ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 115.96จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 115.96จุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) พุ่งขึ้น 115.96 จุด หรือ 0.8% ปิดที่ 13900.13 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 9.09 จุด หรือ 0.6% ปิดที่ 1496.94 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 13.40 จุด หรือ 0.4% ปิดที่ 3129.65 จุด เพราะได้แรงหนุนจากการที่ เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงปกป้องมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของเฟด ต่อสภาคองเกรสสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและยอดขายบ้านใหม่   เบอร์นันเก้ แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐเมื่อคืนนี้ตามเวลาไทยว่า เฟดมีความตั้งใจที่จะเดินหน้ามาตรการ QE หรือโครงการซื้อพันธบัตร จนกว่าตัวเลขการจ้างงานจะฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งเขาไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะยุติการใช้มาตรการ QE ก่อนสิ้นปีนี้หรือไม่ นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับถ้อยแถลงของเบอร์นันเก้ที่ระบุว่า \"ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้วาเกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้น\"   ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นเมื่อสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนก.พ. เพิ่มขึ้นแตะ 69.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนพ.ย.2555 จากระดับ 58.4 ในเดือนม.ค.   ลินน์ ฟรังโก ผู้อำนวยการฝ่ายดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจของ Conference Board กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่พุ่งขึ้นในเดือนก.พ. สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มปรับตัวรับผลกระทบของความไม่แน่นอนทางการคลังของประเทศและการปรับขึ้นภาษีในเดือนม.ค.   ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.พุ่งขึ้น 15.6% แตะที่ 437,000 ยูนิตในรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนก.ค.2551 ขณะที่ราคากลางของบ้านใหม่ในเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 2.1% สู่ระดับ 226,400 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับเดือนม.ค.ปีก่อน นอกจากนี้ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เผย ราคาบ้านในสหรัฐปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในเดือนธ.ค. ซึ่งส่งสัญญาณว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐที่ความแข็งแกร่ง   ทั้งนี้ ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ในเดือนธ.ค. 2555 ปรับตัวขึ้น 0.9% จากเดือนพ.ย. และพุ่งขึ้น 6.8% จากเดือนธ.ค.2554 ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นมากที่สุดในรายปีนับแต่เดือนก.ค. 2549

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook