Daily View - บล.กสิกรไทย

Daily View - บล.กสิกรไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ระยะยาวมองบวกแต่ระยะสั้นยังคงระมัดระวัง   แนวโน้มตลาด: หุ้นยุโรปปิดบวกรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (ขยายวงเงินซื้อสินทรัพย์เป็น 80 ล้านล้านเยน จากเดิม 70 ล้านล้านเยน พร้อมคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 0-0.1%) ในขณะที่สหรัฐฯ ได้ผลดีจากยอดขายบ้านมือสองส.ค.ที่เพิ่มขึ้น 7.8% สู่ระดับ 4.82 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนพ.ค.53 ทั้งนี้การฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ ถือเป็นสัญญาณบวกมากต่อแนวโน้มระยะกลาง-ยาว เนื่องจากภาคอสังหาฯ เป็นดัชนีชี้นำของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามในระยะสั้นการขึ้นของดัชนีจากนี้ (ไม่ว่าจะไปถึง 1300 หรือสูงกว่า) จะเริ่มหมดข่าวดีสนับสนุน และอาจปรับตามข่าวใดๆที่มากระทบก็ได้แต่เรายังมองเป็นโอกาสทยอยซื้อ ราคาน้ำมันที่ร่วงลงแรงอาจกดดันต่อหุ้นพลังงานและตลาดในระยะสั้น ประเด็นในประเทศที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) การประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติบริหารจัดการน้ำ(บวกกับหุ้นรับเหมา ชอบ CK ITD NWR) 2) ยอดผลิตรถยนต์ ส.ค.เพิ่ม 37.31% YoY แต่ลดลง 1.13% MoM (บวกยานยนต์ช่วงสั้น ชอบ AH STANLY IHL) กลยุทธ์การลงทุน: SET Index เข้าใกล้ 1290 จุด การปรับลงยังเป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้น หรือซื้อเก็งกำไรเพื่อลุ้นทดสอบ 1300 หรือสูงกว่า ช่วงสั้นธนาคารเริ่มกลับมาน่าสนใจ แต่อสังหาริมทรัพย์น่าสนใจกว่าหากมองเรื่องความถูกแพงประกอบและยังเก็งกำไรรายตัวในหุ้นพื้นฐานดีที่มีประเด็น หุ้นแนะนำวันนี้ PJW QH LANNA SCB สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: (14 ก.ย.) น้ำหนักการลงทุนปัจจุบันของเราอยู่ที่ 60% และขอเตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก แต่ในระยะสั้นให้ระมัดระวังการเข้าซื้อและสะสมหุ้น ***หากตลาดปรับฐานก.ย.-ต.ค.นี้ เราจะขอเพิ่มน้ำหนัก โดยเน้นหุ้นพลังงาน ปิโตรเคมี และเดินเรือ*** สะสม TTA SOLAR ERW AJ   หุ้นแนะนำวันนี้ - PJW (ปิด 5.30 เป้าหมายระยะสั้น 5.80 ขายเมื่อหลุด 5.10) บริษัทคาดรายได้เติบโต 20-25% และผลงาน 2H55 ดีกว่าครึ่งปีแรก + เริ่มขยายการลงทุนไปในจีนและอยู่ระหว่างตัดสินใจขยายการลงทุนไปในสิงคโปรค์หรืออินโดนีเซีย + คาดว่าหุ้นมีโอกาสถูกปรับประมาณการขึ้น - QH (ปิด 1.87 เป้าหมายระยะสั้น 1.94-2.04 ขายเมื่อหลุด 1.80)อสังหาริมทรัพย์เป็นกลุ่มที่มูลค่ายังถูกเมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นอื่น + เตรียมขายสินทรัพย์ 3 แห่งเข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ + คาดกำไรปี 2555 เพิ่มขึ้น 67% YoY + ราคายังถูก PER เพียง 6.5x และมี yield ถึง 7.7% - LANNA (ปิด 26.25 เป้าหมายระยะสั้น 27.75 ขายเมื่อหลุด 25.00) กำไรปีนี้ที่ดีเพราะเอธานอลพลิกมากำไร + บริษัทล็อคราคาการน้ำตาล (โมลาส) ไว้ล่วงหน้าแล้ว + วางแผนเพิ่มกำลังการผลิตถ่านหินจาก 2 ล้านตันเป็น 6 ล้านตันในปี 58 + มี upside จากการเข้าซื้อเหมืองถ่านหินก่อนสิ้นปี - SCB (ปิด 162.50 เป้าหมายระยะสั้น 170.0 ขายเมื่อหลุด 160.0) เก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นใหญ่ที่ฟื้นตัวตามตลาด + ราคาหุ้นอยู่ในจุดที่เราเชื่อว่าจะเริ่มกลับมาโดดเด่น Outperform กว่าธนาคารขนาดใกล้กัน - หุ้นแนะนำที่ยังคงน่าสนใจ HEMRAJ HMPRO LHK DSGT TTA SOLAR - หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง STEC CK ITD /โรงแรม MINT ERW CENTEL - ทยอยสะสม Commodity: PTTGC IVL TOP SCC/ LANNA KSL KBS   Today’s Best Trades   ประเด็นการลงทุนหุ้น Today’s Best Trades HOLD KSL เข้าสู่ช่วง high season ผลประกอบการไตรมาส 2 (ก.พ.-เม.ย.55) + ก.ค.เป็นเดือนที่ราคาน้ำตาลเพิ่มขึ้นเฉลี่ย5-8% ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา + แม้ราคาส่งออกน้ำตาลลดลง 5% QoQ แต่ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 25% QoQ และ30% YoY กำไรจึงมีแนวโน้มดีขึ้น + ราคาปัจจุบันคิดเป็น PER 10.2 เท่า ให้ผลตอบแทนปันผล 4.1% (concensus) QH กระแสกังวลคอนโดชะลอทำให้มีแรง switching มายัง QH ที่มีสัดส่วนโครงการแนวราบสูง + คาดกำไรปี 2555 เพิ่มขึ้น 67% YoY + ราคายังถูก PER เพียง 6.1x และมี yield ถึง 8.4% + เตรียมขาย 3 อสังหาริมทรัพย์เข้ากองทนอสังหาฯ ไตรมาส 3 AAV ผลประกอบการผ่าน soft season ไตรมาส 2 อย่างแข็งแกร่ง คาด low season ไตรมาส 3 ดีกว่าปกติ และเริ่มเข้าสู่ขาขึ้นรอบใหม่ (4Q55-1Q56) + การย้ายฐานมายังดอนเมืองช่วยลดต้นทุนและเพิ่มกำไร + แผนเพิ่มฝูงบินจาก 24 เป็น 48 ลำใน 5 ปี คาดช่วยรักษาการเติบโตของรายได้ที่ปีละ 20-25% ได้ NMG การเปิดช่องโทรทัศน์ดาวเทียม “กรุงเทพธุรกิจทีวี” และ “คิดโซนส์” เพิ่มตั้งแต่ส.ค.ส่งผลดีต่อรายได้ + คาดกำไรปี 2555-56 เพิ่มขึ้น 52% และ 61% ราคาปัจจุบันคิดเป็น PER 14.0x และ 9.3x + ผู้บริหารเพิ่มเป้ารายได้เป็นโต 15% (จาก 10%) ทำให้มีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้น PTTEP ราคาสะท้อนผลประกอบการ 2Q55 ที่ย่ำแย่แล้ว + ราคาที่ Underperform หุ้นอื่นมานานเพราะกังวลเพิ่มทุน ช่วยจำกัด downside risk + โอกาสซื้อลงทุนที่ดี โดยไม่ต้องกังวลราคาน้ำมัน 3Q55 อ่อนตัว HEMRAJ ยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนแข็งแกร่ง + บริษัทตั้งเป้าขยายพื้นที่โรงงานเช่าจาก 1 เป็น 2.6 แสนตารางเมตรใน 5ปี + การขยายตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ส่งผลดี TICON-T1 ได้รับมาจากการถือ TICON SUC คาดผลการดำเนินงาน 2H55 จะดีกว่าปีก่อนมากเพราะ ราคาถ่านหินที่ลดลง จะส่งผลดีต่อธุรกิจไฟฟ้าที่ประเทศจีน +ราคาปัจจุบันซื้อขายที่เพียง 0.70 เท่าของมูลค่าทางบัญชี (53.25 บาท) และคาดปันผลทั้งปีไม่ต่ำกว่า 1.50 บาท/หุ้น BBL ธนาคารใหญ่ที่ยัง laggard กลุ่มอยู่ + ความกังวลจีนชะลอตัว (กระทบต่อการปล่อยกู้ต่างประเทศ) ซึ่งกดดันหุ้นในช่วงที่ผ่านมา ช่วงสั้นน่าจะบรรเทาลง TNH ร.พ.ขนาดเล็กที่น่าสนใจ + คาดงบปี 2555 (ก.ค.54-ส.ค.55) ออกมาดี และน่าจะมีปันผลไม่ต่ำกว่า 0.40 บาท + ราคาปัจจุบันคิดเป็นเพียง 14.5x PER   ปัจจัยที่ต้องติดตาม - 20-25 ก.ย. Thailand: กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออกของไทย - 20 ก.ย. China: HSBC Flash Manufacturing PMI (เบื้องต้น) - 20 ก.ย. EU: PMI Composite (เบื้องต้น) - 20 ก.ย. US: Jobless Claims - 20 ก.ย. US: Philadelphia Fed Survey - 24-28 ก.ย. Thailand: สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง/ทบทวนตัวเลข GDP ปีนี้ - 24 ก.ย. US: Dallas Fed Mfg Survey - 25 ก.ย. US: S&P Case-Shiller HPI - 25 ก.ย. US: Consumer Confidence - 26 ก.ย. US: New Home Sales - 27 ก.ย. EU: Euro-Zone Consumer Confidence - 27 ก.ย. US: Durable Goods Orders - 27 ก.ย. US: GDP - 27 ก.ย. US: Jobless Claims - 27 ก.ย. US: Pending Home Sales Index - 28 ก.ย. EU: Euro-Zone CPI Estimate - 28 ก.ย. US: Personal Income and Outlays - 28 ก.ย. US: Chicago PMI - 28 ก.ย. US: Consumer Sentiment - 28 ก.ย. Thailand: สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม   ประจำเดือน - 28 ก.ย. Thailand: ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือนบทวิเคราะห์วันนี้ - QH (ซื้อ ปิด 1.87 พื้นฐาน 2.40 +28.34%) ยอดขาย 8 เดือน +28.0%YoY - คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานจาก 2.30 เป็น 2.40 บาท จากการเลื่อนปีฐานการคำนวณเป็นปี 56 โดยเราปรับเพิ่มประมาณการกำไรต่อหุ้นเพิ่ม 2-11% ในปี 55-57 เพื่อสะท้อนยอดขายที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งจากโครงการแนวราบ ซึ่งเราคิดว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ สำคัญ - ยอดขาย 8 เดือน +28.0%YoY มูลค่ารวม 11.9 พันลบ. แบ่งเป็น 5.5 พันลบ. มาจากโครงการแนวราบ และ 6.4 พันลบ. จากโครงการคอนโด ซึ่งยอดขายทั้งหมดคิดเป็น 75% ของคาดการณ์ยอดขายทั้งปีของทาง QH โดยยอดขายโครงการแนวราบแสดงถึงการฟื้นตัวที่ แข็งแกร่งในช่วงเดือน พฤษภาคม, มิถุนายน และกรกฎาคม มียอดขายเฉลี่ยที่ 1 พันลบ. - รับรู้กำไรพิเศษในจากการขายสินทรัพย์ใน 3Q55 โดยในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา QH ขายสินทรัยย์เข้ากองทุน มูลค่ารวม 3.3พันลบ. คาดว่าจะมีการรับรู้กำไรพิเศษจากการขายหลังหักภาษีประมาณ 700-750 ลบ. ในไตรมาสที่ 3 ปี55 โดยกองทุนอสังหาริมทรัพย์ QHHR มีผลตอบแทนขั้นต้นที่ 7.4 % และผลตอบแทนสุทธิที่ 6.0% เนื่องจากโครงสร้างเป็นแบบสิทธิการเช่า และมีการรับประกันผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 7.0% เป็นระยะเวลา 3 ปี - ครึ่งปีหลังวางแผนเปิดตัว 18 โครงการใหม่ มูลค่า 23 พันลบ. แบ่งเป็น 8 โครงการในบ้านเดี่ยว มูลค่ารวม 11.7 พันลบ., 5 โครงการทาวน์โฮมส์ มูลค่ารวม 3.1 พันลบ. และ 5 โครงการคอนโด มูลค่ารวม 8.2 พันลบ. ทั้ง 18 โครงการใหม่ จะมี 4 โครงการที่จะเปิดตัวใน ต่างจังหวัด เช่น หัวหิน, พัทยาใต้ และ เชียงใหม่ ซึ่ง QH ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างจังหวัดในปี 2555 ไว้ที่ 7-8% , 10-15% ในปี 2556 โดยปัจจุบันอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 6-7% - สัดส่วนรายได้ที่รับประกันแล้วใน 55-56 อยู่ที่ 44% และ 16% ณ ปลายไตรมาส 2ปี 55 QH มี Backlog อยู่ที่ 8.5 พันลบ. แบ่งเปน็ 1.2พันลบ. ในโครงการแนวราบ และ 7.3 พันลบ.ในโครงการคอนโด โดยจะแบ่งรับรู้รายได้ดังกล่าวในปี 2555 ที่ 3.5พันลบ. , ปี 56 ที่ 3.2 พันลบ และปี 57 ที่ 1.8 พันลบ. ทำให้รายได้คาดการณ์ของเราถูกรับประกันที่ 41%,16% และ10% ในปี 55-57 - PTTEP (ถือ ปิด 160.50 พื้นฐาน 165 +2.8%) กรณีของโครงสร้างการเพิ่มทุนใหม่ - คงคำแนะนำ ถือ มูลค่าของ PTTEP อิงตามค่า NAV จะอยู่ที่ประมาณ 200 บาทต่อหุ้นขณะที่ปัจจัยบวกอื่นคือการเร่งเพิ่มปริมาณการผลิตและการประมูลแหล่งปิโตรเลียมในสหภาพเมียนมาร์ อย่างไรก็ตาม เรามองว่าบริษัทแม่ของ PTTEP หรือ PTT ยังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าหากพิจารณาจากผลตอบแทนและความเสี่ยง - ความคืบหน้ากรณีซื้อ Cove ตามที่ PTTEP AI (บริษัทย่อยของ PTTEP) ได้บรรลุเงื่อนไขตามคำเสนอซื้อซื้อหุ้น Cove ครบถ้วน พร้อมยื่นคำขอเพิกถอนหุ้น Cove ออกจากตลาดลอนดอน ล่าสุดเมื่อ 18 ก.ย. ตลาดลอนดอนได้ประกาศยกเลิกการซื้อขายหุ้น Cove ในตลาดหลักหลักทรัพย์แล้ว และ PTTEP AI ได้เริ่มกระบวนการบังคับซื้อ Cove ที่ยังไม่ได้รับคำเสนอซื้อ ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. – 17 ก.ย. 2555 ตามเวลาลอนดอน ด้านการเพิ่มทุนผู้บริหาร PTTEP อยู่ระหว่างเดินสาย roadshow เพื่อทำความเข้าใจกับนักลงทุนทั้งเรื่องรูปแบบ โครงสร้างการเพิ่มทุน และเป้าหมายองค์กร และหลังจากนักลงทุนมีความเข้าใจดีแล้ว PTTEP จะประชุมบอร์ดเพื่อปรับโครงสร้างการเพิ่มทุนให้มีความเข้าใจง่ายขึ้น - กรณีต่างๆ ของโครงสร้างเพิ่มทุนใหม่ เราคาดผลการประชุมคณะกรรมการ PTTEP ประเด็นโครงสร้างการเพิ่มทุนใหม่ ในวันศุกร์นี้หรือศุกร์หน้า โดยแบ่งเป็น 4 กรณีดังนี้ - กรณีฐาน: ลดมูลค่าเงินเพิ่มทุน และ/หรือควบกับการออกตราสารกึ่งหนึ่งทุน(hybrid securities) โดยในกรณีนี้ เราเชื่อว่าจะส่งผลดีในแง่ของ dilution แต่ความเสี่ยงจากโอกาสในการเพิ่มทุนเพิ่มเติมในอนาคต อาจจำกัดแนวโน้มการปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย - กรณีดีที่สุด: ปรับลดเป้าอัตราการเติบโต บอร์ด PTTEP ยอมรับว่าเป้าเพิ่มการผลิตสามเท่าภายในปี 2563 สำหรับบริษัทน้ำมัน มูลค่า 1.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐนั้นสูงเกินไปและมีความเสี่ยง รวมถึงประเด็นความไม่ผลตัวระหว่างเป้าหมายการลดการพึ่งพิงน้ำมันของประเทศกับผลประโยชน์ของนักลงทุนรายย่อย - กรณีดีรองลงมา: ใช้เงินกู้ บอร์ดของ PTTEP มองว่านอกจากการเป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว การที่ประเทศไทยยังต้องพึ่งพิงการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตกระแสไฟฟ้าทำให้บริษัทมีผลกำไรสม่ำเสมอในลักษณะเดียวกับสาธารณูปโภค จึงไม่ควรมีการกำหนดเกณฑ์หนี้สินต่อทุนต่ำเกินไป และใช้เงินกู้เป็นแหล่งเงินทุนเพื่อผลักดันการเติบโต - กรณีที่มีความเป็นไปได้น้อย ผู้บริหารของ PTTEP กล่าวว่ามีนักลงทุนบางส่วนเท่านั้นที่ไม่มีเวลาในการพิจารณาแผนเพิ่มทุน ดังนั้น บริษัทจึงอาจใช้เหตุผลการขยายเวลาเพิ่มอีกหนึ่งเดือนเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวและเดินหน้าแผนเพิ่มทุนเดิม - HANA (ซื้อ ปิด 21.1 พื้นฐาน 25 +18.5%) ระยะสั้นยังถูกกดกันจากอุปสงค์ที่ชะลอตัว - คงคำแนะนำ ซื้อ แม้ในระยะสั้นบริษัทจะถูกกดดันจากอุปสงค์ที่ชะลอและ margin ที่ลดลงแต่เราเชื่อว่าราคาหุ้นได้รับรู้ปัจจัยเหล่านี้ไปแล้ว โดยมองว่าระยะยาวธุรกิจรับจ้างผลิตอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์จะยังโตต่อ และ HANA ได้เปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่ง และมีโอกาสสูงในการโตอีก 12-18 เดือนข้างหน้าด้วยการขยายกำลังการผลิตที่จะแล้วเสร็จในปี 57 เราแนะนำซื้อ ที่ราคา25 บาท โดยปัจจุบันราคาหุ้นน่าสนใจจาก 8.2 เท่า PE ปี 56 และคาด dividend yield 6-7% ในปี 55-56 - มีโอกาสที่อุปสงค์ 2H55 ลดลง และ margin ยังโดนผลกระทบจากแรงงาน จากการโตของอุปสงค์ที่มากกว่าคาดใน 1H55 เรามองความเป็นไปได้ที่อุปสงค์จะชะลอตัวลงใน 2H55 จากสินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับสูงและผู้เล่นสำคัญยังเผชิญกับสถานการณ์ที่อุปสงค์ชะลอตัว และสำหรับ HANA ธุรกิจ IC packaging ยังฟื้นตัวช้าเนื่องจากไม่สามารถดึงลูกค้ากลับมาได้ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่อุปสงค์ซบเซา โดยเราคาดว่าการขาดแคลนแรงงานและค่าจ้างที่เพิ่มสูงขึ้นยังคงกดดัน margin ของ HANA ต่อไป อย่างไรก็ตามบริษัทยังได้รับประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่าเทียบดอลลาร์ - การขยายงานยังเป็นไปตามแผน แม้อุปสงค์ยังไม่แน่นอน แต่ HANA ยังขยายกำลังการผลิต microelectronic assembly ที่ลำพูน (คาดเสร็จปี 57) และ Jiaxing (เพิ่งขยายเสร็จ) ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เต็มกำลังการผลิตแล้ว นอกจากนั้นยังมีแผนที่จะเปิดโรงงานใหม่ที่กัมพูชา (คาด เสร็จปี 57) เพื่อประหยัดต้นทุนค่าแรง และเพิ่ม margin สำหรับสินค้าที่มี margin ต่ำ> ได้รับค่าชดเชย Business interruption ใน 2Q55 บริษัทได้รับเงินชดเชย BI มูลค่า 204 ลบ.จากบริษัทประกัน โดยอีก 196 ลบ.จะบันทึกใน 3Q55 เราคาดบริษัทจะได้รับค่าชดเชยทั้งหมดจำนวน 900 ลบ. ภายในปี 2556   ข่าวที่มีผลกระทบต่อตลาด   ข่าวบริษัท - KTB (ปิด 18.20) สินเชื่อ ส.ค. 55 เพิ่ม +0.7% MoM, +7.0% จากสิ้นปี 2554 - แนะนำซื้อ แต่ upside เริ่มจำกัด ราคาหุ้น KTB ปรับเพิ่มขึ้น 13.8% จากวันที่ 9 ส.ค. ซึ่งธนาคารประกาศข่าวเพิ่มทุน (ปรับสัดส่วน XR สัดส่วน 4 หุ้นเดิม : 1 หุ้นใหม่ ที่ราคา 12.60 บาท XR เมื่อ 28 ส.ค. ที่ผ่านมา) ซึ่งหากคิด dilution จากการเพิ่มทุนเต็ม 20% มูลค่าปัจจัยพื้นฐาน KTB จะลดลงจากมูลค่าปัจจัยพื้นฐานเดิมเป็น 18.80 บาท แม้เรายังคงแนะนำซื้อแต่เราชอบ KTB น้อยลง จาก upside ถึงมูลค่าปัจจัยพื้นฐานที่เริ่มจำกัด - สินเชื่อ ส.ค. 55 เพิ่ม +0.7% MoM, +7.0% จากสิ้นปี 2554 การเติบโตของสินเชื่อโตชะลอลงจาก +1.8% MoM ในเดือน มิ.ย. เป็น +0.9% MoM ในเดือน ก.ค. และ 0.7% MoM ในเดือน ส.ค. สินเชื่อเพิ่ม +7% จากสิ้นปี 2554 ซึ่งใกล้เคียงกับคาดการณ์การเติบโตทั้ง ปี 2555 ของเราที่ 14% (เป้าธนาคาร +5-7%)   สรุปภาวะตลาด - DJIA ปิด 13,577.96 จุด +13.32 จุด (+0.1%) S&P500 ปิด 1,461.05 จุด +1.73 จุด (+0.12%) Nasdaq ปิด 3,182.62 จุด +4.82 จุด (+0.15%) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้น หลังจากสหรัฐรายงานตัวเลขบ้านที่แข็งแกร่ง และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ด้วยการเพิ่มวงเงินซื้อสินทรัพย์อีก 10 ล้านล้านเยน - NYMEX ส่งมอบ ต.ค. อยู่ที่ USD91.98/bbl -3.31(-3.5%) สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบ ธ.ค. อยู่ที่ USD1,771.7/ounce +0.5(+0.03%) สัญญาราคาน้ำมันปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา และการคาดการณ์ว่าซาอุดิอาระเบียจะพยายามกดดันราคาน้ำมันให้ร่วงลง ขณะที่สัญญาราคาทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อย   สรุปข่าวประจำวัน   ต่างประเทศ - สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงาน ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค.55 พุ่งขึ้น 7.8% สู่ระดับ 4.82 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2553 (อินโฟเควสท์) - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 2.3% สู่ 750,000 ยูนิต ในเดือนส.ค.55 จาก 733,000 ยูนิตในเดือนก.ค.55 และการอนุญาตก่อสร้างลดลง1.0% สู่ 803,000 ยูนิตในเดือนส.ค.จาก 811,000 ยูนิตในเดือนก.ค.55 ขณะที่ นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านจะอยู่ที่ 765,000 ยูนิตในเดือนส.ค.55 และการอนุญาตก่อสร้างจะอยูที่ 796,000 ยูนิตในเดือนส.ค.55 (รอยเตอร์) - ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตัดสินใจผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ขณะที่ปรับลดการประเมินด้านเศรษฐกิจของประเทศ โดย คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ BOJ มีมติเป็นเอกฉันท์ในการขยายวงเงินซื้อสินทรัพย์เป็น 80 ล้านล้านเยน จากเดิม 70 ล้านล้านเยน พร้อมคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ราว 0-0.1% (อินโฟเควสท์) - กระทรวงการคลังจีน รายงาน ตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของจีนในเดือนส.ค.55 ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ FDI เดือนส.ค.55 ลดลง 1.43% จากเดือนส.ค.54 มาอยู่ที่ระดับ 8.33 พันล้านดอลลาร์ (รอยเตอร์)   ข่าวบริษัท - PS เสียงแข็งเบอร์หนึ่ง รายได้-ยอดขายไหลลื่น PS มั่นใจปีนี้รักษาแชมป์เบอร์หนึ่งในตลาดอสังหาฯได้ ทั้งในแง่รายได้-ยอดขาย ย้ำเป้ารายได้ปีนี้ 2.6 หมื่นล้านบาท การันตีกำไรนิวไฮทะลุ 3,600 ล้านบาท ครึ่งปีหลังลุยเปิดอีก 25 โครงการใหม่ ดันแบ็กล็อกพุ่ง 3.4-4 หมื่นล้านบาท(ข่าวหุ้น) - TMB ยืนเป้าสินเชื่อ15% โชว์เงินกองทุนขั้น1ปึ้ก “บุญทักษ์” ซีอีโอแบงก์ทีเอ็มบี ยังคงเป้าสินเชื่อปี’55 โต 15% ลั่นไม่จำเป็นเพิ่มทุนภายใน 3 ปี เผยเงินทุนขั้น 1 แข็งแกร่งอยู่ที่ 11-12% และเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง 18-19% สูงอันดับต้นๆ กลุ่มแบงก์ รองรับบาเซิล 3 สบาย (ข่าวหุ้น) - CPN รายได้ปีนี้ทุบสถิติโต30% ปีหน้ามั่นใจโต 15% เปิดศูนย์การค้า 3 แห่ง CPN ปีนี้รายได้เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 30% จ่อเปิดศูนย์การค้าอีก 2 แห่ง การันตีสิ้นปีครบ 20 แห่ง พร้อมแผน 5 ปี ตั้งเป้ารายได้โต 15% ต่อปี คาดเปิดศูนย์ใหม่ 3 แห่ง งบลงทุนประมาณ15,000 ล้านบาท ส่วนต่างประเทศเริ่มศูนย์แรกภายใน 1-2 ปี รับการเปิด AEC (ข่าวหุ้น) - SIRI ผุดคอนโดหมื่นล้านQ4 ดันยอดขายทั้งปี1.8หมื่นล้าน \"แสนสิริ\" เล็งเปิด 10โครงการคอนโดมิเนียม มูลค่า 1 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 4/55 ดันยอดขายทั้งปีตามเป้า 1.8 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 1.4 หมื่นล้านบาท (ข่าวหุ้น) - TUF ลดเป้ารายได้เหลือโต12% ประกันความเสี่ยงล่วงหน้า ไม่หวั่นบาทแข็ง TUF ปรับเป้ารายได้ปีนี้เหลือโต 12% หลังรับผลกระทบราคาวัตถุดิบสูงขึ้นอย่างทูน่าและกุ้งที่ปรับสูงขึ้นส่วนเงินบาทแข็งค่าเชื่อไม่กระทบ เหตุทำประกันความเสี่ยงไว้ล่วงหน้า (ข่าวหุ้น) - JAS ไม่ประมูล3จี แต่ขอศึกษาช่องทาง ต่อยอดทำMVNO JAS ลั่นไม่สนประมูลไลเซนส์แต่ควง JTS ร่วมขอแบบฟอร์มประมูล 3 จี บนคลื่น 2.1 GHz ของกสทช.เป็นเพียงแค่ศึกษาเงื่อนไขการทำ MVNO เพื่อต่อยอดการให้บริการลูกค้าบรอดแบนด์กว่า 1.1 ล้านรายในปัจจุบันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น (ข่าวหุ้น) - สะพัด THCOM จ่อขาย CSL กูรูถอดสูตรราคากว่า 10 บาท วงในลือ THCOM จ่อขายหุ้น CSL ให้กับเทมาเส็ก หวังโละธุรกิจที่ไม่ใช่ดาวเทียมออกไป ด้าน \"อนันต์ แก้วร่วมวงศ์\" เผยยังไม่ทราบข่าว โบ้ยให้ไปถามไทยคม ส่วนกูรูดีดลูกคิดถอดสูตรราคาขายไม่ต่ำกว่า10 บาท มอง ธุรกิจกำลังฟื้นปีนี้กำไรโต 19% ส่วนปีหน้าพุ่งต่อ 21% แรงตามธุรกิจอินเทอร์เน็ตและโฆษณาสมุดหน้าเหลือง (ทันหุ้น) - SMTบุ๊คพิเศษอีก1.5พันล้านกลับSET100ปีนี้ SMT จ่อบุ๊คกำไรพิเศษอีก 1,500 ล้านบาทจากค่าสินไหมชดเชยความเสียหายจากน้ำท่วม ตั้งเป้ารายได้ในปีหน้าใกล้เคียงกับปี'53 ที่มีรายได้ 1.3 หมื่นล้านบาท หลังสิ้นปีนี้จะกลับมาผลิตเต็มที่ 80% และกลับมาอยู่ SET100 (ข่าว หุ้น) - GENCO ขยะเต็มพอร์ตฟาดกำไร 30 ล. GENCO ชูคอรับงานกำจัดขยะมือระวิง จับตางบไตรมาส 3/2555 สดใสหลังรับโรงงานใหม่ 30-50 แห่ง ซื้อ Q4/2555 พีคสุดส่งทั้งปีแตะ 1.5 พันแห่ง หนุนกำลังผลิตพุ่งพรวดอีก 30-35% จากปีก่อนที่ 4.49 หมื่นตันต่อปี (ทันหุ้น) - TOG รับค่าเคลม 100 ล้านการันตีทั้งปีรายได้โต 40% บิ๊ก TOG \"ดร.สว่าง ประจักษ์ธรรม\"ลั่นเจรจาค่าเคลมประกันน้ำท่วมสัมฤทธิ์ผล คาดบุ๊กเข้า Q3/2555 ประมาณปลายเดือนกันยายนนี้ 100 ล้านบาท พร้อมการันตีรายได้ปีนี้พุ่ง 40% จากปีก่อน 1.1 พันล้านบาท ฟากโบรกชี้กำไร ปีนี้ทะลุ 200 ล้านบาท เคาะเป้า 4.20 บาท (ทันหุ้น) - ฟู้ดแลนด์ฯจ่อเข้าตลท. แบ็กดอร์ NIPPON ฟู้ดแลนด์ฯ เตรียมแบ็กดอร์ NIPPON หลังซื้อหุ้นบริษัทลูก (TFP) เข้ามาก่อนหน้านี้ พร้อมจัดโครงสร้างสินทรัพย์ใหม่ดันสินทรัพย์เข้าNIPPON ภายในปีนี้ ด้านฟู้ดแลนด์ฯ พื้นฐานแกร่ง ยอดขาย 3-4 พันล้านบาท กระแสเงินสดไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท ยกฐานะ NIPPON ให้โดดเด่น (ข่าวหุ้น) - AKR วอนรัฐขึ้น Fedin 8 บาท ลุยพม่าปั๊มยอดส่งออกโต 15% AKR รับตัดใจขายธุรกิจโซลาร์สิ้นปีนี้ หากภาครัฐไม่มีนโยบายสนับสนุน แย้มหารือพันธมิตร 2-3 ราย ด้าน \"วิวัฒน์ แสงเทียน\" วอนรัฐขยับ (Fedin) ที่ระดับ 8 บาทต่อหน่วยจาก 5.94 บาทต่อหน่วย เพิ่มขีดความสามารถในการกู้ยืมเงิน ให้ ROE 9-10% ส่วนธุรกิจหม้อแปลงเตรียมเจาะตลาดพม่า ดันยอดส่งออกปีหน้า 15% จากปีนี้ 10% และมั่นใจรายได้ทั้งปีโต20% (ทันหุ้น)   ข่าวเศรษฐกิจ / อุตสาหกรรม - ดัชนีอุตสาหกรรมลดวูบรอบ 8 เดือน นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยการสำรวจความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือน ส.ค. 55 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,099 ราย ครอบคลุม 42 กลุ่มอุตสาหกรรมของ ส.อ.ท. พบว่าค่าดัชนีความเชื่อมั่นในเดือน ส.ค.ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 98.5 โดยลดลงเล็กน้อยจากระดับ 98.7 ในเดือนก.ค.และเป็นค่าดัชนีที่ปรับลดลงต่ำกว่า 100 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ซึ่งเกิดจากปัจจัยความวิตกกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อภาวะส่งออก และเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่ลดลง (ไทยรัฐ) - กรมบัญชีกลางกำเงินภาษีชุดแรก 1.56 หมื่นล้านหว่านแจกประชาชนที่ซื้อรถคันแรก 2.17 แสนคัน นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่ากรมสรรพสามิตได้ส่งข้อมูลคืนเงินของโครงการรถยนต์คันแรก ณวันที่ 18 ก.ย. 2555 มีจำนวน 2.17 แสนคัน คิดเป็น เงินขอคืน 1.56 หมื่นล้านบาทโดยจะเริ่มจ่ายคืนให้กับผู้ที่ขอคืนตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค. 2555 เป็นต้นไป (โพสต์ทูเดย์) - กลุ่มอสังหาริมทรัพย์: สมาคมอุตฯก่อสร้าง เตรียมร้องศาลปกครองระงับเกณฑ์อีออกชันใหม่ 1 ต.ค.ปีนี้หลังต้นทุนพุ่งทุกด้าน นายอังสุรัสมิ์ อารีกุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่าขณะนี้ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างต้องเผชิญกับปัญหาหลายประการ โดยเฉพาะภายหลังจากการที่รัฐบาลปรับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำจำนวน 300 บาทต่อวัน ตั้งแต่วันที่1 เม.ย.ที่ผ่านมา และตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2556 จะมีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ทั่วประเทศในอัตรา 300 บาทจะยิ่งก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา (โพสต์ทูเดย์)   กิจพล ไพรไพศาลกิจ Kitpon.p@kasikornsecurities.com +662 696-0057 ปณิธิ จิตรีโภชน์ Paniti.j@kasikornsecurities.com, +662 696-0053   โดย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ประจำวันที่ 20 ก.ย. 2555

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook