จะไป "กวางยา" : ว่าด้วยการทำเพลงเป็น "จักรวาล" โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
ตลอดช่วงครึ่งแรกของปี 2021 หนึ่งในประเด็นที่พูดคุยกันพอสมควรในวงการเคป็อปคือการหาคำตอบว่า กวางยา (Kwangya) มันคืออะไรกันแน่ เกี่ยวอะไรกับกวางเจาหรือเปล่า บางคนก็หาข้อมลูจนมึนแล้วแซวไปเลยว่ามันไม่ใช่กวางยา แต่เป็นวางยาต่างหาก
สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน ผู้เขียนขอสรุปแบบย่นย่อว่า คำว่ากวางยาเนี่ยเป็นคำที่ปรากฏในเพลงของ aespa วงเกิร์ลกรุ๊ปล่าสุดของค่าย SM Entertainment ทั้งเพลง "Black Mamba" และ "Next Level" แถมต่อมาคำนี้ยังอยู่ในเนื้อเพลงของวงเครือ NCT และ EXO ด้วย ดังนั้นกวางยาก็เลยน่าจะเป็นตัวเชื่อมเหล่าศิลปินในค่าย SM ตามที่ค่ายนี้พยายามจะสร้าง ‘จักรวาล’ ของตัวเองขึ้นมาในชื่อ SM Culture Universe หรือ SMCU (นี่มันอะไรกันคร้าบบบ)
อันที่จริงการสร้างจักรวาลแบบ SMCU ไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียว เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้อาจเป็นสเกลที่เล็กกว่า อย่างในวงการเพลงสากลก็จะมี concept album อันหมายถึงอัลบั้มที่แต่ละเพลงมีเนื้อหาต่อเนื่องกัน ไม่ได้แยกอย่างโดดเดี่ยว และนำไปสู่ธีมสำคัญบางอย่าง ตัวอย่างงานคลาสสิกก็เช่น The Wall (1979) ของ Pink Floyd เล่าถึงศิลปินร็อคที่รู้สึกแปลกแยกจนสร้างกำแพงปิดกั้นตัวเองกับโลกภายนอก หรือ Metropolis Pt. 2: Scenes from a Memory (1999) ของ Dream Theater ว่าด้วยชายหนุ่มที่ระลึกชาติถึงหญิงสาวที่ถูกฆาตกรรม
ส่วนฝั่งเคป็อป คอนเซ็ปต์อัลบั้มที่เด่นๆ คืองานของ BTS อย่าง Wings (2016) และ Love Yourself: Tear (2018) ทว่าวงการเพลงเกาหลีอาจจะมีคอนเซ็ปต์อัลบั้มไม่มากนักเพราะเน้นการออกอีพี, มินิอัลบั้ม, ซิงเกิ้ลอัลบั้ม มากกว่าอัลบั้มเต็ม จึงมีลักษณะเป็นคอนเซ็ปต์แบบ ‘ซีรีส์’ ต่อเนื่องมากกว่า อาทิ Knight Series ของวง NU’EST ประกอบด้วยอีพี 3 ชุด (Q is, Canvas และ Happily Ever After) ที่เล่นกับธีมอัศวินและราชินี หรือไตรภาคดอกไม้ของ IZ*ONE (COLOR*IZ, HEART*IZ และ BLOOM*IZ) ที่ทั้งเนื้อหา เอ็มวี และวิชวลอาร์ตล้วนเกี่ยวกับดอกไม้นอกจากนั้นชาแนล DKDKTV ยังเคยวิเคราะห์เรื่อง ‘เวลา’ และ ความเชื่อมโยงระหว่างเพลง YOU & I, above the time และ Blueming ของ IU ไว้ด้วย
ส่วนการสร้างคอนเซ็ปต์ที่เป็น ‘จักรวาล’ (Universe) ขึ้นมา มักมีท่าทีเล่นใหญ่และสร้างสรรค์สตอรี่ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ตัวอย่างที่ใกล้เคียงก็เช่น การเปิดตัววง EXO ช่วงแรกๆ ที่เล่นกับธีมพลังวิเศษของสมาชิกทั้ง 12 คน แต่ต่อมาเมื่อวงมีชื่อเสียง บวกกับสมาชิกบางคนออกจากวง คอนเซ็ปต์นี้ก็ค่อยๆ จางหาย และเปลี่ยนไปเน้นที่ความโดดเด่นของตัวเพลงแทน
หรืออีกกรณีคือวง LOONA ที่เปิดตัวอย่างพิสดารด้วยการสร้างจักรวาลชื่อ LOONAVERSE และแบ่งเป็น 3 ยูนิต ได้แก่ LOONA 1/3 เด็กสาวที่อยู่บนโลก, ODD EYE CIRCLE ผู้อยู่ระหว่างโลกและจักรวาล (หรือ middle earth) และกลุ่ม yyxy ที่อยู่ในโลกอุดมคติ (utopia) ซึ่งเรื่องราวการข้ามจักรวาลไปมาของทั้งสามกลุ่มจะถูกสอดแทรกในทีเซอร์และเอ็มวีของวง อย่างไรก็ดี เนื่องจาก LOONA (ในตอนเปิดตัว) เป็นวงใหม่ การแนะนำวงด้วยเรื่องราวที่ซับซ้อนจึงทำให้คนทั่วไปเข้าถึงยากพอสมควร หลายคนอาจจำเพลงของพวกเธอได้ แต่ไม่ได้สนใจเรื่องจักรวาลอะไรนี่นัก (อนึ่ง ชาแนล Thumbster อธิบายเรื่อง LOONAVERSE ไว้อย่างละเอียด ลองดูกันได้จ้า)
ส่วนกรณีกวางยาของ SM อาจต่างออกไป ถึง aespa จะเป็นวงใหม่เช่นกัน แต่นี่คือเกิร์ลกรุ๊ปของ SM ใครๆ ก็ล้วนสนใจในตัวพวกเธอ เธอเป็นใคร มาจากไหน คนไหนเก่งร้อง คนไหนเก่งเต้น พูดได้กี่ภาษา เนื้อเพลงเกี่ยวกับอะไร เอ็มวีซ่อนความหมายอะไรเอาไว้ ฯลฯ แล้วพอยิ่งกวางยาไปโผล่ในเพลงของศิลปินอื่นๆ ของ SM แฟนคลับก็ต้องทำการบ้านถอดรหัสให้ได้แหละว่าสรุปแล้วกวางยานี่มันคืออะไร
ซึ่งโดยสรุปคร่าวๆ แล้วกวางยาก็น่าจะเป็นดินแดนอะไรสักอย่าง ประมาณอาณาจักรมโนหรือเมืองทิพย์ แถมในเอ็มวี "Next Level" ยังมีเลข gps ของกวางยาโผล่มาแวบๆ เมื่อเอาไปค้นใน maps ก็พบว่ามันคือที่ตั้งของตึก SM แห่งใหม่นั่นเอง (ช่างล้ำลึก!) แต่พอเริ่มเข้าใจกวางยา มันก็จะมีคำอื่นโผล่มาอีกในเพลงของ aespa ทั้ง KOSMO ที่น่าจะเป็นโลกที่อยู่เหนือกวางยา, NAVIS คนที่สามารถเปิดระบบเชื่อมโยงให้อวาตาร์มาสู่โลกจริงได้ และ Black Mamba ที่เหมือนจะเป็นตัวร้ายของเรื่อง โอ๊ย ปวดหัว! (แนะนำให้ดูคลิปของช่อง Doyouram เขาอธิบายได้ดีทีเดียว)
จะเห็นได้ว่าจักรวาล SMCU ที่มีความเป็นไซไฟ มีตัวร้ายตัวดี จะมีความเป็นภาพยนตร์สูงมาก เดาได้ไม่ยากเลยว่าได้อิทธิพลมาจาก Marvel Cinematic Universe (MCU) แน่นอน ซึ่งทั้งสองจักรวาลนี้มีแนวคิดเดียวกันคือการทำเพลง/หนังให้กลายเป็น ‘อีเวนต์’ (Eventization) คือมันไม่ใช่แค่เพลงเพลงหนึ่งหรือหนังเรื่องหนึ่งแล้ว แต่มันคือมหกรรมหรือทอล์คออฟเดอะทาวน์อะไรบางอย่างที่ฉันจะพลาดไม่ได้ ไม่งั้นจะตกเทรนด์เอา
คาดการณ์ได้ว่าวงอื่นๆ ใน SM อย่าง Super Junior, Red Velvet, SHINee หรือ Girls’ Generation (ถ้าได้คัมแบ็ค) จะต้องมาร่วมจักรวาลกวางยานี่แน่นอน แต่แฟนคลับบางส่วนก็แอบเป็นห่วงนิดๆ ว่ามันดูฝืนไปมั้ยนะ หรือนี่เป็นการทำเพลงที่เน้นเรื่องคอนเซ็ปต์มากกว่าตัวเพลงจริงๆ มากไปหรือเปล่า อันนี้ก็ต้องรอดูว่า SM จะทำออกมาอย่างไร
อีกแง่ของความฝืนของการใส่คำแบบ ‘กวางยา’ หรือ ‘คอสโม’ ลงไปในเนื้อเพลง ฟังครั้งแรกก็รู้สึกอิหยังวะไม่น้อย (ขนาดแฟนเพลงต่างชาติยังว่าแหม่งๆ คนฟังเกาหลีหรือคนที่รู้ภาษาเกาหลีน่าจะยิ่งรู้สึกมากไปอีก) ถึงกระนั้นการออกแบบเพลงก็ช่วยได้มาก ไม่ว่าจะท่อนติดหูสุดขีด “วู่วว หู่ ฮู้ววว” ใน "Next Level" ของ aespa หรือทำนองเพลงสนุกสนานใน "Don't fight the feeling" ของ EXO ก็ทำให้มองข้ามเหล่าคำแปลกประหลาดไปได้
นอกจากจักรวาลของฝั่ง SM แล้ว ณ ตอนที่เขียนต้นฉบับอยู่นี้ JYP ก็เปิดตัวโปรเจกต์ Blind Package ที่ให้แฟนๆ สั่งซื้อซีดีของเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ที่จะเดบิวต์ในปี 2022 โดยไม่มีข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น และผลก็คือยอดขายกว่าหกหมื่นชุด เรียกได้ว่านี่เป็นการแข่งขันยุคใหม่ของวงการเคป็อปที่ต้องงัดกลยุทธ์แปลกแหวกแนวมาสู้กัน แต่ก็จะเป็นแค่ค่ายขาใหญ่เท่านั้นที่ทำอะไรแบบนี้ได้เพราะมีฐานแฟนอยู่แล้ว ค่ายระดับเล็กและกลางคงได้ปาดเหงื่อกันหน่อย เพราะยุคนี้เพลงดีอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ
*เพลงของศิลปิน SM ที่มีเนื้อเพลงคำว่า "กวางยา" (Kwangya) ปรากฏอยู่ aespa - Black Mamba, NCT U - 90's Love, EXO - Don't Fight the Feeling, aespa - Next Level และ NCT DREAM - Hello Future (นับถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2021)
____________________
ผู้เขียน - คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
(Kanchat Rangseekansong)
เปิดโลกดนตรีและไอดอลกับคันฉัตร
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