รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง

รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง   สรุปภาพตลาด   แกว่งตัวในกรอบจำกัด รายวัน คาดดัชนีฯ Consolidated (พักฐาน) แนวต้าน 1,223/1,228 จุด แนวรับ 1,200/1,195 จุด ปัจจัยกดดันตลาดฯ จะมาจาก 1) ผิดหวังตัวเลขเศรษฐกิจยุโรป โดยวันนี้จะรายงาน GDP2Q12F คาดลดลง 2) วิตกผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกต่อเอเชีย หลังวานศุกร์-จันทร์ รายงานตัวเลขส่วนใหญ่ต่ำกว่าคาด 3) ตลาดหุ้นสหรัฐฯสัปดาห์นี้ คาดพักฐานระยะสั้น อิง Cash call จากการชำระราคาพันธบัตรฯ ส่วนปัจจัยหนุนหุ้นรายตัว คือกำไรที่ดีกว่าคาด และการรอขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อรับปันผลของ บจ.ไทย เราคงมุมมองตลาดหุ้นไทยจะมีแรงซื้อเก็งกำไรไปจนถึงช่วงกลางเดือนนี้ จากการประกาศงบดีกว่าคาด และประกาศปันผลระหว่างกาล ก่อนจะปรับฐาน หลังตลาดหมดข่าวบวกใหม่ โดยจะไปลุ้นรีบาวด์อีกครั้งในปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน จากการเก็งฯผลการประชุมประธานเฟดสาขาต่างๆที่ Jackson hole สิ้นเดือนนี้ อาจส่งสัญญาณออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่) กลยุทธ์ระยะสั้น แนะ เก็งกำไรรายตัว ส่วนนักลงทุนระยะสัปดาห์-เดือน แนะ ขึ้นทยอยล็อกกำไร โดยเฉพาะบูลชิพบิ๊กแคป ถ้ารอบนี้ไม่มี New high หรือติดแนวต้าน 1,230 จุด หุ้นเด่น แนะนำ KCAR (แนวรับ 16 บ. ต้าน 17.5 บ.) คาดตลาดมีแนวโน้มปรับประมาณการณ์กำไรและราคาเป้าหมายขึ้น/ MAKRO (รับ 322 บ. ต้าน 340 บ.) กำไรดีกว่าคาด และมีแนวโน้มปรับประมาณการณ์ขึ้น หลังประชุมนักวิเคราะห์ในสัปดาห์นี้, ราคาหุ้นลงแรงก่อนหน้าสัญญาณเทคนิคเข้าเขต Oversold /CPN (รับ 48.3 บ. ต้าน 50-50.75 บ.) ประกาศงบสัปดาห์นี้คาดมี Positive surprise / และ ขายเล่นรอบระยะสั้น /รอสะสมอ่อนตัว SORKON SRICHA   ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดฯ (-) วิตกผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกต่อเอเชีย 1) ยอดส่งออกจีนเดือน กค. ขยายตัวเพียง 1% y-y จากเดือน มิย. 11.3% และต่ำกว่าตลาดคาดที่ 5-8% ขณะที่การนำเข้า +4.7% (เดือน มิย.6.3% และต่ำกว่าตลาดคาดที่ 2.5-7%) 2) จีดีพี 2Q12 สิงคโปร์ -0.7% q-q saar.จาก +9.5% q-q saar. 3) ฟิลิปปินส์ ส่งออกเดือน มิย. ลดลงเหลือ 4.2% y-y (เดือน พค.+19.7% y-y (ตลาดคาด 12.1%) (-) ยุโรป GDP 2Q12 รอบแรก คาดหดตัว ติดลบ 0.2-0.4% จากไตรมาสก่อนที่ 0% (เราคาดไม่มี Positive surprise เหมือน 1Q12 (+/-) Earning surprise กำไรแย่กว่าคาดได้แก่ TRUE BANPU SORKON / กำไรดีกว่าคาด RCL SVI AP คาดราคาหุ้นระยะสั้นจะปรับสูงขึ้น-ลดลง ตามผลการดำเนินงานที่ ดี หรือ แย่กว่าคาด   Investment theme: ธุรกรรม SBL Short หุ้นบูลชิพอีกครั้งบริเวณ 1,230 จุด Safe haven (คาดดีกว่าตลาด) เน้นหุ้น มีปันผลระหว่างกาลสูง DTAC BECL EGCO (RATCH) BEC MAJOR INTUCH MCOT TVO   วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336   ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด   ตัวเลขส่งออก นำเข้าจีนเดือนก.คต่ำกว่าคาด กระทรวงพาณิชย์จีนประกาศตัวเลขส่งออกจีนเดือนก.คโตเพียง 1% เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดโต 8% จากปีก่อน และนำเข้าจีนโตเพียง 4.7% เทียบกับคาดโต 7% ส่งสัญญาณผลกระทบวิกฤตหนี้ยุโรปต่อการส่งออกจีนเพิ่มมากขึ้น และ ประชาชนจีนเองก็ไม่มั่นใจต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ทำให้การบริโภคสินค้าโตน้อย ขณะที่หลายฝ่ายเริ่มลังเลว่าทางการจีนจะสามารถออกมามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากอย่างที่คาดหรือไม่ ขณะที่ความเห็นจากธนาคารกลางของจีนดูจะยังกังวลต่อการกลับมาสร้างปัญหาการเก็งกำไรของราคาที่อยู่อาศัย (Bloomberg)   เดินหน้าพัฒนาดอนเมืองเต็มรูปแบบ 1 ตุลาคมนี้ 14 สายการบินกลับรัง เร่งลดความแออัดสุวรรณภูมิ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ให้นโยบายบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เร่งเพิ่มศักยภาพการใช้ประโยชน์พื้นที่สนามบินดอนเมือง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนการพัฒนา 6 กิจกรรมเดิมที่ ทอท. ศึกษาไว้นั้น ให้ยกเลิกไปก่อน หรืออาจไปทบทวนว่า  ดำเนินการแล้วจะเกิดประโยชน์หรือไม่ เพราะกระทรวงคมนาคมต้องการให้ ทอท. เร่งแก้ปัญหาความแออัดของสนามบินสุวรรณภูมิ โดยหนึ่งในนโยบาย คือ จูงใจให้สายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอส) สายการบินที่บินจุดต่อจุด (พอยส์ ทู พอยส์) และเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาเตอร์ไฟล์ท) มาให้บริการที่ดอนเมือง โดยวันที่ 1 ต.ค. นี้ จะมี 14 สายการบิน ย้ายมาให้บริการที่สนามบินดอนเมืองตามเป้าหมายของ ทอท. แน่นอน \"ผมต้องการให้สนามบินดอนเมืองเป็นเหมือนเดิม สามารถให้บริการสายการบิน และเพิ่มศักยภาพของสนามบินให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ซึ่งถือเป็นประโยชน์ของ ทอท.เอง ที่จะมีรายได้ในการนำมาซ่อมบำรุง ใช้ชดเชยค่าเสื่อม เป็นต้น ซึ่ง ทอท. ต้องศึกษารายละเอียดที่ต้องพัฒนาสนามบินไปพร้อมๆ กันด้วย\" (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)   ขอเงินจำนำข้าว-มัน2.6แสน ล. พาณิชย์เล็งตั้งโซนนำเข้าจากเพื่อนบ้านส่งออก \"บุญทรง\" เตรียมขอ ครม.ไฟเขียวเงิน 2.6 แสนล้านบาท จำนำข้าวเปลือกและสินค้าเกษตรอื่นๆ ฤดูกาลผลิต 55/56 ยันรัฐบาลไม่ได้ถังแตก มีเงินจำนำข้าวได้ครบทุกเมล็ดแน่ คุยขายข้าวจีทูจีจนถึงสิ้นปียอดพุ่ง 4-5 ล้านตัน เดินหน้าตั้งเขตพิเศษตามแนวชายแดนนำเข้าข้าวเพื่อนบ้านสีแปรสภาพแล้วส่งออก ยันวางระบบป้องกันรัดกุม ไม่มีเล็ดลอดเข้ามาเวียนขายในประเทศแน่ (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)   นายกฯเครียดเรียก \"อารักษ์\" ถกแอลพีจี เทียบเชิญ \"พันศักดิ์\" กุนซือรัฐบาลรับศึก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 14 ส.ค.นี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน เข้าหารือเป็นการส่วนตัว เพื่อหาข้อยุติร่วมกันในเรื่องของนโยบายการปรับขึ้นราคาพลังงานคือ ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ภาคขนส่งและก๊าซธรรมชาติ สำหรับรถยนต์ (เอ็นจีวี) เพื่อรองรับหลังจากที่ในวันที่ 16 ส.ค. นี้ เป็นวันที่ครบกำหนดการเลื่อนนโยบายการปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิงดังกล่าวมาครบ 3 เดือน ทำให้ต้องมีข้อสรุปว่า ระหว่างวันที่ 16 ส.ค.-15 ก.ย. ที่ต้องปฏิบัติตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่กำหนดให้ปรับขึ้นราคาเป็นรายเดือนว่า จะดำเนินการอย่างไร (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)   ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1   รายงานวันนี้   หุ้น: BTS          คำแนะนำ: ซื้อ          ราคาเป้าหมาย (บาท): 7.95 BTS รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/55/56 (เม.ย.-มิ.ย.) ที่ 309 ล้านบาท สูงขึ้น 127% YoY แต่ลดลง 2% QoQ ถ้าหากไม่รวมขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 14 ล้านบาท กำไรหลักไตรมาส 1/55/56 จะอยู่ที่ 324 ล้านบาท สูงขึ้น 201% YoY และ 9% QoQ ผลประกอบการที่ออกมาสูงกว่าที่เราและตลาดคาด 5% เนื่องจาก รายได้อื่นที่สูงกว่าคาดและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ต่ำกว่าคาด ผลประกอบการของ BTS มีแนวโน้มที่เติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 2/55/56 ทั้ง YoY และ QoQ หนุนโดยการเติบโตที่แข็งแกร่งของจำนวนผู้โดยสารและธุรกิจสื่อและอสังหาริมทรัพย์ที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง   หุ้น: SC          คำแนะนำ: ซื้อ          ราคาเป้าหมาย (บาท): 19.00 SC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/55 ที่ 177 ล้านบาท ลดลง 51% และ ทรงตัว QoQ ผลออกมาตามที่เราคาดแต่สูงกว่าที่ตลาดคาด 16% เนื่องจาก อัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าที่คาดไว้ กำไรหลักอ่อนตัวลงเนื่องจากยอดขายบ้านลดลง  แต่อัตรากำไรขั้นต้นบ้านดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เราคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3/55 จะทรงตัว YoY แต่ดีขึ้น QoQ   หุ้น: BECL          คำแนะนำ: ซื้อ          ราคาเป้าหมาย (บาท): 32.00 BECL รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/55 ที่ 1,052 ล้านบาท สูงขึ้น 312% YoY และ 157% QoQ หนุนโดย กำไรพิเศษ กำไรหลักเติบโต YoY หนุนโดยปริมาณการจราจรที่สูงขึ้น ซึ่งค่าเฉลี่ยของปริมาณการจราจรต่อวันสูงขึ้น 5% YoY มาอยู่ที่ 1,057,738 เที่ยว ในไตรมาส 2/55 คาดกำไรหลักจะเติบโตต่อเนื่องทั้ง YoY และ QoQ ในไตรมาส 3/55 หนุนโดยอุปสงค์ที่สูงขึ้นตามฤดูกาล, เงินปันผลรับจาก TTW, และส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากซีเคพาวเวอร์   หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม   Technical Analysis   Security: TOP Position: ขายทำกำไร Reason: ราคาไม่ผ่านแนวต้านสำคัญ 68  ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิคชี้ว่าหุ้นอยู่ในภาพ Overbought จึงมีความเสี่ยงของการถูกขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน   Security: CPALL Position: ขายทำกำไร Reason: แม้ราคาหุ้นไม่ได้ปรับตัวลงแรง แต่เครื่องมือทางเทคนิคบ่งชี้ถึงความเสี่ยงหากหลุดแนวรับสำคัญ 32.5 คาดหุ้นจะปรับลงแรง ขณะที่ภาพระยะกลางมีแนวโน้มเกิดลักษณะ Rounding top หรือแนวโน้มเปลี่ยนเป็นลง   Security: LPN Position: ขายทำกำไร Reason: รูปแบบ Double top หลังจากไม่ผ่านยอดเดิม 117.6 ขณะที่ภาพระยะสั้นดูไม่ดีหลังจากหลุดเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นแนวโน้มเปลี่ยนเป็นลง   Security: SITHAI Position: ขายทำกำไร Reason: อ่อนตัวลงทดสอบแนวรับสำคัญ 16 บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน หากราคาหุ้นหลุดแนวรับที่ให้ไว้คาดหุ้นจะปรับลงแรง   Security: CPF Position: ขายทำกำไร Reason: แม้ราคาหุ้นไม่ได้ปรับตัวลงแรง แต่เครื่องมือทางเทคนิคบ่งชี้ถึงสัญญาณลบตัดลงและอยู่ในกลุ่มหุ้นที่มีสัญญาณอ่อนกว่าตลาด แนวรับแรก 31 หากหุ้นทะลุลงไปต่ำกว่าคาดว่าหุ้นจะปรับตัวลงแรง   Security: KCAR Position: ซื้อเก็งกำไร ป้าหมาย: 17/17.5 Stop loss< 16 Reason: ทะลุทำจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์ สัญญาณทางเทคนิคมองการ Break out แนวต้านสำคัญ 16.3 สอดคล้องกับวอลุ่มที่เพิ่มขึ้นและเครื่องมือทางเทคนิคตัวขึ้นเป็นบวก   โดย บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ประจำวันที่ 14 ส.ค. 2555

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook