ครม.เทงบเยียวยาเหยื่อม็อบกว่า1949ล.-จ่ายผู้ติดคุกฟรี

ครม.เทงบเยียวยาเหยื่อม็อบกว่า1949ล.-จ่ายผู้ติดคุกฟรี

ครม.เทงบเยียวยาเหยื่อม็อบกว่า1949ล.-จ่ายผู้ติดคุกฟรี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติจ่ายเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ปี 2548 - 2553 โดยผู้ที่เป็นเจ้าของหรือมีกรรมสิทธิ์ ในสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้รับความเสียหายทั้งหมดหรือบางส่วน ที่ได้ทำการลงทะเบียนไว้แล้ว ถือเป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาจำนวนเป็นเงินได้ทั้งหมด 8 ระดับคือตั้งแต่น้อยกว่า 100,000 บาทไปจนถึงมากกว่า 5 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นกว่า 16,286 ราย และ ใช้เงินงบประมาณรวม 1,949,675,000 บาท โดยได้มอบให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาและเป็นผู้เบิกจ่ายงบประมาณต่อไป ครม. เยียวยาผู้ต้องหาจำคุกม็อบ สูงสุด 1.5 ล้านน.พ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติจ่ายเงินเยียวยาให้แก่ผู้ต้องหาที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ปี 2548 - 2553 ในกรณีมีการควบคุมและคุมขังเกินกว่าโทษที่ได้รับ หลังจากที่อัยการสั่งไม่ฟ้องหรือศาลมีคำตัดสินจำคุกน้อยกว่าจำนวนวันที่ถูกต้องขังมาแล้วคือไม่เกิน 90 วัน จ่ายเงินเยียวยาควบคุมและคุมขังน้อยกว่าหรือเท่ากับ 37,030 บาท เกินกว่า 90 วัน แต่ไม่เกิน 180 วัน จ่ายเงินเยียวยาควบคุมและคุมขัง 74,060 บาท และเพิ่มเงินเยียวยาด้านจิตใจให้อีก 750,000 บาทรวมน้อยกว่าหรือเท่ากับ 824,060 บาท ส่วนผู้ต้องขังเกินกว่า 180 วันจ่ายเงินเยียวยาควบคุมและคุมขัง 74,471 บาท และเพิ่มเงินเยียวยาด้านจิตใจอีก 1,500,000 บาท รวมเป็นเงินมากกว่าหรือเท่ากับ 1,574,471 บาท รวมทั้งสิ้น 500 รายการ ทั้งหมดเป็นเงิน 287,760,700 บาท และมอบให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาและเป็นผู้เบิกจ่ายงบประมาณต่อไป ครม.ผ่านกรอบเงินเฟ้อ 0.5-3% ต่อปีน.พ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ว่า ที่ประชุมได้รับรายงานถึงเป้าหมายกรอบเงินเฟ้อในปี 2556 โดยทางคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ในการกำหนดอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานรายไตรมาสประจำปี 2556 โดยมีระยะอยู่ในกรอบที่ร้อยละ 0.5 - 3 ต่อปี ซึ่งจะมีการดำเนินการตามกรอบต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังเห็นชอบในการลงนามกรอบเจรจาในการใช้กฎหมายป่าไม้และการค้าระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป ซึ่งจะมีการดำเนินการหารือต่างๆ ก่อนที่จะเสนอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาตามมาตรา 190 ต่อไป เพื่อให้การค้าระหว่างไทยและสหภาพยุโรปในส่วนของการค้าไม้ ไม่มีปัญหาในอนาคต ครม.ขยายทุนเรือนหุ้นให้ธ.ก.ส.เป็น6หมื่นล.นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีการพิจารณาและอนุมัติในการขอขยายทุนเรือนหุ้นของทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตามที่ กระทรวงการคลัง เสนอในการอนุมัติขยายเรือนหุ้นเดิม จากเดิมที่ 50,000 ล้านบาท เป็นวงเงิน 60,000 ล้านบาท โดยการดำเนินดังกล่าวนั้น เพื่อจะให้ทาง ธ.ก.ส. นั้น สามารถดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลได้มีความคล่องตัวมากขึ้นนอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังได้อนุมัติกรอบการเจรจาการทำข้อตกลงเป็นหุ้นส่วนด้วยความสมัครใจในการบังคับใช้กฎหมายป่าไม้ธรรมาภิบาลและการค้าระหว่างประเทศไทยกับสหภาพยุโรป ตามที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอ โดยมีมติเห็นชอบกรอบเจรจาดังกล่าว และควรนำเสนอให้รัฐสภาพิจารณาความเห็นชอบตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญต่อไป ครม. ตั้ง 'ศรศักดิ์' นั่ง อธิบดีกรมเจ้าท่า นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า ที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนระดับสูงของทางกระทรวงคมนาคม ตามที่ กระทรวงคมนาคม เสนอมา โดยที่ประชุมมีมติแต่งตั้ง นายสรศักดิ์ แสนสมบัติ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ให้มาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเจ้าท่า นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางบก ให้เข้าดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงคมนาคม และ นายประเสริฐศิริ สุขวัฒนกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางน้ำ ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้แต่งตั้งประธานคณะกรรมการและคณะกรรมการในองค์การการตลาด โดยให้ นายสมิทธิ ดารากร ณ อยุธยา เป็นประธานคณะกรรมการ พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการอีก 13 คน เข้าดำรงตำแหน่งแทนที่คณะกรรมการชุดเดิม ที่หมดวาระลง ครม.อนุมัติข้อตกลงข้ามแดนไทย-มาเลเซียนายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติความตกลงว่าด้วยการเดินทางข้ามแดนประเทศไทย - มาเลเซีย โดยได้มีการอนุมัติให้จัดทำร่างความตกลง ว่าด้วยการเดินทางข้ามแดนระหว่างไทย - มาเลเซีย โดยอนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศ จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม เพื่อการลงนามว่าด้วยความตกลงดังกล่าว โดยในส่วนของรายละเอียดของความตกลงดังกล่าวนั้น จะมีการปรับเปลี่ยนการใช้กฎหมายระหว่างประเทศและมาเลเซียในการข้ามแดน โดยจะมีการขยายอายุการใช้งานกำหนดให้หนังสือเดินทางผ่านแดน มีอายุใช้งาน 1 ปี จากเดิมที่มีเพียง 6 เดือน และระยะเวลาการพำนักเวลา 7 วัน เป็น 30 วัน ในพื้นที่ชายแดนครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนของประเทศไทย ได้แก่ จ.สงขลา จ.สตูล จ.ยะลา จ.นราธิวาส และ จ.ปัตตานี ขณะที่ครอบคลุมพื้นที่ 4 รัฐของประเทศมาเลเซีย ได้แก่ รัฐเคดาห์ รัฐกลันตัน รัฐเปรัคและรัฐเปอร์ลิส ทั้งนี้ได้มีการพิจารณาแล้วว่า ไม่เป็นหนังสือสัญญาที่จะต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา ตามมาตรา 190 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ครม. อนุมัติงบ 458 ล้าน ชดเชยรถไฟฟรีน.พ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบและอนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย รับเงินงบประมาณจัดสรรรายจ่าย เพื่อชดเชยเงินต้นและดอกเบี้ย ในการดำเนินมาตรการลดค่าครองชีพของประชาชน หรือ รถไฟฟรีในช่วงที่ผ่านมา เป็นวงเงินกว่า 458 ล้านบาท จากเดิมที่จะให้ทางกระทรวงการคลัง เป็นผู้จัดสรรเงินกู้ให้นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังอนุมัติงบรายการจ่ายประจำปี เพื่อสำรองฉุกเฉิน กรณีจำเป็นวงเงิน 66 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสรร รถบรรทุกดีเซล ขนาด 1 ตัน แบบดับเบิ้ลแคป หุ้มเกราะกันกระสุน จำนวน 33 คัน เพื่อทดแทนรถที่มีประจำการอยู่เดิมที่เสื่อมประสิทธิภาพ ในระยะเวลา 8 ปี ตามที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสนอมา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook