รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง

รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 สรุปภาพตลาด   ลดลง : เล่นหุ้นเล็ก (3) รายวัน คาดตลาดฯลงต่อ แนวรับ 1,176 จุด แนวต้าน 1,190 จุด สัญญาณเทคนิคยังคงเตือนมีความเสี่ยงขาลง หากดัชนีฯ รีบาวด์ไม่เกิน 1,190/1,200 จุด ในรอบนี้ ส่วนขาลงรอบนี้ มอง Downside ที่บริเวณ 1,170/1,150 จุด ปัจจัยลบมาจาก วิตกหนี้ยุโรปรอบใหม่ วานนี้ ทรอยก้า (EU+IMF) รายงานกรีซอาจผิดเงื่อนไขแผนรัดเข็มขัดฯ กรีซอาจผิดนัดชำระหนี้กลางเดือนหน้าถ้าไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ และการเมืองในประเทศ-กลุ่มพันธมิตรจะนัดชุมนุมหาก ครม.เสนอร่าง พรบ.ปรองดองในการเปิดประชุมสภาเดือน สค.นี้ (Risk premium ตลาดหุ้นไทยจะปรับสูงขึ้นเพื่อชดเชยความเสี่ยงการเมือง) กลยุทธ์ คงแนะนำเก็งกำไรหุ้นเล็กที่อยู่ในกระแส เช่น SRICHA SORKON UMI / PHATRA KK ส่วนหุ้นบูลชิพขนาดใหญ่คาด แบงก์ พลังงาน (BANPU มีFlows ของการปรับประมาณการณ์ลงจาก Consensus หลังวานนีจัดประชุมนักวิเคราะห์) ค้าปลีก นำตลาดลง แนะนำ ขายหรือเปิด Short (ยืมหุ้นขายช๊อต) ส่วนกลุ่ม สื่อสารฯ ปิโตรฯ โรงแรม โรงพยาบาล คาดดีกว่าตลาดฯ หุ้นเด่น: TGPRO (แนวรับ 0.40 บ. ต้าน 0.50 บ.) SRICHA UMI SORKON KK SRICHA (แนวรับ 21.50 บ. ต้าน 23 บ.ราคาเหมาะสม 23.3 บ.อาจมีแนวโน้มปรับกำไรขึ้นถ้าได้งานในต่างประเทศ คาดเซ็นสัญญาปลายไตรมาส3) UMI (แนวรับบริเวณ 4.80 บ. ต้าน 5.20 บ.แนะอ่อนตัวซื้อเก็งกำไร ราคาเหมาะสมคาด 5.8-6 บ.อิง PEG 1x คาดตลาดจะมีการเก็งกำไรไปถึงวันประกาศงบต้นเดือน สค. (1) คาดกำไร 2Q12F 35 ล้านบาท เติบโต 75% y-y แต่ลดลง 22% q-q สวนทาง DCC ที่งบออกมาโตน้อยลงเพราะอัตราการเติบโตกำไรเริ่มอิ่มตัว (2) ข่าวดีจะมาจาก แบงก์ยอมกลับมาปล่อย L/C แก่บริษัทลูก TTC ที่กำลังฟื้นฟูกิจการ SORKON (สะสมแนวรับ 71.5 บ. ต้าน 75/76 บ.คาดกำไร 2Q12F ประมาณ 45 ล้านบาท เติบโต 43% q-q 117% y-y จากกำไรขายเงินลงทุนราว 10-15 ล้านบาท (บริษัทฯลูกขายหุ้นไขว้ที่ถือในบริษัทแม่ออกมาในตลาด) และจะมีการรับรู้รายการกำไรพิเศษจากการปรับมูลค่าที่ดินใหม่   ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดฯ (-) เจ้าหนี้กรีซ (ทรอยก้า) เข้าทบทวนแผนเงินกู้กรีซ (เริ่มวานนี้) ขณะที่ตลาดมีกระแสข่าวลือ เยอรมนีอาจดึงหรือลดเงินช่วยเหลือกรีซ ในเดือน กย.นี้ เพราะ มีโอกาสกรีซผิดเงื่อนไขลดหนี้ ต่อจีดีพีลงให้ได้เหลือ 120% ในปี 2020 (-) ตลาดวิตกกรีซอาจผิดนัดชำระหนี้ หากไม่ได้รับเงินช่วยเหลือเพื่อคืนหนี้ ที่จะครบกำหนดวันที่ 20 สค.นี้ จำนวน 3.6 พันล้านยูโร (-) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปน 10ปี ที่เกิน 7% ส่งผลต่อการวิตกการประมูลพันธบัตรสเปนจำนวน 3 พันล้านยูโร ในวันที่ 2 สค.และที่เหลือในปีนี้อีกรวมจำนวน 8.6 หมื่นล้านยูโร (ภาระดอกเบี้ยที่สูงเกินจะกดดันการขยายตัวของเศรษฐกิจ และการชำระคืนในอนาคต) ขณะที่ตลาดจับตาการจ่ายดอกเบี้ยของยอด 7 พันล้านยูโรที่จะครบกำหนดวันจันทร์หน้า (0/-) ตัวเลขเศรษฐกิจคาดบวกจำกัด ไฮไลท์ อยู่ที่วันศุกร์สหรัฐฯมีโอกาสรายงาน จีดีพี 2Q12F (รอบแรก) ตลาดคาดขยายตัว 1.3-1.5% q-q ann. จาก 1.9% (คงคาดเฟดคงท่าทีออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ QE3) (0) วันนี้คาด กนง.คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 3% (กลุ่มเช่าซื้อ, บ้าน, ยานยนต์  อาจมีลุ้นรีบาวด์ตามแนวรับ) Investment theme: Save haven: สะสมอ่อนตัว / ส่วนการเก็งกำไรควรมี Stop loss 3-5% หุ้นที่มีปันผลระหว่างกาล 1H12F สูงแนะนำ INTUCH BECL ADVANC EGCO MAJOR Short (ธุรกรรม SBL) หากรีบาวด์ไม่เกิน 1,200 จุด เป้าหมายขาลงดัชนีฯรอบใหญ่คาด 1,150 จุด: Short บลูชิพกลุ่มแบงก์, พลังงาน BBL KBANK SCB PTT PTTEP   วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336   ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด   IMF เตือนจีนมีความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัวแรงหากพึ่งการลงทุนอย่างเดียว IMF กล่าวเตือนรัฐบาลจีนอาจเผชิญความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัวแรงกว่าที่คาดไว้หากจะพึ่งพาการกระตุ้นเศรษฐกิจจากการลงทุนเพียงอย่างเดียว IMF ยังกล่าวว่า ประเทศจีนยังคงเป็นประเทศที่สามารถดำเนินนโยบายการคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้แรงกดดันจากความเสี่ยงของเศรษฐกิจจากโลกตะวันตก และสหรัฐเพื่อที่จะเข้าสู่การชะลอตัวเศรษฐกิจอย่างช้าๆ หรือ Soft landing รัฐบาลจีนได้มีความพยายามที่จะรักษาสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับความเสี่ยงของการเก็งกำไรต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ ปัจจุบันเศรษฐกิจเติบโตช้าลงมาถึง 6 ไตรมาสที่ผ่านมา และ ทางการจีนได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และ สัดส่วนการกันสำรองเงินสดของธนาคารพาณิชย์เพื่อหวังกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน นอกจากนี้รัฐบาลจีนยังได้เพิ่มวงเงินลงทุนกับโครงการก่อสร้างรางรถไฟ พร้อมเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณอย่างเร่งด่วนเพื่อหวังฉุดเศรษฐกิจให้ดีขึ้นใน 6 เดือนหลังของปีนี้ (Bloomberg)   IHH โรงพยาบาลที่ระดมเงินเพิ่มทุนมากอันดับสามของโลกปีนี้ IHH Healthcare Bhd (IHH) เริ่มทำการซื้อขายหลังจากมีการขายหุ้น IPO ให้กับผู้ถือหุ้นทั่วไปที่ราคา 2.80 มาเลเซียริงกิต โดยนักลงทุนมีการจองสูงกว่ายอดกระจายของจำนวนหุ้นมโหฬารกว่า 138 เท่า โดยราคาจองซื้อที่ 2.80 ริงกิตจะมีค่าพีอี (PER) ที่ 40 เท่าบนคาดการณ์กำไรปี 2555 และพีอี (PER) 33 เท่าบนคาดการณ์กำไรปี 2556 โดยดีลนี้จัดว่าเป็นดีลใหญ่อันดับสามของโลกที่มีการระดมเงินทุนรองจาก Facebook (FB) ที่ 16 พันล้านสหรัฐ ตามด้วย Felda Global Venture Holdings (FGV) ที่ระดมเงินทุน 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ และ IHH ที่ระดมเงินทุนครั้งนี้ราว 1.98 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดย IHH จะใช้จากการระดมทุนครั้งนี้ในการซื้อโรงพยาบาลต่างๆที่มีโอกาสขยายตัวตามรายได้เพิ่มขึ้นของประชากรในประเทศนั้นๆทั่วโลก อย่างไรก็ดี ทางผู้บริหารกล่าวว่า ขณะนี้ทาง IHH ยังไม่แผนการเข้าซื้อโรงพยาบาลใหญ่แต่อย่างใด (Bloomberg)   ตราสารหนี้ครึ่งปีแรกโต13%ต่างชาติลงทุนแตะ6แสนล. ตลาดตราสารหนี้ ครึ่งปีโชว์ยอดโต 13% เอกชนออกหุ้นกู้ใหม่พุ่ง 2.45 แสนล้านบาท กลุ่มแบงก์แชมป์มากสุด 37% คาดทั้งปียอดหุ้นกู้แตะ 3.5-4.0 แสนล้านบาท ตามเป้า ต่างชาติยังขนเงินเข้าลงทุนตราสารหนี้ไทยต่อเนื่อง ดันถือครองกว่า 6 แสนล้านบาท เผยส่วนใหญ่ลงตราสารหนี้ยาว เชื่อหากเศรษฐกิจยุโรปยังมีปัญหา เงินต่างชาติมีแนวโน้มไหลเข้าต่อเนื่อง ประเมิน ธปท.หั่นดอกเบี้ยลงช่วงครึ่งหลัง (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)   ขายล้านตันทำข้าวดิ่ง สต๊อกล้นโกดัง/ผู้ส่งออกข้าวชี้ผิดจังหวะขาดทุนหมื่นล. พาณิชย์ทนแบกสต๊อกไม่ไหว จ่อระบายข้าวล็อตใหญ่กว่า 1 ล้านตัน เตรียมชง \"บุญทรง\" อนุมัติตามกรอบระบาย 5 แนวทาง วงการข้าวชี้เหตุจากสต๊อกมโหฬารกว่า 11 ล้านตันข้าวสาร ขณะรัฐบาลจ่อเปิดรับจำนำรอบใหม่ หวั่นไม่มีโกดังเก็บ-ไม่มีเงินให้ ธ.ก.ส.ต่อทุน ผู้ส่งออกผวาทำราคาตลาดโลกรูด ฟันธงระบายข้าวล้านตันล็อตนี้ขาดทุน 1 หมื่นล้านบาท แนะซอยขายล็อตเล็กลดแรงกระแทก (หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ)   รัฐบาลขยายเวลาลดภาษีน้ำมันดีเซล น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ขยายการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่อัตราลิตรละ 0.005 บาท ออกไปอีก 1 เดือน จนถึงวันที่ 31 ส.ค.2555 จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ก.ค.นี้ เนื่องจากเห็นว่าราคาขายปลีกน้ำมันยังสูงอยู่ จึงต้องช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนต่อไป อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ รมว.พลังงานพิจารณาหาแนวทางมารองรับในอนาคตหากราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น จะมีมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมอะไรได้บ้าง (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)   คาด กนง.คงดอกเบี้ยนโยบาย 3% เก็บกระสุนยิงช่วงยุโรปเลวร้าย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 25 ก.ค.นี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจ และข้อมูลจริงของเศรษฐกิจล่าสุดจนถึงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาให้ กนง.รับทราบ โดยมองว่า ดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสเป็นไปได้ 2 กรณี คือ คงไว้ที่ระดับ 3% และปรับลงจากปัจจุบันเล็กน้อย เพื่อช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติหนี้ยูโรโซนและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)   ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1   รายงานวันนี้   หุ้น: TPC          คำแนะนำ: ถือ          ราคาเป้าหมาย (บาท): 