศัยอยู่ในวัดต่อไป มั่นใจว่าระดับน้ำคงไม่สูงไปมากกว่านี้ ด้าน พ.ต.อ.นริศ สุนทรโรจน์ ผกก.สภ.พะโต๊ะ เตรียมกำลังพลในการให้ความช่วยเหลือประชาชน ขณะที่เรือดำน้ำที่ สะพานพะโต๊ะ มีความสูงจนถึงจุดวิกฤติ และจะส่งผลให้ อ.หลังสวน จะได้รับผลกระทบในวันนี้
น้ำท่วมพัทยาเริ่มคลี่คลายหลังจนท.ระบาย
ความคืบหน้า ภายหลังจากผลพวงของพายุดีเปรสชั่น "หว่ามก๋อ" ที่ส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งตะวันตกริมทะเลที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา พื้นที่เขตเมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เกิดน้ำท่วมขัง หลังฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ตั้งแต่ช่วงเวลาเย็นจนถึงค่ำ ทำให้บนถนนสุขุมวิท กม.ที่ 176 เส้นทางสัตหีบ-พัทยา บริเวณแยกสัตหีบ เกิดน้ำท่วมขังเป็นวงกว้าง มีระดับน้ำสูงหลายเซนติเมตร และพื้นที่ราบต่ำ ต่างได้รับผลกระทบ สาเหตุจากน้ำระบายลงทะเลไม่ทัน และเป็นผลให้การจราจรเป็นอัมพาต พาหนะและบ้านเรือนประชาชนเสียหายเป็นจำนวนมาก
โดย เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองสัตหีบ ได้นำเครื่องสูบน้ำเข้าเร่งระบายน้ำ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ หน่วยกู้ภัย ที่ได้อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ซึ่งใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง สถานการณ์จึงเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ขณะที่ บริเวณมอเตอร์เวย์ ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมขังเช่นกัน จนส่งผลกระทบต่อการสัญจร ล่าสุดจุดที่มีน้ำท่วมขังก่อนหน้านี้คือ ช่วง กม.98 กม.103 และ กม.116 น้ำได้แห้งหมด และสามารถเปิดใช้การได้ตามปกติแล้ว
แม่น้ำจันทบุรีเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชน
สถานการณ์น้ำในแม่น้ำจันทบุรี และพื้นที่จุดวัดน้ำใน 4 จุดหลัก พบว่าระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ล่าสุด น้ำในแม่น้ำจันทบุรี ได้ไหลเอ่อเข้าท่วมซอยบ้านหัวแหลม หมู่ที่ 2 ต.ท่าช้าง อ.เมือง ทำให้ชาวบ้านใน 6 หลังคาเรือน และสวนผลไม้ มีน้ำท่วมขังสูง จนต้องใช้เรือเป็นพาหนะสัญจรเข้าออก ขณะที่ ชลประทานที่ 9 ได้เปิดประตูระบายน้ำทั้ง 5 บาน บริเวณคลองบายพาส เร่งพร่องน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลให้มากที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมในตัวเมืองจันทบุรี และพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ ส่วนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริม 2 ฝั่งแม่น้ำจันทบุรี เริ่มออกมาหาซื้อกระสอบทรายเพื่อเตรียมกั้นป้องกันน้ำจากแม่น้ำกันแล้ว ด้าน นายดิษฐพล รัตนไชย หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า จากการที่มีฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 15 - 16 กันยายน 2558 จากอิทธิพลพายุหว่ามก๋อ สถานการณ์ปัจจุบันมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ และริมน้ำในบางพื้นที่ เช่น ต.วังแซ้ม ต.มะขาม ต.เขาวงษ์ ต.เขาพลอยแหวน ต.ท่าใหม่ และ ต.ท่าช้าง ในส่วนนี้ทางจังหวัดจันทบุรี นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้มีการสั่งการให้นายอำเภอทั้ง 10 อำเภอ มีการติดตามสถานการณ์น้ำและปริมาณฝนอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดเคลื่อนที่เร็ว คอยให้การช่วยเหลือชาวบ้านไว้พร้อมทั้งหมดแล้ว
อุตุเตือนพายุอีสานล่างภาคกลางตอ.ใต้มีฝนตกหนัก
เมื่อเวลา 04.00 น. (17 ก.ย. 2558) หย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังจากพายุดีเปรสชัน “หว่ามก๋อ” (VAMCO) ยังคงปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และประเทศกัมพูชา ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ยังคงมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา และภูเก็ต ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนักถึงหนักมาก รวมถึงฝนที่ตกสะสม สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงวันที่ 17-18 กันยายน 2558 ไว้ด้วย
ประกาศ ณ วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 05.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไป ในวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 11.00 น.
(ลงชื่อ) วันชัย ศักดิ์อุดมไชย
(นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย)
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา
ขณะที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเมีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
สตูลน้ำป่าไหลหลากปิดรร.-ชาวบ้านอพยพ
สถานการณ์ในพื้นที่ จ.สตูล ในขณะนี้ เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำทะเลหนุนไหลเข้าท่วมพื้นที่ อ.ละงู อ.ควนโดน ซึ่งโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดสตูล ได้ปิดโรงเรียนแล้ว ล่าสุด 2 แห่ง โรงเรียนบ้านปันจอร์ และโรงเรียนอื่น ๆ ปิดเช่นกัน เนื่องจากเส้นทางในการเดินทางของนักเรียนและผู้ปกครอง ไม่สะดวกที่จะเดินทางมาโรงเรียน ขณะที่หลายโรงเรียน เตรียมพร้อมอพยพย้ายข้าวของมาที่ปลอดภัย ชาวบ้านในพื้นที่ อ.ควนกาหลง อ.ละงู อ.ควนโดน บ้างอพยพข้าวของไว้ในพี้นที่ปลอดภัยและเข้าพักบ้านญาติ ในปีนี้ จ.สตูล เกิดภัยน้ำท่วมเป็นครั้งที่ 3 เช่น เช่นเดียวกับพื้นที่เทศบาลเมืองสตูล น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านหลายชุมชน นายประสิทธิ์ แบ้สกุล นำเจ้าหน้าที่ของเทศบาลดูสถานการณ์น้ำ คู คลอง และเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่อพยพทันทีหากมีน้ำท่วม
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ที่ จ.สตูล ได้ฝากคณะทัวร์ที่จะเข้าท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยว คือ ล่องแก่งในพื้นที่ อ.ละงู ในพื้นที่วังสายทอง ให้เลื่อนไปก่อนจนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย เพื่อความปลอดภัย
น้ำท่วมพัทยาคลี่คลายจนท.ยังเฝ้าระวัง
นายชาญชัย อตมศิริกุล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี (ปภ.) เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สถานการณ์น้ำใน อ.บางละมุง ขณะนี้ได้ระบายลงทะเลไปหมดแล้ว แต่ทุกฝ่ายยังคงเฝ้าระวังอยู่เพราะมีโอกาสที่ฝนจะตกต่อเนื่องไปอีก 2 วัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดภัยธรรมชาติ ซึ่งทาง นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง ได้สั่งการให้ท้องถิ่นลงพื้นที่สำรวจและประเมินความเสียหายพร้อมทั้งหามาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบต่อไป
ด้าน นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้มีการกำชับให้ทุกหน่วยดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนให้ดีที่สุดและเฝ้าระวังสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม นายชาญชัย ระบุว่า น้ำที่ท่วมหนักบริเวณเมืองพัทยานั้นมีสาเหตุมาจาก ฝนที่ตกในพื้นที่ที่เป็นเขาไหลลงมารวมกับฝนที่ตกในตัวเมืองพัทยา ซึ่งมีปริมาณสูงถึง 127.2 มิลลิเมตร ประกอบกับน้ำทะเลหนุน จึงทำให้น้ำไม่สามารถระบายได้ทัน
ทั้งนี้ อยากฝากถึงประชาชนให้คอยติดตามข่าวสาร เก็บของไว้ในที่สูง และอยากขออภัยประชาชนหากการปฏิบัติงานมีความบกพร่อง