"รุจ - ขนมจีน" เผยเรื่องบังเอิญสุดฟิน ที่เป็นจุดเริ่มต้นเพลง "วันที่ฉันพบเธอ" | Sanook Music

"รุจ - ขนมจีน" เผยเรื่องบังเอิญสุดฟิน ที่เป็นจุดเริ่มต้นเพลง "วันที่ฉันพบเธอ"

"รุจ - ขนมจีน" เผยเรื่องบังเอิญสุดฟิน ที่เป็นจุดเริ่มต้นเพลง "วันที่ฉันพบเธอ"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่ย้ายมาอยู่ในค่าย Me Records ไม่นาน รุจ ศุภรุจ ก็ได้มาพร้อมผลงานเพลงใหม่ในที่สุด กับซิงเกิ้่ลเพลง วันที่ฉันพบเธอ ที่เขาได้ชวน ขนมจีน กุลมาศ อดีตศิลปินกามิกาเซ่ จนทำให้หลายคนรู้สึกฟินกันไปตามๆกัน จนทำให้ซิงเกิ้ลนี้ได้รับการตอบรับที่ดีไม่แพ้เพลงที่ผ่านมาของ รุจ และ ขนมจีน เลย

และล่าสุด รุจ และ ขนมจีน เองก็ได้มาพูดคุยกับทีมงาน Sanook! Music ถึงผลงานเพลงใหม่ วันที่ฉันพบเธอ ซึ่งทั้งคู่ได้เล่าถึงเรื่องราวความน่ารักของเพลง พร้อมเเซวกันไปมาจนทำให้พวกเรายิ้่มกันไปตามๆกันเลย กับความน่ารักของพี่น้องเสียงดีคู่นี้ 

 

 

รุจ มาร่วมงานกับทาง Me records ได้อย่างไร

รุจ ศุภรุจ : ก็เดินผ่านไปเลยสมัครงานครับ (หัวเราะ) จริงๆ คือผมเคยทำงานกับพี่ฟองเบียร์มานานแล้ว เขาแต่งเพลงให้เราตั้งแต่จบจากเดอะสตาร์ พอเขาออกจากแกรมมี่ก็คุยกันว่าอาจจะร่วมงานกันอีก และล่าสุดก็หมดสัญญากับ Exact ซึ่งเราก็คุยกันว่าอยากหาลู่ทางใหม่ๆ เพราะค่ายก็ไม่ทำเพลงแล้ว ก็เลยย้ายมาค่ายนี้ครับ การทำงานก็เหมือนเดิม แต่ด้วยตำแหน่งพี่เบียร์ที่ใหญ่ขึ้น ก็ตามงานยากขึ้นครับ

 

ส่วนตัว รุจ ประทับใจการทำงานกับพี่เบียร์ตรงไหนบ้าง 

รุจ ศุภรุจ : คือฝีมือการแต่งเพลงพี่เขาขึ้นหิ้้งอยู่แล้วครับ และเขาเป็นพี่ชายที่ช่วยเราตลอด พอเราอยากมีเพลงใหม่เขาก็แต่งให้ถึงแม้ต้องรอนานหน่อย แต่จริงๆถ้าเขาว่างชั่วโมงเดียวก็เสร็จแล้วครับ 

 

กลับมาคราวนี้ มากับเพลง วันที่ฉันพบเธอ เพลงนี้มีเนื้อหาพูดถึงอะไร  

รุจ ศุภรุจ : เพลงนี้เป็นเพลงของคนสองคนครับ ที่ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมา และขอบคุณที่จะอยู่กันตลอดไป เป็นเพลงรีกโรแมนติกแต่ผมอาจจะไม่อินเท่าไหร่ (หัวเราะ) คือทุกคนน่าจะเข้าใจกันอยู่แล้ว

 

 

แล้วมาร่วมงานกับขนมจีนได้อย่างไรในเพลงนี้

รุจ ศุภรุจ : ไปตกปลาแล้วเจอครับ (หัวเราะ) ตอนก่อนที่จะทำเพลงก็อยากได้ความใหม่ เพราะเราพึ่งย้ายค่ายก็อยากให้มีอะไรใหม่ๆ เลยหาลูกเล่น พอวันหนึ่งไปงานแต่งงาน เตชินท์ ก็เป็นงานแต่งงานแรกในรอบหลายปีที่ไป ก็เจอขนมจีน เลยได้คุยกัน ซึ่งรู้จักกันมา 7 ปีแต่แทบไม่ได้คุยกันเลย เขาก็บอกว่ากำลังหมดสัญญากับ RS กลางปี 2560 ก็คุยตอนเดือนกุมภาพันธ์ พอเพลงเสร็จประมาณช่วง เมษายนก็ลองฟังดู เลยอยากชวนผู้หญิงมาสร้างสีสัน

เลยคิดถึงขนมจีนและชวนขนมจีนมาเพราะเขาเป็นคนเก่งมีความสามารถครับ แถมร้องเพลงดีมากด้วย คือคนแบบนี้มีเยอะ แต่ส่วนมากเป็นคนในเดอะสตาร์ซึ่งไม่แปลกใหม่อะไร และขนมจีนมาจากค่ายตรงข้ามด้วยเลยคิดว่ามันน่าจะแปลกใหม่มาก เพราะค่าย ลาดพร้าว อโศก ไม่น่าร้องด้วยกันได้ แต่จริงๆฟังผลงานน้องตั้งแต่เพลง ปากดีขี้เหงา เอาแต่ใจ (หัวเราะ) คือภาพของน้องก็เป็นสายร็อก มีความโกธิกนิดๆ กรีดตา ก็ไม่คิดว่าจะโตเป็นแบบนี้ ก็รอจนเขาหมดสัญญาเดือนกรกฎาคมเลยได้มาทำงานด้วยกัน

ขนมจีน กุลมาศ : เดี๋ยวนะเพลงนั้นมันไม่ใช่นะ แต่จริงๆเพลงนั้นปล่อยมาพร้อมกัน คนเลยคิดว่าเป็นเพลงของขนมจีน ทั้งๆที่เป็นเพลงของมิล่า (หัวเราะ)

 

ขนมจีนรู้สึกอย่างไรที่ถูกชักชวนมาร่วมงาน

ขนมจีน กุลมาศ : ก็รู้สึกดีใจค่ะ เพราะมันเป็นมิติใหม่ของวงการเพลงที่คนเคยอยู่ต่างค่ายมาทำงานด้วยกัน คือมันเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ Me records ก็ทำให้มันเกิดขึ้นได้ เพราะต่างประเทศอย่างที่เกาหลีนี่ร้องเพลงด้วยกันได้ทุกค่ายเลย

รุจ ศุภรุจ : คือตอนแรกผมเองก็ได้ถามพี่ฟองเบียร์ว่าจะทำอย่างไร พี่เขาก็โอเคเลย ก็ไม่รู้ว่าไปติดใจอะไรกัน (หัวเราะ) แต่พี่ฟองเบียร์เขาอยากให้ผมร้องเพลงกับผู้หญิงอยู่แล้วเพราะตอนทำเพลง กระทันหัน กับ ฟิล์ม บงกช มันเวิร์กมาก

 

อีกหนึ่งศิลปินที่มาช่วยทำเพลงนี้ก็คือพี่ พล Clash การทำงานกับพี่เขาเป็นอย่างไร

รุจ ศุภรุจ : ตั้งแต่ตอนอยู่ค่าย WE ผมเองก็อยากทำงานกับพี่เขามานานแล้ว ก็อยากให้เขาเป็นโปรดิวเซอร์แต่คลาดกันทุกที เคยไม่ขอแล้วเขาไม่ว่าง และเคยจะทำวงและมันล่มเลยไม่ได้ทำ ตอนนี้เลยไปขอให้เขามาช่วยเพราะเขาดูแลค่าย Boxx music ที่เป็นอีกค่าย ตอนทำงานเขาก็พาพี่ ป๊อก Zeal และพี่ ยักษ์ Troop tower และหลายคนมาช่วยงานนี้ ก็ดีใจที่ได้ทำงานกับทุกคน ส่วนพี่เบียร์ก็ขึ้นหิ้งไปแล้วครับ

 

 

เอ็มวีเพลงนี้ เบื้องหลังการถ่ายทำเป็นอย่างไร 

ขนมจีน กุลมาศ : พวกเราก็ไปถ่ายทำที่ญี่ปุ่นค่ะ ก็จะถ่ายทำสนุกมาก ก็จะมีบางทีที่คนเยอะมาก อย่างห้าแยก Shibuya ที่มีคนเดินผ่านเยอะมาก ถ้าคนจะเดินหยุดก็หยุดหมดเลย และจะมีเทศกาลพลุ Sumida ด้วยที่มีคนไปเยอะมากที่ต้องเดินไกลและเดินข้ามสะพานด้วย แถมฝนตก และเราก็ใส่ชุดยูกะตะและรองเท้าแตกไม้เลยเดินยากมาก ก็เป็นอรรถรสในการทำงาน  

 รุจ ศุภรุจ : เอ็มวีเพลงนี้เหมือนภาพยนตร์ ก็จะได้ผู้กำกับที่ทำโฆษณาเลยทำให้ภาพออกมาเป็นแบบนี้ คือพวกเราถ่ายเหมือนกองโจรมากอย่างที่แยก Shibuya ต้องวิ่งไปถ่ายหลายรอบ และก็มีฉากที่เขียนป้ายชื่อแล้วพันติดกัน มันก็ยากมากที่มันจะถ่ายออกมาให้เป็นแบบที่ต้องการ เพราะบางทีมันไม่พันกันออกมาแบบที่เราต้องการ 

 

ทำไมเลือกถ่ายเอ็มวีที่ประเทศญี่ปุ่น 

 รุจ ศุภรุจ : เพราะผมไปญี่ปุ่นบ่อยมาก ไปปีละหลายครั้ง น้องขนมจีนก็พูดญี่ปุ่นได้และเคยไปร้องเพลงที่ญี่ปุ่นด้วย 

ขนมจีน กุลมาศ : ก็ไปร้องเพลงที่นั่นตั้งแต่อายุ 15 คือมีความผูกพันกับประเทศนี้ และที่นี่ก็มีหลายมุมที่คนไม่รู้ว่าสวย ก็เลยอยากนำเสนอมุมสวยๆผ่านเอ็มวีนี้

 

เอ็มวีเพลงนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับโชคชะตา ส่วนตัวเชื่อเรื่องนี้ไหม 

รุจ ศุภรุจ : ผมเชื่อครับ เพราะได้เข้ามาเป็นนักร้องและมาถ่ายภาพก็เป็นดวงล้วนๆ คือมันเป็นสิ่งที่บังเอิญมากที่ทำให้ผมได้ทำสิ่งที่รัก ทั้งการได้เข้ามาแข่งร้องเพลงและการได้ลองถ่ายรูปครั้งแรก เรื่องความรักก็เช่นกัน การที่เจอคนบางคนบางทีก็ไม่คาดฝัน 

ขนมจีน กุลมาศ : คนไทยมีร้อยพ่อพันแม่ มีหลายสิบล้านคน การจะเจอกันมันก็ยากและมีวิธีต่างกัน แต่คนที่เจอกันก็เป็นเรื่องที่ดีค่ะ

รุจ ศุภรุจ : แต่ของผมนี่ออกแนวโชคชะตาทำร้ายครับ (หัวเราะ)

ช่วงที่ผ่านมา ขนมจีน ไปทำอะไรมาบ้าง

ขนมจีน กุลมาศ : ช่วงที่ผ่านมาก็จะห่างจากการร้องเพลงไปนานมาก ก็จะมีงานแสดงเป็นหลักตั้งแต่ปี 1 หรือ 5-6 ปีที่แล้วก็จะได้งานละครเยอะมาก และเรามาจากการเป็นนักร้อง เราก็ไม่อยากทิ้ง แต่ก็ยังดีว่าเรามีงานจ้างร้องเพลงเยอะควบคู่กับงานแสดง และพอมีโอกาสที่ทำให้เรากลับมาร้องเพลงมันก็ทำให้เรามีกำลังใจ คือการแสดงมันก็เป็นอะไรที่ท้าทายและสนุกแต่เราเกิดมาจากการร้องเพลง ตอนนี้ก็เป็นครูสอนร้องเพลงด้วย

คือเคยคิดว่าการสอนร้องเพลงมันเป็นอะไรที่ไกลตัว คิดว่าเราต้องอายุมากๆถึงทำได้ พอเรียนโท ศิลปกรรมที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็จะมีคนมาสอนว่า ดนตรีสามารถช่วยเด็กพิเศษและทำอะไรให้เด็กๆได้ เลยรู้สึกว่าเราไม่ควรเก็บไว้ เพราะเราก็เรียนปตรีด้านดนตรีมา คือเราไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุด แต่เราอยากเอาสิ่งที่มีไปให้คนอื่น ตอนนี้เราไม่เฟดจากวงการ แต่เราก็จะรับสอนเด็กเล็กๆแล้วจะได้เห็นเขาเติบโตจากเด็กที่ไม่มั่นใจ ยิ่งเราเป็นศิลปินเขายิ่งเชื่อในตัวเรา แล้วพอเราเห็นเขาก้าวผ่านความไม่มั่นใจได้ มันรู้สึกเหมือนคนเป็นแม่เลย ว่าแบบเวลาแม่บ่นเราเราทำได้อย่างไร บางทีเราสอนนักเรียนบางทีเราบอกหลายครั้งก็เหนื่อยแล้ว

 

ถ้าเด็กคนไหนอยากเป็นนักร้อง ควรเริ่มอย่างไร

รุจ ศุภรุจ : มาเป็นนักเรียนของขนมจีนครับ (หัวเราะ)

ขนมจีน กุลมาศ : คือไม่จำเป็นเลย (หัวเราะ) จริงๆการที่เราชอบอะไรสักอย่าง แค่เอาตัวเองไปอยู่กับมัน ไปหมกมุ่นกับมันและทำให้ดีที่สุด แต่ต้องเป็นเรื่องที่ดีนะคะ คือถ้าเราไม่เก่งที่สุดแต่ไม่หยุดพยายามเราก็จะเก่งขึ้นและเหนือขึ้นจากสิ่งที่เรามีแน่นอน

 

หลังจากนี้ขนมจีน จะมีผลงานอะไรให้ติดตามอีกบ้าง 

ขนมจีน กุลมาศ : ด้วยความที่เราจากกับบริษัทเก่าด้วยดี ก็เลยจะมีละครที่เพิ่งฟิตติ้งไป เป็นละครเรื่อง สิ้นลายหงษ์ และจะมีหนังอีกสองเรื่องที่ใกล้เสร็จแล้วเรื่อง ตุ๊ดตู่กู้ชาติ และ ตั๊ดสู้ฟุด 2018 ค่ะ ส่วนงานเพลงก็ขอตัดสินใจก่อนเพราะมีหลายค่ายเพลงมาติดต่อ เพราะเราหมดสัญญามาวันที่ 26 กรกฎาคม ก็ค่อยๆเลือกไป ถ้าจะทำเพลงใหม่คงเป็นเพลงที่เป็นเกี่ยวกับชีวิตผู้หญิงและอยากให้มันวาไรตี้ มีแจ๊สมีป๊อปและหลายๆแนวค่ะ

รุจ ศุภรุจ : จริงๆผมว่าเขาน่าจะร้องเพลงอื่นนอกจากแนวร็อกได้ดี อย่างอัลบั้มที่มีเพลง เสี่ยงไหม นี่ก็ดีมากครับ คือเหมือนเขาโตขึ้นมามากจากสมัยก่อนที่ร้องเเนวพั๊งค์ กรีดตา ครับ (หัวเราะ) 

 

 

ปกติแฟนเพลงจะเห็นรุจจากเพลงช้าๆ เศร้าๆ เป็นหลัก ต่างจากเพลงนี้ คิดว่าเพลงแนวไหนเป็นตัวเรามากกว่ากัน

รุจ ศุภรุจ : จริงๆคนเรามันมีหลายมุม เวลาแฮปปี้ร้องเพลงมีความสุข เวลาเศร้าร้องเพลงเศร้า คือหลายคนมักจะติดภาพเราเป็นคนอบอุ่นด้วยเลยทำให้เรามีแต่เพลงแบบที่ปล่อยไป

 

ขนมจีนเองก็มีเพลงอกหักเยอะมากด้วย ปกติตัวตนเราเป็นเพลงแบบไหนมากกว่ากัน

ขนมจีน กุลมาศ : คือปกติจะมีเพลงอกหัก แต่ชีวิตนี้ไม่เคยอกหักเลยและไม่เวิ่นเว่อเลย คือถึงไม่เคยมีประสบการณ์แต่เราเป็นคนอ่อนไหว บางทีดูหนังร้องไห้ก่อนนางเอกอีก เราก็เลยเข้าใจความรู้สึกคนเจ็บปวดและถ่ายทอดดี แต่จริงๆชอบเพลงแฮปปี้นะ เพลงนี้ก็จะตอบโจทย์ได้ดี

รุจ ศุภรุจ : จริงๆเพลงนี้เป็นเพลงที่เขาร้องดีสุดเลย เพราะเขาไม่เคยอกหักมาก่อนจนต้องจำลองตัวเองเข้าไป ส่วนเพลงนี้เป็นเพลงรักที่ตรงกับเขา จนทำให้เขาอินมากเลย เพราะเขาไม่เคยอกหักเลย คือไม่เคยมีแฟนและพอมีก็คือคนปัจจุบันเลย 

ขนมจีน กุลมาศ : พี่แซวขนมจีนตลอดเลย(หัวเราะ)

 

 

หลายคนจะสงสัยว่าไปเจอกันที่ญี่ปุ่นได้ยังไง กิ๊กกันหรือเปล่า รู้สึกอย่างไรกับกระแสนั้น

ขนมจีน กุลมาศ : คือคนไม่คิดว่าเราไปทำงานด้วยกัน เพราะคนละค่ายเลยคิดว่ากิ๊กกัน แต่พอผลงานออกถึงจะรู้กันว่าไปทำงาน ส่วนแฟนหนูก็เข้าใจค่ะ (หัวเราะ)

รุจ ศุภรุจ : ก็เคยเจอแฟนเขาแล้วในงานแต่งงานนั้น ไปสวัสดีมาแล้ว และเขาก็รุ้ว่าทำงานด้วยกัน จริงๆทริปนี้ก็มีทีมงานไปเยอะมากด้วย ตอนนั้นก็ไปกดโยเกิร์ตกันด้วยจนล้นเลย (หัวเราะ)

 

ในตอนนี้รุจมีแพลนเรื่องความรักหรือยัง

รุจ ศุภรุจ : ก็รับสมัครอยู่ครับ แต่ก่อนหน้านี้ก็มีคนที่คุยบ้าง พอเราโตขึ้นก็อยากจริงจังและเลือกดีๆ ก่อนคุยเพราะตอนนี้เราอายุ 33 แล้ว เคยคิดว่าถ้าเราอายุมากขึ้นน่าจะเลือกน้อยลง แต่ความเป็นจริงประสบการณ์ชีวิตก็ทำให้เราเลือกยากมากขึ้น ทำให้สเป็คสูงขึ้น ตอนนี้เลยโสดและสูงขึ้นด้วยจนจะถึงคานอยู่แล้ว (หัวเราะ) ก็จะไม่อินเพลงนี้เท่าขนมจีนเท่าไหร่ (หัวเราะ)  

 

คลิกฟังเพลง วันที่ฉันพบเธอ - รุจ ศุกรุจ Feat ขนมจีน

 

ถึงแม้ว่าเพลงนี้จะเป็นแค่จุดเริ่มต้นของหนุ่มรุจกับค่าย Me records แต่รุจก็ตั้งใจมากกับทำเพลงสุดน่ารักซิงเกิ้ลนี้ให้แฟนๆได้ฟังกัน ซึ่งแฟนๆสามารถฟังซิงเกิ้ลนี้ได้ที่ Sanook! Music และ JOOX รวมถึงอัพเดทข่าวคราวทั้ง ขนมจีน และ รุจ ได้ที่ Sanook! Music เช่นกันครับ 

อัลบั้มภาพ 19 ภาพ

อัลบั้มภาพ 19 ภาพ ของ "รุจ - ขนมจีน" เผยเรื่องบังเอิญสุดฟิน ที่เป็นจุดเริ่มต้นเพลง "วันที่ฉันพบเธอ"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook