ด้วยความหลากหลายของชนิดเห็ดและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อีกทั้งยังนำไปประกอบเป็นอาหารได้ค่อนข้างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว อาหารมังสวิรัติ และอาหารหวาน
ส่งผลให้ความต้องการของตลาดยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นตลาดในประเทศที่มีสัดส่วนกว่าร้อยละ 95 ของการผลิตทั้งหมด หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท หรือแม้แต่ตลาดส่งออกที่แม้ว่าจะมีเพียงร้อยละ 5 ของการผลิตทั้งหมด
แต่มูลค่าการส่งออกเห็ดสดและเห็ดแปรรูปของไทยยังคงมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นนั้น ส่งผลให้การทำธุรกิจฟาร์มเพาะเห็ด นับว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการทำเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริม
นอกจากนี้การวิจัยและพัฒนาประโยชน์ของเห็ดอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้อง อาทิ ยารักษาโรค เครื่องสำอางค์ และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ยังทำให้ความต้องการเห็ดมีโอกาสที่จะขยายตลาดได้กว้างขวางขึ้น
และยิ่งเป็นการเพิ่มความน่าสนใจให้กับธุรกิจได้อีกมากในอนาคต แต่ทั้งนี้มีผู้ประกอบการหลายรายเช่นกันที่ต้องล้มเลิกกิจการไป อันเนื่องมาจากขาดความรู้ความเข้าใจในการบริหารจัดการ
ดังนั้น แม้ว่าลักษณะการเข้าสู่ตลาดจะค่อนข้างง่ายและมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย แต่ผู้ประกอบการที่สนใจจะลงทุนทำธุรกิจฟาร์มเพาะเห็ดจะต้องมีการศึกษาถึงรายละเอียด และแนวทางการดำเนินงานค่อนข้างละเอียด
โดยสิ่งแรกที่จะต้องพิจารณา ก่อนที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจ คือ ความต้องการของตลาดและแหล่งรับซื้อเห็ด เพื่อที่จะเป็นตัวรองรับผลผลิตและกำหนดลักษณะของเห็ดที่จะทำการผลิต
หลังจากนั้นก็ทำการศึกษาถึงกระบวนการผลิตตั้งแต่การเลือกระบบการผลิตเห็ดไปจนถึงขั้นตอนในการดูแลรักษา
ซึ่งกระบวนการต่างๆเหล่านี้ ผู้ประกอบจะต้องมีการดูแลเอาใจใส่ค่อนข้างมาก ในขณะที่การศึกษา
ข้อมูลและรายละเอียดต่างๆนั้น ผู้ประกอบการสามารถหาเพิ่มเติมได้ตามเว็บไซต์ หรือสอบถามข้อมูลได้จากหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมนักวิจัยและเพาะเห็ดแห่งประเทศไทย ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพจังหวัดต่างๆ เป็นต้น
ทั้งนี้เพื่อให้การทำธุรกิจสามารถดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้องตั้งแต่ระยะเริ่มแรก จึงสามารถทำธุรกิจฟาร์มเพาะเห็ดเป็นอาชีพได้อย่างยั่งยืน
ขอบคุณข้อมูล KSMEStartup