28.00 TPCรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/55 ที่ 681 ล้านบาท ลดลง 11% YoY และ 10% QoQ รายได้ลดลง YoY เนื่องจากราคา PVC ที่อ่อนตัวลง (ลดลง 12% YoY มาอยู่ที่ 1,035 ดอลล่าร์ต่อตัน) เราคาดว่าราคาและส่วนต่างราคา PVC จะทรงตัวอย่างแข็งแกร่ง หนุนโดยอุปสงค์ที่สูงขึ้นตามฤดูกาล กำไรสุทธิครึ่งแรกปี 2555 คิดเป็น 55% ของประมาณการปี 2555 ที่ 2,612 ล้านบาท (สูงขึ้น 39% YoY) ซึ่งเราจะยังคงประมาณการกำไรไว้ตามเดิม   หุ้น: DTAC          คำแนะนำ: ซื้อ          ราคาเป้าหมาย (บาท): 115.00 เราเชื่อว่าโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ของ DTAC จะลดความเสี่ยงสำหรับประเด็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าวและจะปูทางไปสู่การเข้าประมูลใบอนุญาต 3 จีบนคลื่น 2.1 กิกะเฮิร์ซ ภายใต้โครงสร้างใหม่เทเลนอร์ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน DTAC ซึ่งถ้าคำนวณทั้งทางตรงและทางอ้อมจะอยู่ที่สัดส่วน 62% เราคิดว่าตอนนี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับการเข้าสะสมหุ้น DTAC ก่อนที่จะเริ่มประมูลใบอนุญาต 3 จีในช่วงกลางเดือนต.ค.   หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม   Technical Analysis   Security: SCC Position: ขายทำกำไร Reason: SCC เปิดตลาดต้นสัปดาห์ถือว่าเริ่มสัญญาณไม่ดีและปิดต่ำขณะที่วอลุ่มหนาแน่นพร้อมกับการปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบสัปดาห์   Security: TOP Position: ขายทำกำไร Reason: แม้ราคาหุ้นจะรีบาวด์ขึ้นปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน 59 บ. แต่เริ่มส่งสัญญาณเชิงลบจากการตัดลงของเครื่องมือทางเทคนิค MACD   Security: BIGC Position: ขายทำกำไร Reason: BIGC รอบนี้ถือว่าเริ่มสัญญาณไม่ดีจากการหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันเป็นสัปดาห์แรกขณะที่วอลุ่มหนาแน่นและสัญญาณเชิงลบของเครื่องมือทางเทคนิค MACD ต่ำกว่าเส้น 0   Security: PTT Position: ขายทำกำไร Reason: ปรับตัวลดลงตามคาด ขณะที่แนวโน้มระยะกลางเป็นลบภายหลังจากการปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน 325   Security: WORK Position: ซื้อ เป้าหมาย: 34.5/36 Stop loss<29.25 Reason: ปรับตัวขึ้นได้แข็งแกร่งมากกว่าตลาด ขณะที่พบปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้น ลักษณะ Breakout แนวต้านสำคัญ   Security: GRAMMY Position: ซื้อ เป้าหมาย: 26/27 Stop loss< 23.7 Reason: ส่งสัญญาณดีดขึ้นจากราคาหุ้นปรับฐานลงมาแล้วทั้งสิ้น 30% จากจุดสูงสุด 34 โดยพบวอลุ่มเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ลุ้นขึ้นทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน 24.5 โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 26 และ 27   โดย บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ประจำวันที่ 25 ก.ค. 2555

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook