Daily View - บล.กสิกรไทย

Daily View - บล.กสิกรไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตลาดโลกที่กลับมาหวัง QE3 หนุนฟื้นตัวช่วงสั้น   แนวโน้มตลาด: หุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปิดผสมผสาน ทั้งนี้ข่าวร้ายทางเศรษฐกิจอาทิ การที่อังกฤษปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจลง ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเยอรมันก.ค.ลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน นอกจากนี้ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ มิ.ย.ลดลง 8.4% MoM หนักสุดในรอบ 1 ปี และสต็อคน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นหว่าคาด ถูกหักล้างด้วยข่าวบวกเกี่ยวกับการขอใบอนุญาตธนาคารของกองทุน ESM ซึ่งจะช่วยให้สามารถเพิ่มขนาดเงินทุนรับมือวิกฤติได้ และความคาดหวังเชิงบวกว่าเฟดจะใช้QE3 เพื่อรับมือสถานการณ์เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลง ทั้งนี้หลังจากหุ้นโลกผันผวนในช่วงที่ผ่านมา สะท้อนข่าวร้ายไประดับหนึ่ง จะทำให้ตลาดช่วงสั้นฟื้นตัวได้ ด้วยกลยุทธ์การเลือกหุ้นรายตัวที่ดี (selective buy) เชื่อว่าจะช่วยลดความเสี่ยงของหุ้นที่เลือก ให้ต่ำกว่าภาพตลาดรวมได้ หุ้นสื่อสารให้ระวังแรง switch ก่อนการจ่ายปันผลสำหรับหุ้นในกลุ่มเช่าซื้อขนาดเล็กที่เราแนะนำบ่อยในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากคาดว่าจะรายงานผลประกอบการในระดับที่ดีมาก ได้แก่ GL ASK TK THANI ECL ให้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ่นในหุ้นที่ประกาศผลประกอบการแล้ว หรือบริหารความเสี่ยงโดยเน้นเก็งกำไรหุ้นที่ยังไม่ประกาศผลประกอบการ/ยังขึ้นน้อย กลยุทธ์การลงทุน: SET Index คาดว่าจะฟื้นตัวช่วงสั้น จากผลประกอบการรายหุ้นส่วนใหญ่ที่น่าจะยังออกมาดี และอาจต่อเวลาให้หุ้นไทยไปได้ถึงต้น ส.ค. ก่อนงบของกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี หลายตัวที่น่าจะออกมาแย่ (กลาง ส.ค.) จะมากดดันตลาด กลยุทธ์เน้นการเลือกซื้อรายตัวในเชิงตั้งรับ (ขึ้นขาย-ลงซื้อ) หุ้นแนะนำ QH MINT VNG STEC สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: เมื่อ 15 มิ.ย. เราเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก 10% เป็น 60% และยังเตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก โดยยังคงประเมิน downside ของ SET Index ที่ 1050 จุด หุ้นที่อาจพิจารณาทยอยสะสม ได้แก่ TICON TCAP KK TISCO EGCO RATCH PS AP SIRI QH PF PTTGC PTT KTB NMG RS   หุ้นแนะนำวันนี้ - Best trade QH (ปิด 1.75 เป้าระยะสั้น 1.84 ขายเมื่อหลุด 1.70) กระแสกังวลคอนโดชะลอทำให้มีแรง switching มายัง QH ที่มีสัดส่วนโครงการแนวราบสูง + คาดกำไรปี 2555 เพิ่มขึ้น 67% YoY + ราคายังถูก PER เพียง6.1x และมี yield ถึง 8.4% + เตรียมขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาฯ 3Q55 - MINT (ปิด 15.40 เป้าระยะสั้น 16.30 ขายเมื่อหลุด 15.00) ธุรกิจฟื้นตัวทั้งอาหาร (สัดส่วน 50%) และโรงแรม (สัดส่วน 40%) + ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/55 โดดเด่น YoY เนื่องจากรวมโรงแรม OAK ที่ออสเตรเลีย + มีโอกาสปรับประมาณการเพิ่มจากเทคโอเวอร์ซึ่งจะเสร็จทันในปี 2555 อย่างน้อย 1 แห่ง - VNG (ปิด 4.20 เป้าระยะสั้น 4.42 ขายเมื่อหลุด 4.12) ธุรกิจฟื้นตัวและเข้าสู่ช่วง high season ไตรมาส2-3 +ราคายางที่ปรับลดลงส่งผลดีต่อราคาไม้ยางที่เป็นวัตถุดิบการผลิต + ปัจจุบันใช้กำลังการผลิตที่ 85% และเตรียมขยายกำลังการผลิต Particle board ขึ้นอีกในช่วงไตรมาส 4/55 + ราคาปัจจุบันอยู่ที่เพียง 0.88 x PBV และ PER ที่ 10.86 เท่า - STEC (ปิด 15.40 เป้าระยะสั้น 15.70-16.80 ขายเมื่อหลุด 15.00) แม้กำไรน่าจะอ่อนตัวลง QoQ แต่ได้ผลดีจากการเปิด TOR โครงการบริหารจัดการน้ำ (9-23 ก.ค.) และรถไฟฟ้าสายสีเขียว (23-31 ก.ค.) + backlog ในมือ 6.6 หมื่นล้านบาท สามารถรับรู้รายได้เกินกว่า 3 ปี + ยังมี upside จากการเข้าประมูลโครงการอื่นๆ อาทิ รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และจาก STPI   Today’s Best Trades   ประเด็นการลงทุนหุ้น Today’s Best Trades   Buy QH กระแสกังวลคอนโดชะลอทำให้มีแรง switching มายัง QH ที่มีสัดส่วนโครงการแนวราบสูง + คาดกำไรปี 2555 เพิ่มขึ้น 67% YoY + ราคายังถูก PER เพียง 6.1x และมี yield ถึง 8.4% + เตรียมขาย 3 อสังหาริมทรัพย์เข้ากองทนอสังหาฯ ไตรมาส 3 HOLD TICON ราคาหุ้นในปัจจุบันเป็นโอกาสซื้อที่ดี + ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 พลิกกลับมามีกำไรจากการขายโรงงานเข้ากองทุนอสังหาสริมทรัพย์ และไตรมาส 2 จะเร่งตัวขึ้นมาก + ราคาปัจจุบัน 6.6x PER ถูกสุดกลุ่มนิคม + ผลตอบแทนเงินปันผล 9.6% สงสดในกล่มนิคม + ห้นมีโอกาสถก concensus ปรับประมาณการขึ้น KTB เก็งกำไรสั้นรับการฟื้นตัวของ SET + หุ้นธนาคารขนาดใหญ่ที่ถูกที่สุด PER เพียง 7.4 เท่า และคาดการณ์ผลตอบแทนปันผล 4.5% + เชื่อว่าราคาหุ้นถูกกดดันจากข่าวเพิ่มทุนมากเกินไป KSL เข้าสู่ช่วง high season ผลประกอบการไตรมาส 2 (ก.พ.-เม.ย.55) + ก.ค.เป็นเดือนที่ราคาน้ำตาลเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5-8% ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา + แม้ราคาส่งออกน้ำตาลลดลง 5% QoQ แต่ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 25% QoQ และ 30% YoY กำไรจึงมีแนวโน้มดีขึ้น + ราคาปัจจุบันคิดเป็น PER 10.2 เท่า ให้ผลตอบแทนปันผล 4.1% (concensus) PTTGC ราคาสะท้อนผลการดำเนินงาน 2Q55 ที่จะอ่อนลง QoQ ไปมากแล้ว + ตลาดจะเริ่มคลายกังวลการปรับสูตรส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนกับ PTT ยังอีกไกล + ราคาคิดเป็นเพียง 6.6x PER และให้คาดการณ์ผลตอบแทนปันผล 6.0% CENTEL ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรขึ้น 15% และ 14% ในปี 2555 และ 2556 + นักท่องเที่ยวต่างชาติ 5M55 เพิ่มขึ้น 7% YoY นักท่องเที่ยวจากเอเชียชดเชยจากยุโรปที่ลดลง + ไตรมาส 2/55 อัตราการเข้าพักสูงถึง 65% (+7% YoY) รายได้ต่อห้องเฉลี่ยเพิ่มถึง 13% YoY + คาดกำไรไตรมาส 2/55 ที่ 102 ล้านบาท +30% QoQ และ 139% YoY + ซื้อขายที่ PER 18.7x ปี 2555 และเหลือเพียง 14.9x ในปี 2556 KCE ผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์สำหรับยายนยนต์อันดับ 2 ของโลก + โรงงาน KCET ที่อยุธยากลับมาดำเนินงานได้ 60-70%แล้ว + ปรับราคาขายขึ้น 5-10% ในช่วง 2H55 + การเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ที่โรงงานอยุธยา ช่วยลดของเสียและเพิ่มกำลังการผลิตอีก 20% + Turnaround ราคาปัจจบันอย่ที่ 1.12 เท่า PBV LANNA กำไรที่ดีขึ้นมาจากธุรกิจเอธานอลดังนั้นผลกระทบราคาถ่านหินจึงไม่มาก + คาดกำไร 2555 ทำสถิติใหม่ 1.3 พันล้านบาท +25% YoY + มองว่าตลาดมีโอกาสปรับประมาณการขึ้น จากกำไรที่เราคาดดีกว่า concensus ถึง 18% + ปัจจุบันคิดเป็น PER เพียง 6.9 เท่า และให้ปันผล 7%   ปัจจัยที่ต้องติดตาม - 26 ก.ค. EU: Euro-zone M3 - 26 ก.ค. US: Durable Goods Orders - 26 ก.ค. US: Jobless Claims - 26 ก.ค. US: Pending Home Sales Index - 26 ก.ค. US (Earnings): ExxonMobil, 3M, Credit Suisse, Dow Chemical, Amazon.com, facebook, Starbucks - 27 ก.ค. US: GDP - 27 ก.ค. US: Consumer Sentiment - 27 ก.ค. US (Earnings): Chevron, Merck, Barclays, DR Horton - 30 ก.ค. EU: Euro-Zone Consumer Confidence - 30 ก.ค. US: Dallas Fed Mfg Survey - 31 ก.ค. EU: Euro-Zone CPI Estimate - 31 ก.ค. EU: Euro-Zone Unemployment Rate - 31 ก.ค. US: Personal Income and Outlays - 31 ก.ค. US: Chicago PMI - 31 ก.ค. US: Consumer Confidence - 01 ส.ค. China: Manufacturing PMI - 01 ส.ค. EU: PMI Manufacturing - 01 ก.ค. US: MBA Mortgage Applications - 01 ส.ค. US: ADP Employment Report - 01 ส.ค. US: ISM Mfg Index - 01 ส.ค. US: FOMC Meeting Announcement - 02 ส.ค. EU: ECB Announces Interest Rates - 02 ส.ค. US: Jobless Claims - 02 ส.ค. US: Factory Orders - 03 ส.ค. China: Non-manufacturing PMI - 03 ส.ค. EU: PMI Composite - 03 ส.ค. EU: Euro-Zone Retail Sales - 03 ส.ค. US: Employment Situation - 03 ส.ค. US: ISM Non-Mfg Index   บทวิเคราะห์วันนี้ - Take Action SCC (ซื้อ ปิด 316 พื้นฐาน 420 +32.9%) กำไร 2Q55 ที่ 4,280 ลบ. (- 28% QoQ, - 43% YoY) ต่ำกว่าคาด จาก inventory loss - คงคำแนะนำซื้อ มูลค่าพื้นฐาน 420 บาท กำไรสุทธิที่ลดลงใน 2Q55 มีสาเหตุหลักจาก inventory loss และการหยุดการผลิตของ BST จากเหตุการไฟไหม้ ขณะที่เราคาดว่ากำไร SCC จะฟื้นตัวใน 2H55 นอกจากนี้ SCC ประกาศจ่ายปันผล 4.50 บาท (dividend yield 1.4% สำหรับครึ่งปี) จึงคงคำแนะนำซื้อ - กำไร 2Q55 ที่ 4,280 ลบ. (-28% QoQ, - 43% YoY) จาก inventory loss กำไรสุทธิต่ำกว่า KS คาดถึง 48% ต่ำกว่า Bloomberg consensus 11% (KS คาด 8,215 ลบ.,Bloomberg consensus 4,836 ลบ.) สาเหตุที่กำไรต่ำกว่าคาดจากขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ (inventory loss) ประมาณ 2,000 ลบ. ในธุรกิจเคมีภัณฑ์และได้รับผลกระทบจากการหยุดการผลิตของบริษัท กรุงเทพ ซินธิติกส์ จำกัด (BST) รวมถึง 2Q55 เป็นฤดูกาลที่ปริมาณความต้องการสินค้าในธุรกิจซิเมนต์และธุรกิจผลิตภัณฑ์ก่อสร้างลดลง อย่างไรก็ตามรายได้จากการขายเพิ่ม +7% YoY เนื่องจากการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง> กำไร 1H55 ลด -39% YoY กำไรสุทธิ 1H55 อยู่ที่ 10,252 ลบ. -39% YoY เนื่องจากธุรกิจเคมีภัณฑ์ได้รับผลกระทบจากช่วงขาลงของธุรกิจเคมีภัณฑ์ในตลาดโลกใน 1Q55 และการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือใน 2Q55 รวมถึงจากการหยุดการผลิตของ BST จากเหตุการณ์ไฟไห้ม - คาดกำไร 2H55 ฟื้นตัว SCC คาดกำไร 2H55 สูงกว่า 1H55 จากสเปรดปิโตรเคมี (ระหว่างแนฟทา และโพลีโพรพิลีน) ปรับตัวดีขึ้น.ทำให้ตั้งแต่ต้น 3/55 จนถึงปัจจุบัน ธุรกิจเคมีภัณฑ์มีกำไรจากสต็อก(stock gain) รวมถึงโรงงานในญี่ปุ่นบางโรงลดการผลิตลง อีกทั้งกำลังการผลิตใหม่จากตลาดโลก ที่จะเข้ามาในช่วงครึ่งหลังปีนี้มีระดับไม่มาก นอกจากนี้ nonpetrochemical ยังมีการเติบโต จากโครงการลงทุนด้านสาธารณูปโภคของภาครัฐ ที่มีงบประมาณออกมาในช่วง 2Q55 ซึ่งจะส่งผลต่อความต้องการใช้ซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างใน 3Q55 แม้เป็นช่วง low season และเชื่อว่าการเติบโตจะยังต่อเนื่องถึง 4Q55 โดยคาดยอดขายปี 2555 จะเพิ่มจากปี 2554 - จ่ายปันผล 4.50 บาท สำหรับผลการดำเนินงาน 1H55 อัตราปันผลตอบแทน 1.4% ปันผลจ่ายคิดเป็น 53% ของกำไรสำหรับงวด โดยกำหนดจ่าย 23 ส.ค. 55 (XD 5 ส.ค.) - อยู่ระหว่างจัดทำแผนลงทุน 5 ปี (ปี 2556-60) โดยเบื้องต้นคาดจะมีมูลค่าราว 2 แสนลบ. ซึ่งจะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในเดือนส.ค. โดยยังเน้นลงทุนในกลุ่มอาเซียนมากกว่า 50% ซึ่งจะเป็นทั้งการเข้าซื้อกิจการ (M&A) และการลงทุนก่อสร้างโครงการ (green   field) โดยตั้งงบลงทุนในพม่า ประมาณ 1 หมื่นลบ. ลงทุนใน 3 โครงการได้แก่ โรงปูนซีเมนต์ขนาด 1.7-1.8 ล้านตัน/ปี ,โครงการระบบโลจิสติกส์ ระบบขนส่งทางเรือและโครงการโรงไฟฟ้า1 โรง มูลค่าการลงทุนอยู่ระหว่าง 40-60 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ในอินโดนีเซีย ตั้งงบไว้ราว 1 หมื่นลบ. เพื่อสร้างโรงปูนซีเมนต์ ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทคาดว่าจะมีกำลังการผลิต 1.9 ล้านตัน/ปีส่วนความคืบหน้าโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ ในเวียดนาม มูลค่า 4.5 พันล้านดอลลาร์นั้นยังคงเดินหน้าตามแผน - BGH (ซื้อ ปิด 98.75 พื้นฐาน 110 +11.4%) คาดผลการดำเนินงาน 2Q55 โต 29% YoY - คงคำแนะนำซื้อ มีโอกาสปรับกำไรเพิ่ม แม้ราคาหุ้น BGH จะขึ้นแรงในช่วงที่ผ่านมา แต่เรายังคงคำแนะนำซื้อ เนื่องจากคาดผลการดำเนินงาน 2Q55-3Q55 จะออกมาดี ประกอบกับประเด็นเรื่อง M&A ทำให้มีโอกาสจะปรับประมาณการกำไรขึ้น (ปัจจุบันราคาหุ้นยังซื้อขายที่ PE 23.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 25 เท่า) - คาดกำไรจากการดำเนินงาน +29%YoY จากรายได้ผู้ป่วยต่างชาติโตดี เราคาดกำไรสุทธิ 2Q55 ที่ 1.17 พันล้านบาท (-16% YoY, -64% QoQ) แต่ถ้าไม่รวมรายการพิเศษใน 2Q54 BGH จะมีกำไรจากการดำเนินงานใน 2Q55 +29% YoY ด้วยแรงผลักดันจากรายได้ ผู้ป่วยต่างชาติโต +23%YoY ขณะที่คาดกำไรที่ลด QoQ เนื่องจาก low season อย่างไรก็ตามเราคาดอัตราการเติบโตของรายได้จากผู้ป่วยในประเทศอ่อนตัวลงในไตรมาสนี้ (+13% ต่ำกว่า+15% ใน 1Q55) อย่างไรก็ตามคาดรายได้ผู้ป่วยในประเทศจะกลับมาโตแข็งแกร่งใน 3Q55 เนื่องจากเป็นฤดูการแพร่ไวรัส และการแพร่กระจายของโรคมือเท้าปากในประเทศไทย - EBITDA margin ลด YoY แต่ core profit margin เพิ่ม การที่ BGH มีจำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นประกอบกับค่าใช้จ่ายพนักงานสูงขึ้นจากนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐ อาจกดดันอัตราส่วน EBITDA ลดลง 2ppt YoY มาอยู่ที่ 19.8% ใน 2Q55 แต่ core profit margin จะยังเพิ่มขึ้น 1ppt YoY เป็น 10.8% ใน 2Q55 จากการลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ** รายการ big lot วานนี้: วานนี้ BGH มีรายการ big lot 44.96 ล้านหุ้น (2.89% ของจำนวนหุ้น) ที่ราคา 96 บาท เป็นการขายโดย Deutsche Bank AG Singapore ให้กลุ่มนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ** - เศรษฐกิจ: ส่งออกมิ.ย. พลิกกลับมาหดตัวลง - ส่งออกมิ.ย. พลิกกลับมาหดตัวลง ส่งออกมิ.ย. -2.5%YoY เนื่องจากการส่งออกไปยังตลาดหลักทั้งหมดซบเซาลง จากความเสี่ยงวิกฤตหนี้ยุโรปและการชะลอตัวที่มากเกินคาดของเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ ส่งผลให้การส่งออกสินค้าเกษตร ทั้ง ข้าวและยางพารา (-STA) หด ตัวลงอย่างรุนแรง ขณะที่การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเริ่มส่งสัญญาณการขยายตัวที่ชะลอลงอย่างเห็นได้ชัด อาทิ ยานยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ (-AH, -IHL, - STANLY) เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (-DELTA, -HANA) - เศรษฐกิจ: กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 3.00% ตามคาด - กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 3.00% ตามคาด เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบัน ยังคงมีความเหมาะสมต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งยังขยายตัวในระดับใกล้เคียงกับศักยภาพ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมาย โดย เครือธนาคารกสิกรไทย คาดว่า กนง.น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 3.0% จนถึงสิ้นปี 2555 หากความเสี่ยงในช่วงขาลงของเศรษฐกิจไทยไม่ได้เลวร้ายกว่าที่ประเมินไว้ หรือแรงกดดันเงินเฟ้อไม่ได้เร่งตัวอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกัน KS คาดว่าการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายดังกล่าว จะไม่ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดหุ้นโดยรวม แต่น่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อกลุ่มธุรกิจเช่าซื้อ (หุ้นเด่น TISCO) และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (หุ้นเด่น PS, AP, SPALI, QH, LPN ตามลำดับ) ตามที่ได้เคยประเมินไว้ก่อนหน้าข่าวที่มีผลกระทบต่อตลาด   สรุปภาวะตลาด - DJIA ปิด 12,676.05 จุด +58.73 จุด (+0.47%) S&P500 ปิด 1,337.89 จุด -0.42 จุด (-0.03%) NASDAQ ปิด 2,854.24 จุด -8.75 จุด (-0.31%) ตลาดหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวผันผวน โดย DJIA สามารถกลับมาบวกได้จากรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด ของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐ ขณะที่ S&P500 และ NASDAQ ได้รับแรงกดดันจากตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ที่ลดลงเกินคาด รวมถึงผลประกอบการที่น่าผิดหวังของ Apple - NYMEX ส่งมอบ ก.ย. อยู่ที่ USD88.97/bbl +0.47(+0.5%) สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบ ส.ค. อยู่ที่ USD1,608.1/ounce +31.9(+2%) ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้นจากการอ่อนค่าลงของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ สัญญาราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่าเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของ ECB ได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อกองทุน EFSF ขณะที่สัญญาราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางด้วย   สรุปข่าวประจำวัน   ต่างประเทศ - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เผย ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย.55 ปรับตัวลดลง 8.4% จากเดือนพ.ค.55 ซึ่งถือว่าร่วงหนักสุดในรอบกว่า 1 ปี สู่ระดับ 350,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ขณะที่ราคาเฉลี่ยของบ้านใหม่เดือนมิ.ย.55 ลดลง 3.2% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 232,600 ดอลลาร์ ทั้งนี้ ยอดขายบ้านที่ลดลงและราคาบ้านที่กลับเข้าสู่ขาลงอีกครั้งไดท้ ให้นักลงทุนไม่มั่นใจในเรื่องการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐ แม้ว่าตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนมิ.ย.55 พุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปีก็ตาม (อินโฟเควสท์) - นายลูอิส เด กวินโดส รมว.เศรษฐกิจสเปน และนายปิแอร์ มอสโควิซี รมว.คลังฝรั่งเศสออกแถลงการณ์ระบุว่า เสถียรภาพของยูโรโซนจำเป็นต้องอาศัยการจัดตั้งกลไกเดียวในการกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ทั่วทั้งยูโรโซนก่อนสิ้นปีนี้ โดย ECB จะมีส่วนร่วมในกลไกดังกล่าว ทั้งนี้ แถลงการณ์ระบุว่า \"เราคาดว่าคณะกรรมาธิการยุโรปจะจัดทำข้อเสนอนี้ภายในเดือนก.ย. และจะดำเนินการเจรจาต่อรองอย่างรวดเร็ว โดยกลไกในการกำกับดูแลนี้จะเปิดโอกาสให้มีการเพิ่มทุนแก่ธนาคารพาณิชย์โดยตรงภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม\" (รอยเตอร์) - เกาหลีใต้ รายงาน GDP ไตรมาส 2/55 ขยายตัวเพียง 0.4%QoQ และ 2.4%YoY ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 0.5%QoQ และ 2.6%YoY (Market Watch)   ข่าวบริษัท - CPF ฐานเงินแกร่ง ยันไม่มีแผนเพิ่มทุน \"อดิเรก\"ตั้งเป้า 5 ปียอดขาย 6 แสนล้าน CPF แจงฐานะการเงินมั่นคง ยันไม่มีแผนเพิ่มทุน และการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่หรือผู้บริหารก็ไม่ได้มีอะไรที่ผิดปกติ \"อดิเรก\" ตั้งเป้า 5 ปี ยอดขายกว่า 6 แสนล้านบาท (ข่าวหุ้น) - SCC ครึ่งปีหลังกำไรเด้ง รายได้ปีนี้ทะลุ4.1แสนล. \"ปูนใหญ่\" การันตีครึ่งปีหลังยอดขาย-กำไรดีกว่าครึ่งปีแรก หลังสเปรดปิโตรเคมี-ราคาน้ำมันดีขึ้น ปรับเป้ายอดขายปีนี้ทะลุ 4.1 แสนล้านบาท เดือนหน้าประชุมบอร์ดทบทวนแผนลงทุน 5 ปี 2 แสนล้านบาท เล็งตอกเสาเข็มโรงปูน พม่า มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท (ข่าวหุ้น) - กองทุนเทบิ๊กล็อตBGH \"วิชัย\"ยันซื้อหุ้นเพิ่ม DEUTSCHE BANK ขายบิ๊กล็อต BGH เกลี้ยง 44.6 ล้านหุ้น บล.ภัทร อาสารวบหุ้นทั้งหมด ทำบุ๊คบิวด์ ได้ช่วงราคา 93-98 บาทและสรุปราคาจบตรงที่ 96 บาท ส่วนยอดจองหุ้นบิ๊กล็อตล้น 10 เท่า \"วิชัย\" พร้อมถือหุ้นเพิ่มอีก (ข่าวหุ้น) - TMB โชว์ตั้งสำรอง120% ดันสินเชื่อปีนี้เข้าเป้า ธนาคารทหารไทย (TMB) มั่นใจสินเชื่อปีนี้เติบโตตามเป้าหมาย 15% คิดเป็นเม็ดเงิน 4-5 หมื่นล้านบาท แม้ครึ่งปีทำได้แล้ว 6% เน้นกระจายพอร์ตโตต่อเนื่อง ชู SME โดดเด่น ปลื้ม NPL ลดลงมั่นใจช่วงท้ายดีกว่านี้ พร้อมตั้ง สำรองเพิ่ม 120% (ข่าวหุ้น) - กสทฯฉีกสัญญา3จี \"TRUE\" เปิดทางรายอื่นทำMVNO บอร์ด กสทฯ. เห็นชอบหลักการฉีกสัญญา 3 จี HSPA กับกลุ่ม TRUE พร้อมสั่งให้คณะทำงานไปทำแผนการดำเนินธุรกิจและสัญญาใหม่ เพื่อเสนอบอร์ดพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 8 ส.ค.55 นี้ ระบุเปิดกว้างรายอื่นทำ MVNO ได้ด้วย (ข่าวหุ้น) - ROBINS ผลงานปีนี้เกินเป้ายอดขายสะพัด-แตกสาขาเพิ่ม ROBINS คาดรายได้ทั้งปี 2555 โตกว่าเป้าหมาย ตามการจับจ่ายผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่แผนการขยายสาขายังมีต่อเนื่องเล็งครึ่งปีหลังได้เห็นอีก 3 สาขาทำให้สิ้นปีนี้จะมีห้างสรรพสินค้าโรบินสันครบ 30 สาขา ฟากโบรกเห็นสอดคล้อง อนาคตแข็งแกร่ง (ทันหุ้น) - VNG อวดผลงานเกิน 20% น้ำท่วมหนุนดีมานด์ไม้พุ่ง VNG โชว์ความมั่งคั่งผลงานปีนี้โตไม่น้อยกว่า 20% หลังดีมานด์ไม้จากประเทศที่กำลังพัฒนาพุ่งพรวด รับอานิสงส์ไฮซีซัน พ่วงผลดีน้ำท่วมหนุนกำลังการผลิตใกล้เต็ม 100% พร้อมสานต่อการเจรจาพันธมิตรต่างประเทศ(ทันหุ้น) - TRUBB ออเดอร์ส่งออกอื้อส่องงบกำไรโต 50% TRUBB ส่งซิกงบไตรมาส 2/2555 ฉายแววรุ่ง โชว์กำไรสุทธิหรู จากไตรมาส 1/2555 ขาดทุน 25.62 ล้านบาท หลังยอดออเดอร์ในประเทศและต่างประเทศยังล้น โดยเฉพาะจีนเดินสายส่งออเดอร์ต่อเนื่อง ไม่หวั่นราคายางผัน ผวนขาลง (ทันหุ้น) - GLOBAL จ่องบไตรมาส2แจ่ม กำลังซื้อหนุน-สิ้นปีกำไรโต50% GLOBAL มั่นใจไตรมาส 2/2555 ยอดขายโต เหตุเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 2 แห่ง ส่วนครึ่งปีหลังลุยเปิดอีก 4 แห่ง ลำพูนพิษณุโลก สุรินทร์ มุกดาหาร เชื่อทั้งปีรายได้โตเกิน 8 พันล้านบาท ฟากโบรกมองกำไรปีนี้โต 50% และ 29% ในปีหน้า ตามแผนเปิดสาขาใหม่ครบ 20 แห่งปีนี้ (ทันหุ้น) - SMIT รายได้ปีนี้โตเกิน15% ออเดอร์ลูกค้าพุ่ง SMIT เล็งปรับเพิ่มเป้ารายได้รวมปีนี้โตเกิน 15% จากเป้าที่วางไว้เหตุดีมานด์เครื่องจักรเหล็กแม่พิมพ์พุ่ง แย้มรายได้ ครึ่งปีแรกทำได้ดีเกินคาดออเดอร์สินค้าทะลักหลังชะลอไว้ช่วงน้ำท่วมปลายปีก่อน (ทันหุ้น)   ข่าวเศรษฐกิจ / อุตสาหกรรม - กนง.คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 3.00% ตามคาด กนง.มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 3.00%ด้วยเสียงที่ไม่เป็นเอกฉันท์ 5 ต่อ 2 เสียง (2 เสียง เห็นว่าควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%) โดยเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ ยังเหมาะสมต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม กนง.พร้อมปรับนโยบาย หากเศรษฐกิจโลกเลวร้ายลง (รอยเตอร์) - ธปท.ลดเป้าจีดีพีปีนี้เหลือโต 5.7% กนง.ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้(จีดีพี) ลงเหลือ 5.7% จากเดิมคาดไว้โต 6.0% และคาดว่าจีดีพีในปี 56 จะเติบโตได้ 5.0% โดยคาดว่าการส่งออกจะเติบโตน้อยลง เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงมากขึ้น โดยได้ปรับ ลดคาดการณ์การส่งออกในปีนี้ลงเหลือ 7% ขณะเดียวกัน กนง.คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 2.90% (เดิมคาด 3.3%) และเงินเฟอ้ พื้นฐาน เพิ่มขึ้น 2.20% พร้อมทั้งมั่นใจว่า เงินเฟ้อพื้นฐานในช่วงต่อไป จะอยู่ในกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ซึ่งกำหนดไว้ที่ 0.5-3.0% (รอยเตอร์) - ส่งออกมิ.ย.กลับมาติดลบ 2.5% แต่พาณิชย์ยังคงเป้าทั้งปีนี้โต 15% กระทรวงพาณิชย์เผยการส่งออกเดือน มิ.ย.มีมูลค่า 20,128 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 2.50% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.25% และเป็นการกลับมาติดลบ หลังขยายตัว 7.68% ในเดือนพ.ค. ขณะที่การนำเข้าในมิ.ย มีมูลค่า 20,678 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น4.41% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทำให้ไทยขาดดุลการค้าประมาณ 0.55 พันล้านเหรียญสหรัฐตัวเลขการนำเข้าดังกล่าว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 13.35% ส่วนดุลการค้าเดือนมิ.ย. เป็นการขาดดุลน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า จะขาดดุล 0.84 พันล้านเหรียญสหรัฐ(รอยเตอร์) - กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง: คลังจ่อผุดกองทุนยักษ์ ระดมทุน 7 หมื่นล้านสร้างมอเตอร์เวย์นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ภายในปีนี้กระทรวงการคลังจะเสนอให้กรมทางหลวงออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน วงเงินเบื้องต้น69,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนก่อสร้างทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) เส้นทางบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร โดยเสนอขายให้แก่ประชาชนและนักลงทุนที่สนใจ ซึ่งขณะนี้ สศค.อยู่ระหว่างการศึกษาโครงการร่วมกับกรมทางหลวงเพื่อพิจารณาวงเงินและความจำเป็นในการก่อสร้างที่จะเริ่มต้นจากบางปะอินไปถึงสระบุรีก่อน หรือต้องการลงทุนก่อสร้างในครั้งเดียวตลอดสาย (ไทยรัฐ)   กิจพล ไพรไพศาลกิจ Kitpon.p@kasikornsecurities.com +662 696-0057 ปณิธิ จิตรีโภชน์ Paniti.j@kasikornsecurities.com, +662 696-0053   โดย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ประจำวันที่ 26  ก.ค. 2555

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook