Daily View - บล.กสิกรไทย

Daily View - บล.กสิกรไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ยังมีโอกาสเหวี่ยงลง (ซึ่งเป็นโอกาสซื้อ)   แนวโน้มตลาด: ตลาดหุ้นยุโรปทรงตัว โดยถูกกดดันจากการที่ Moody ปรับลดอันดับเครดิตสเปนลง 3 ขั้น สู่ระดับ Baa3 (จาก A3) ซึ่งสูงกว่าขยะ 1 ขึ้น พร้อมให้แนวโน้มอันดับเครดิตเชิงลบ อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกอย่างแข็งแกร่งเกิน 1% เพราะแรงเก็งคาดการณ์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟด หลังรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังดูอ่อนแอ แม้ภาพระยะสั้นความผันผวนของตลาดจะยากแก่การคาดการณ์ แต่จากภาพรวมตลาดหุ้นไทยและโลกดูดีขึ้นหลังสเปนได้รับเงินช่วยเหลือ ซึ่งช่วยป้องกันการล่มสลายอย่างเฉียบพลันของภาคการเงินยุโรป (ซึ่งนักลงทุนต้องอย่าติดกับข่าวลบหลายๆ อย่างที่ออกมา) หรืออาจพูดได้ว่าประเด็นดังกล่าวช่วยปิด downside ของตลาดทุนไปได้มาก จึงทำให้เราให้น้ำหนักกับโอกาสเคลื่อนไหวในทางบวกมากกว่า ดังนั้นการปรับลงแต่ละครั้ง ทางกลยุทธ์จึงให้น้ำหนักกับการซื้อสะสมหุ้นเป็นหลัก กลยุทธ์การลงทุน: แม้รอบนี้ SET Index มีโอกาสปรับขึ้นได้ถึง 1190-1200 อย่างไรก็ตาม การขึ้นจะเป็นลักษณะแกว่งขึ้น ซึ่ง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงเหวี่ยงลงปรับฐานบริเวณ 1140-1146 จุด (จะด้วยประเด็นอะไรก็ตาม) ซึ่งเป็นจุดเข้าซื้อที่ดี หุ้นแนะนำ BAY QH LANNA THCOM สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: วันนี้ (15 มิ.ย.) เราขอเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก 10% เป็น 60% และยังเตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก หาก SET ยังปรับลงโดยระดับที่เราประเมินว่าเป็น downside ของ SET Index ที่ 1050 จุด หุ้นที่อาจพิจารณาทยอยสะสม ได้แก่ TICON TCAP KK TISCO EGCO RATCH PS AP SIRI QH PF PTTGC PTT KTB NMG RS   หุ้นแนะนำวันนี้ - BAY (ปิด 29.00 เป้าระยะสั้น 32.00 ขายเมื่อหลุด 28.20) เข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวจากกิจการที่เข้าซื้อในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา + การเติบโตในช่วงไตรมาส 2 จากสินเชื่อธุรกิจยังดี แต่คนที่มีสัดส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลน่าจะเติบโตโดดเด่นกว่า + ได้ประโยชน์จากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น ตามนโยบายภาครัฐ - QH (ปิด 1.54 เป้าระยะสั้น 1.66 ขายเมื่อหลุด 1.44) หุ้น Property ที่ฟื้นตัวจากปีก่อนและยัง + คาดกำไรปี 2555 เพิ่มขึ้น 67% YoY + ราคายังถูก PER เพียง 9.0x และมี yield ถึง 5.7% + เตรียมขาย 3 อสังหาริมทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาฯ ไตรมาส 3 - LANNA (ปิด 25.00 เป้าระยะสั้น 27.00-28.00 ขายเมื่อหลุด 24.50)คาดกำไรปีนี้ทำสถิติใหม่ 1.3 พันล้านบาท +25% YoY + กำไรที่เราคาดดีกว่า concensus 18% + กำไรที่ดีขึ้นมาจากธุรกิจเอธานอลดังนั้นผลกระทบราคาถ่านหินจึงไม่มาก + EV/EBITDA ต่ำกว่า 4 เท่า ซึ่งถือว่าถูกมาก และปัจจุบันคิดเป็น PER เพียง 6.9 เท่า - THCOM (ปิด 13.10 เป้าระยะสั้น 14.00-14.60 ขายเมื่อหลุด 12.50)คาดปี 2555 เป็นปีแรกที่พลิกกลับมามีกำไรสุทธิเป็นบวก โดยกำไรจะเร่งตัวขึ้นในช่วง 2H55 + เรามองว่ามีโอกาสปรับประมาณการขึ้นจากการรวมดาวเทียมตั้งแต่ ไทยคม 6 เข้ามาอยู่ในประมาณการ   Today’s Best Trades   ประเด็นการลงทุนหุ้น Today’s Best Trades   HOLD TICON ราคาหุ้นในปัจจุบันเป็นโอกาสซื้อที่ดี + ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 พลิกกลับมามีกำไรจากการขายโรงงานเข้าองทุนอสังหสริมทรัพย์ และไตรมาส 2 จะเร่งตัวขึ้นมาก + ราคาปัจจุบัน 6.6x PER ถูกสุดกลุ่มนิคม + ผลตอบแทนเงินปันผล 9.6% สงสดในกล่มนิคม + ห้นมีโอกาสถก concensus ปรับประมาณการขึ้น HMPRO หุ้นค้าปลีกที่ได้ประโยชน์จากกำลังซื้อและการบริโภคในประเทศ + คาดกำไร 2555 เพิ่มขึ้น 75% YoY + หุ้นค้าปลีกที่ PER 24.4 เท่าถูกสุดในกลุ่ม EGCO หุ้นสาธารณูปโภคที่มี beta ต่ำ (0.30) น่าจะรับมือตลาดผันผวนได้ดี + ราคาปัจจุบันเพียง 8.4x PER ต่ำสุดในกลุ่มโรงไฟฟ้า และให้คาดการณ์ผลตอบแทนปันผล 5.4% + การเพิ่มการถือหุ้นโรงไฟฟ้าในฟิลิปปินส์อีก 45.9% รวมถือ98.0% ช่วยเพิ่มกำไรอีกราวปีละ 6% และช่วยเร่งกำไรตั้งแต่ 3Q55 เป็นต้นไป KTB เก็งกำไรสั้นรับการฟื้นตัวของ SET + หุ้นธนาคารขนาดใหญ่ที่ถูกที่สุด PER เพียง 7.4 เท่า และคาดการณ์ผลตอบแทนปันผล 4.5% + เชื่อว่าราคาหุ้นถูกกดดันจากข่าวเพิ่มทุนมากเกินไป SIRI จิตวิทยาเชิงบวกจากตัฐเตรียมปรับวงเงินกู้บ้านหลังแรกขึ้นเป็น 2 ล้านบาท (จาก 1 ล้านบาท) + ผลการดำเนินงาน2555 จะดีขึ้นเป็นขั้นบันได + ราคาปัจจุบันคิดเป็นเพียง 6.3x PER และให้คาดการณ์ผลตอบแทนปันผลสูงถึง 7.4% NMG หุ้น Turnaround โดยธุรกิจฟื้นจากธุรกิจสิ่งพิมพ์ และมีแนวโน้มเติบโตจากโทรทัศน์ดางเทียม และการศึกษา +สร้างกระแสเงินสดได้สูง โดยมี FCF yield สูงถึง 15-20% ต่อปี + มีแผนล้างขาดทุนสะสม ส.ค.55 ซึ่งจะทำให้เริ่มกลับมาจ่ายปันผลได้ + คาดกำไรปี 2555-56 เพิ่มขึ้น 52% และ 61% ราคาปัจจุบันคิดเป็น PER 10.3x และ 6.4x และมี upside ต่อราคาเหมาะสมที่ 2 บาทถึง 102% TISCO ราคาหุ้นซื้อขายที่เพียง 7.8x PER + ธนาคารพาณิชย์ที่มี ROE สูงสุดที่ 20.7% และให้คาดการณ์ผลตอบแทนปันผลถึง 5.8% KSL เข้าสู่ช่วง high season ผลประกอบการไตรมาส 2 (ก.พ.-เม.ย.55) + ก.ค.เป็นเดือนที่ราคาน้ำตาลเพิ่มขึ้นเฉลี่ย5-8% ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา + แม้ราคาส่งออกน้ำตาลลดลง 5% QoQ แต่ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 25% QoQ และ30% YoY กำไรจึงมีแนวโน้มดีขึ้น + ราคาปัจจุบันคิดเป็น PER 10.2 เท่า ให้ผลตอบแทนปันผล 4.1% (concensus)   ปัจจัยที่ต้องติดตาม - 15 มิ.ย. US: Empire State Mfg Survey - 15 มิ.ย. US: Industrial Production - 15 มิ.ย. US: Consumer Sentiment - 17 มิ.ย. Greece: Election - 18 มิ.ย. US: Housing Market Index - 19 มิ.ย. EU: Zew Survey (Econ Sentiment) - 19 มิ.ย. US: Housing Starts - 19 มิ.ย. US: FOMC Meeting Announcement, Forecasts - 20 มิ.ย. US: Jobless Claims - 20 มิ.ย. US: Existing Home Sales - 20 มิ.ย. US: Philadelphia Fed Survey - 21 มิ.ย. EU: PMI Composite - 21 มิ.ย. EU: Euro-Zone Consumer Confidence - 22-25 มิ.ย. China: HSBC Flash China Manufacturing PMI   บทวิเคราะห์วันนี้ - AP (ซื้อ, ปิด 7.05, พื้นฐาน 8.50 +20.56%) ยอด Presales โต 45% YoY - ยอดขาย Presales เดือนมิ.ย. สูงถึง 12,000 ลบ. โดย 8.1 พันลบ.จากโครงการคอนโด(+119% YoY) และ 3.7 พันลบ.มาจากโครงการแนวราบ (-15% YoY ) โดยปกติแล้วยอดขายส่วนใหญ่มีอัตราการเติบโตสูงในช่วงเดือน ม.ค., พ.ค. และมิ.ย. ซึ่งเป็นไปตามการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ทั้งนี้ยอด Presales ในปัจจุบันเป็นสัดส่วน 60% ของประมาณการรายได้ทั้งปีของทาง AP ที่ 20,000 ลบ. - โครงการคอนโดประสบความสำเร็จสูง และมีแผนเปิดเพิ่มอีกในครึ่งปีหลัง ระหว่างช่วงครึ่งปีแรก AP ได้เปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 6.3 พันลบ. ซึ่ง 2ใน3 โครงการใหม่ที่เปิดตัวไปประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ดี โดยตามแผนการ 34%ของ โครงการเปิดในครึ่งปีแรก และอีก 66% จะเปิดในครึ่งปีหลัง เป็นจำนวน 13 โครงการ มูลค่ารวม1.5 หมื่นลบ. - มี backlogs ในระดับสูงในปี 2555-56 AP มีโครงการที่รอรับรู้รายได้ (backlogs) เป็นสัดส่วนเทียบกับประมาณการณ์ของเราอยู่ที่ 86% ในปี 2555, 76% ในปี 2556 และ 38% ในปี 2557 - แนะนำ ซื้อ โดยชอบเป็นอันดับสองรองจาก PS เราชอบ AP (PE 9.4x, PBV 1.8x, ปันผลตอบแทน 4.2%) จากการวางตำแหน่งทางการตลาดที่ดี ราคาหุ้นถูก การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของกำไรต่อหุ้น (+38% และ +35% ในปี 2555-56) และมีโอกาสถูกปรับประมาณการขึ้น โดยเลือกเป็นหุ้นที่ชอบอันดับสองในกลุ่มรองจาก PS (ซื้อ, ปิด 14.7, พื้นฐาน 21.0, +42.9%) - AOT (ขาย, ปิด 57.25, พื้นฐาน 51.75 -9.6%) ความจำเป็นในการลงทุนขยายเพิ่มที่สุวรรณภูมิจะกดดันผลตอบแทน - ปรับลดประมาณการณ์ เราปรับลดประมาณการณ์ AOT ใน FY9/12E ลง 7% และ FY9/13 ลง 15% จากความล่าช้าของการกำหนดวันที่จะเริมปรับเพิ่มค่าบริการผู้โดยสาร (PAX service charges) - ความจำเป็นในการลงทุนขยายเพิ่มที่สุวรรณภูมิจะกดดันผลตอบแทน แม้การย้ายสายการบินราคาประหยัด (LCCs) มาดอนเมืองเป็นผลดี ซึ่งจะทำให้ AOT ไม่ต้องขยายอาคารผู้โดยสารสำหรับสายการบินในประเทศเพิ่มที่สุวรรณภูมิ แต่จากการประมาณการณ์จำนวนผู้โดยสารสุวรรณภูมิยังมีความจำเป็นต้องขยาย Phase 2, Phase 3 และ Phase 4 โดยใช้เงินลงทุนกว่า 7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และกินเวลากว่า 10 ปี ซึ่งการลงทุนอย่างต่อเนื่องจะกดดันผลตอบแทน (ROIC) ของ AOT - แนะนำ ขาย ที่ราคาเหมาะสม 51.75 ราคาหุ้น AOT มี 12PE 12.9 เท่า และเรามอง PBVปัจจุบันที่ 1.1 เท่าไม่น่าสนใจ เพราะเราประเมิน ROIC ของ AOT จะไม่เกินกว่า WACC จนกว่าจะถึงปี 2563 เราประเมินราคาตามปัจจัยพื้นฐานกลางปี 2556 ที่ 51.75 บาท จาก 48 บาทสิ้นปี 2555 ซึ่งยังคงต่ำกว่าราคาหุ้น - BLA (ถือ, ปิด 46.25, พื้นฐาน 48 +3.8%) เบี้ยประกันเม.ย. –21% MoM, +24% YoY - เบี้ยประกันชีวิต เม.ย. 55 อยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท (-21% MoM, +24% YoY) เราคาดอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันใหม่ (first year premium, FYP) จะชะลอตัวลงต่อเนื่อง ทำให้เบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไป (renewal year premium หรือ RYP) กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้อัตราการเติบโตยังคงเป็นบวก โดย RYP มีสัดส่วนสูงถึง 81% เทียบกับเฉลี่ย 74% ในปี2554 - มีส่วนแบ่งตลาดเม.ย. เพิ่มเป็น 9.5% จาก 9.2% ในเดือน มี.ค. BLA มีส่วนแบ่งตลาดจากเบี้ยประกันรวมที่ 9.5% ในเดือนเม.ย. 55 เทียบกับ 9.2% ในเดือนมี.ค. 55 อยู่ในอันดับสี่ของกลุ่ม ขณะที่ผู้เล่น 5 อันดับแรกยังไม่เปลี่ยนแปลง - เบี้ยประกันจ่ายเพียงครั้งเดียวยังอ่อนตัว เบี้ยประกันจ่ายเพียงครั้งเดียว (singlepremium) เม.ย. คิดเป็นเพียง 4% ของเบี้ยรวม ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม (9%) และบริษัทประกันที่อยู่ในเครือธนาคาร (8-17%) โดยสาเหตุส่วนหนึ่งอาจเกิดจากกรมธรรม์จากการ ปล่อยสินเชื่อกลุ่มสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อเช่าซื้อผ่าน BBL น้อยกว่าธนาคารอื่น> แนะนำถือ รอจนกว่าราคาหุ้นจะมี upside ในระดับน่าสนใจ เราปรับลดประมาณการกำไร 3-5% ในปี 2555 และ 2557 สะท้อนอัตราส่วนเงินสำรองเงินจ่ายตามกรมธรรม์ประกันภัยต่อเบี้ยประกันรับสุทธิที่สูงขึ้น แต่ปรับประมาณการกำไรปี 56 ขึ้น 1% มูลค่าปัจจัยพื้นฐานกลางปี2556 อยู่ที่ 48 บาท จาก 47.25 บาท สิ้นปี 2555 โดยเรายังไม่เห็นปัจจัยบวกที่มีนัยสำคัญนอกจากนี้ อัตราการเติบโตของเบี้ยประกันชีวิตมีแนวโน้มลดลงและ ROE ของ BLA ที่ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในปี 2553-54 อาจค่อย ๆ ลดลงด้วยเช่นกัน จึงแนะนำ ถือ   ข่าวที่มีผลกระทบต่อตลาด   ข่าวบริษัท - DEMCO (Unrated, ปิด 5.20, Bloomberg consensus 5.45 +4.8%) ยื่นขอย้ายหมวดจากอสังหาฯ เป็นพลังงาน - ยื่นขอย้ายหมวดจากอสังหาฯ เป็นพลังงาน ผู้บริการ DEMCO เปิดเผยได้ขอยื่นย้ายหมวดจาก อสังหาฯ เป็นพลังงาน โดยได้ยื่น SET ไปแล้วคาดจะทราบผลภายในเดือนนี้ - มีโครงการไฟฟ้าใหม่รอพัฒนา 3 โครงการ มีกำลังการผลิตรวม 270 MW คาดต้องการใช้เงินลงทุน 2H56-57 ซึ่งจากการประเมินกระแสเงินสดของบริษัท มั่นใจปี 2555 ไม่มีการเพิ่มทุน โดยการชำระค่าหุ้นในโครงการพลังงานลมที่บริษืเข้าไปลงทุน ต้องชำระเงินเพิ่ม 419 ลบ. ตอนนี้เตรียมเงินไว้แล้ว - คาดผลการดำเนินงาน 2Q55 ใกล้เคียง 1Q55 โดย 1Q55 มีกำไร 79.1 ลบ. +188% YoY โดยมีรายได้ 1.447 พันลบ. +104% YoY ทั้งนี้บริษัทมีงานในมือ (backlogs) 7.394 พันลบ. โดยจะรับรู้รายได้ 2Q-4Q55 ประมาณ 3.8 พันลบ. รวมถึงมีงานรอประมูลอีก 3 พันลบ. - ราคาหุ้นมี PE 8.5x คิดจากกำไร 1Q55 annualized (PE หมวดพังงาน 8.1 เท่า)(ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ, ทันหุ้น) - TOP (ถือ, ปิด 57.00, พื้นฐาน 66.00 +15.78%) คาดราคาน้ำมันโลกไตรมาส 3-4 ปรับตัวดีขึ้น…แผนลงทุน 5 ปี 2.5 หมื่นลบ. - คาดราคาน้ำมันโลกไตรมาส 3-4 ปรับตัวดีขึ้น TOP คาดราคาน้ำมันโลกไตรมาส 3-4 ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากมาตรการช่วยเหลือทางการเงินในกลุ่มสหภาพยุโรป ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจน่าจะกลับมาดีขึ้น โดยคาดราคาน้ำมันในตลาดโลกเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 107 ดอลลาร์/บาร์เรล(จากปัจจุบันที่ประมาณ 97 ดอลลาร์/บาร์เรล) เนื่องจากซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่จะใช้วิธีเพิ่มหรือลดกำลังการผลิตเพื่อรักษาระดับราคาน้ำมันไม่ให้ต่ำกว่า 80 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะเป็นราคาที่สร้างกำไรให้กับผู้ผลิต - ปรับแผนลงทุน 5 ปี ลงทุน 2.5 หมื่นลบ. ตามกลยุทธ์หลักของบริษัท จะเน้นการลงทุน 3 น ประกอบด้วย การขยายกำลังการผลิตให้ใหญ่ขึ้น การเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ และลงทุนพลังงานทางเลือก มีโครงการหลักอาทิ โครงการปรับปรุงโรงกลั่น (Refinery Upgrading) เพื่อ ผลิตน้ำมันที่มีมูลค่าสูงได้มากขึ้น อาทิ น้ำมันเครื่องบิน ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโรงกลั่นน้ำมันได้มากกว่า โครงการผลผลิตจากเบนซิน (Benzene Derivatives) เพื่อนำสารเบนซีนไปผลิต Linear Alkyl Benzene (LAB) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด อาทิ ผงซักฟอก แชมพู ซึ่งขณะนี้โครงการอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง - คงคำแนะนำ “ถือ” เราเชื่อว่าราคาที่ส่วนลด และงบดุลที่แข็งแกร่ง ทำให้ราคาหุ้น TOP มี downside จำกัด แต่ผลประกอบการที่อาจไม่เติบโตใน 2H55 จะยังกดดันราคาหุ้น จึงยังคงแนะนำเป็น ถือ(ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ) สรุปภาวะตลาด - DJIA ปิด 12,651.91 จุด +155.53 จุด (+1.24%) S&P500 ปิด 1,329.10 จุด+14.22 จุด (+1.08%) NASDAQ ปิด 2,836.33 จุด +17.72 จุด (+0.63%) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งช่วงท้ายตลาด เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางหลาบประเทศรวมถึง FED จะใช้มาตรการร่วมกันเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก - NYMEX ส่งมอบ ก.ค. อยู่ที่ USD83.91/bbl +1.29/bbl (+1.56%) สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบ ส.ค. อยู่ที่ USD1,619.6/ounce +0.2(+0.01%) สัญญาราคาน้ำมันดิบและสัญญาราคาทองคำต่างปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลาง หลายประเทศและ FED จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ   สรุปข่าวประจำวัน   ต่างประเทศ - Moody’s ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของธนาคารเนเธอร์สแลนด์ 5 แห่ง โดยปรับลดอันดับเครดิตลง 2 ขั้น สำหรับธนาคาร Rabobank Nederland(Aa2), ING (A2), ABN Amro (A2), Leaseplan Corporation (Baa2) และปรับลด อันดับเครดิตลง 1 ขั้น สำหรับธนาคาร SNS Bank (Baa2) โดยให้เหตุผลว่าวิกฤตหนี้ยูโรโซนอาจจะส่งผลกระทบให้การดำเนินงานของธนาคารในปี 55 มีความยากลำบากมากขึ้นเนื่องจากความเสี่ยงของสินเชื่อที่สูงขึ้นท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแรง (Finanzen.net & Moody’s) - ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐร่วงลง 0.3% ในเดือนพ.ค.55 ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลง (อินโฟ เควสท์) - จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 มิ.ย. ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 6,000 ราย มาอยู่ที่ 386,000 ราย นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐในช่วงก่อนหน้านี้ได้อ่อนแรงลงแล้ว (อินโฟเควสท์) - Moody’s ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศสเปนลง 3 ขั้น จากระดับA3 มาอยู่ที่ระดับ Baa3 (ระดับสุดท้ายของ Investment Grade) หลังรัฐบาลมาดริดบรรลุข้อตกลงกู้ยืมเงินจากกลุ่มยูโรโซนเป็นมูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านยูโร เพื่อกอบกู้และฟื้นฟูภาคการธนาคารของประเทศที่กำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤต ทั้งนี้ Moody’s ให้เหตุผลว่า การกู้ยืมเงินที่เกิดขึ้น มีแต่จะเพิ่มภาระหนี้สินให้แก่ประเทศ และคาดว่า อัตราส่วนหนี้สาธารณะอาจเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 90% ของ GDP และจะทยอยเพิ่มขึ้นตลอดระยะเวลา 3 ปีนี้ อย่างไรก็ตาม Moody’s ยังคงพิจารณาทบทวนว่า สมควรปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนลงอีกหรือไม่ แต่ขึ้นอยู่กับการประเมินสถานการณ์ในระยะเวลา 3 เดือนนับจากนี้ (เดลินิวส์) - IMF อนุมัติเงินกู้เพิ่มเติมมูลค่า 1.4 พันล้านยูโร (1.8 พันล้านดอลลาร์) ให้กับไอร์แลนด์ซึ่งส่งผลให้การรับเงินกู้เบิกจ่ายภายใต้มาตรการให้ความช่วยเหลือระยะเวลา 3 ปีของไอร์แลนด์ อยู่ที่ระดับ 2.28 หมื่นล้านดอลลาร์ในขณะนี้ สำหรับเงินกู้เบิกจ่ายครั้งล่าสุดที่IMF อนุมัติให้กับไอร์แลนด์นั้น เป็นความพยายามที่จะพยุงฐานะทางการเงินของไอร์แลนด์ ซึ่งประสบปัญหาด้านการเงิน ตามโครงการให้ความช่วยเหลือวงเงินรวม 8.5 หมื่นล้านยูโร หรือ1.065 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งกำหนดขึ้นในเดือน ธ.ค. 2553 (ประชาชาติธุรกิจ) - Eurostat รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค.55 ของยูโรโซน เพิ่มขึ้น 2.4%YoY ลดลงจากเดือนเม.ย.55 ที่เพิ่มขึ้น 2.6%YoY ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อที่ชะลอลงนำมาสู่การคาดการณ์ว่า ECB อาจจะมีการประกาศใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมวันที่ 21 มิ.ย. นี้ (Market Watch) - อิตาลีระดมทุนจากการประมูลพันธบัตรได้ตามเป้าหมายสูงสุดที่ 4.5 พันล้านยูโร แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรทุกช่วงอายุพุ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับการประมูลครั้งก่อน - พันธบัตรอายุ 3 ปี สามารถขายได้ 3 พันล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทน 5.30% เพิ่มขึ้นจาก 3.91% ในการประมูลเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ขณะที่ Bid-to-cover ratio อยู่ที่ 1.59 เท่า เพิ่มขึ้นจาก1.52 เท่า ในการประมูลเดือนที่แล้ว - พันธบัตรอายุ 7 ปี สามารถขายได้ 627 ล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทน 6.10% เพิ่มขึ้นจากระดับ 5.21% ในการประมูลเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ขณะที่ Bid-to-cover ratio อยู่ที่ 1.99 เท่าลดลงจากระดับ 2.27 เท่าในการประมูลครั้งที่แล้ว - พันธบัตรอายุ 8 ปี สามารถขายได้ 873 ล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทน 6.13% เพิ่มขึ้นจากระดับ 5.33% ในการประมูลเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ขณะที่ Bid-to-cover ratio อยู่ที่ 1.66 เท่าลดลงจากระดับ 2.08 เท่าในเดือนก่อน(อินโฟเควสท์)   ข่าวบริษัท - KSL ปลื้มเทรด 'SETHD' ปิดงบไตรมาส 2 กำไร 667 ล. KSL เป็นปลื้มเข้าเทรด SETHD ผู้บริหาร \"จำรูญ ชินธรรมมิตร์\" หวังกองทุนขนาดใหญ่แห่เก็บหุ้นบริษัทมากขึ้น ล่าสุดแจงงบไตรมาส 2/2555 กำไร 667 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปริมาณการขายน้ำตาลเพิ่มขึ้นเป็น 2.28 ตัน และขายไฟฟ้าให้กฟผ. เพิ่มพร้อมทั้งขายเอทานอลสูงขึ้นถึง 206 (ทันหุ้น) - TOP ดันธุรกิจปลายน้ำ รับมืออุตสาหกรรมดิ่ง TOP แตกไลน์ดันธุรกิจปลายน้ำ รับมือสถานการณ์ราคาน้ำมันและธุรกิจอะโรเมติกส์ชะลอตัว ตั้งแผนลงทุนระยะยาว 5 ปี วงเงิน 1.8 พันล้านเหรียญ เพื่อขยายธุรกิจโตก้าวกระโดด เชื่อ GIM ครึ่งปีหลังขั้นต่ำ 7 เหรียญสหรัฐ (ข่าว หุ้น) - ตลท.ดันหุ้น‘INTUCH’ ติดฟุตซี่เซ็ตลาร์จแคป รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ระบุว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และฟุตซี่ กรุ๊ป (FTSE) ผู้จัดทำดัชนีระดับสากล ประกาศผลการทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่ใช้ในการคำนวณ FTSE SET Index Series (ข่าวหุ้น) - STECหั่นสายสีแดง เหลือ2.9หมื่นล้าน โยนครม.ตัดสินใจ STEC ใจอ่อนยอมหั่นราคาสายสีแดง สัญญา 1 จาก 3.1หมื่นล้าน เหลือ 2.9 หมื่นล้าน ฟากร.ฟ.ท. โยน “คมนาคม” เสนอครม.ชี้ขาด นอกจากนี้บอร์ด ร.ฟ.ท.อนุมัติใช้พื้นที่มักกะสันผุด “มักกะสันคอมเพล็กซ์” (ข่าวหุ้น) - TTCL รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้งานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่จำนวน 2 โครงการ ทั้งในไทย (โครงการ SIAM SOLAR POWER Project มูลค่าโครงการประมาณ 600 ล้านบาท เป็นงานออกแบบวิศวกรรม จัดซื้ออุปกรณ์วัสดุก่อสร้างและงานก่อสร้าง Solar Very Small Power Producer กำลังการผลิต 8 เมกะวัตต์) และมาเลเซีย (โครงการSOLAR IPP GEBENG Project ของ PETRONAS POWER SDN BHD ซึ่งเป็นงานออกแบบวิศวกรรมจัดซื้ออุปกรณ์วัสดุก่อสร้าง และงานก่อสร้าง Solar Independent Power Producer) มูลค่ารวม 1.4 พันล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการ มีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้า รวมเป็น 18 เมกะวัตต์ (รอยเตอร์) - PF ส่งซิกรายได้Q2แจ่ม กำไรปีนี้กระฉูด2พันล้าน PF ส่งซิกรายได้ Q2 พุ่ง 2,500 ล้านบาท รับแรงหนุนโอนบ้าน-คอนโดฯไหลลื่น ดันรายได้ครึ่งแรกแตะ 4,200 ล้านบาท (ข่าวหุ้น) - UMI ลั่น2ปียอดขายพุ่ง5พันล้าน ถือหุ้น RPC-TTC ดันผลิตพุ่ง 38 ล้านตร.ม.ต่อปี UMIตั้งเป้ายอดขาย 2 ปีข้างหน้าเกิน 5,000 ล้านบาท หลังเข้าไปถือหุ้น RCI และTTC ใช้เงินซื้อกิจการทั้งสิ้น 500 ล้านบาท ดันกำลังผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 38 ล้านตร.ม.ต่อปี ฟุ้งยอดขาย 5 เดือน ตามนัด หนุนยอดขายทั้งปีเข้าเป้า 2,700 ล้านบาท (ข่าวหุ้น) - MAJORแนวโน้มQ2ดิ่ง รายได้หด-ค่าลิขสิทธิ์ลด จ่อปิดCAWOWมิ.ย.นี้ MAJOR แนวโน้มไตรมาส 2/55 ดิ่งลง 10% เหตุรายได้โรงภาพยนตร์-ค่าลิขสิทธิ์หด 20% ค่าแรงสูง ค่าไฟแพงส่งผลต่อกำไรครึ่งปีแรก ส่วนกรณี CAWOW สาขารัชโยธิน จ่อปิดปลายเดือนมิ.ย.นี้ คาดว่า รายได้จากการให้เช่าพื้นที่สะดุดเพียงแค่ 1-2 เดือน (ข่าวหุ้น) - SINGER เกาะขอบสนามยูโรยอดขาย LCD ดันกำไร 200 ล. SINGER เกาะขอบสนามบอลยูโร 2012 ยอดขายทีวีพุ่งกระฉูดโดยเฉพาะ LCD พร้อมอัดแคมเปญกระตุ้นการขายสุดฤทธิ์ลด-ผ่อน-แถม หนุนรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า 25% (ทันหุ้น) - DEMCO อัพเป้ารายได้เพิ่มชี้ชัดธุรกิจพลังงานพารวย ผู้บริหาร DEMCO \"พงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์\" ส่งซิกช่วงครึ่งปีหลัง มีแววปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ปีนี้ใหม่อีกรอบจากเดิม 5.3 พันล้านบาท หลังเห็นสัญญาณธุรกิจพลังงานพารวย (ทันหุ้น) - TASCO โหนกระแสน้ำท่วมกวาดงบทางหลวงแสนล้าน TASCO ส่งซิกงบ Q2/2555 โดดเด่นจาก Q1/2555 ที่มีกำไร 5.72 ล้านบาท อานิสงส์น้ำท่วมหนุนรายได้พุ่ง 30-40% จับตางบครึ่งปีหลังพีค แย้มปี 2556 ซดงบภาครัฐ 1 แสนล้านบาท ส่งกำไรสุทธิปี 2556 โตก้าวกระโดด (ทันหุ้น)   ข่าวเศรษฐกิจ / อุตสาหกรรม - คลังสั่งบสย.เพิ่มวงเงินค้ำกู้เอสเอ็มอี นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.จะมีการประชุมในวันที่ 22 มิถุนายน เพื่อพิจารณาทบทวนการใช้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) วงเงิน 2.1 แสนล้านบาท ของ ธปท.ที่ได้จัดสรรให้กับ สถาบันการเงินไปหมดแล้ว เพื่อเกลี่ยวงเงินจากสถาบันการเงินที่ยังใช้ไม่หมดไปให้สถาบันการเงินที่ต้องการเพิ่ม โดยจะทบทวนวงเงินทุกๆ 3 เดือนอยู่แล้ว (มติชน) - กลุ่มรับเหมา: หั่นเฟสนำร่องมักกะสันคอมเพล็กซ์ รฟท. เปิดเผยว่า คณะกรรมการ รฟท. มีมติอนุมัติปรับเพิ่มกรอบวงเงินโครงการรถไฟสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 ก.ม. อีกกว่า 5 พันล้านบาท หรือไม่เกิน 10% ของวงเงินค่าก่อสร้างเดิมที่ 75,548 ล้านบาท แบ่งเป็นสัญญาที่ 1 หรืองานก่อสร้าง งานโยธา สถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง เป็นเงินประมาณ29,828 ล้านบาท สัญญาที่ 2 งานโยธาสำหรับทางรถไฟ ระยะทาง 21 ก.ม. เป็นเงินประมาณ21,235 ล้านบาท และสัญญาที่ 3 งานระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกลรวมงานจัดซื้อตู้รถไฟฟ้าช่วง ตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต เป็นเงินประมาณ 27,422 ล้านบาท เพื่อช่วยแก้ปัญหาการประกวดราคาที่ล่าช้า (ข่าวสด) - การเมือง: ผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยยืน พฤติกรรมทางจริยธรรมไม่เคารพกฎหมายของ \"ณัฐวุฒิ\" ผู้ต้องหาก่อการร้าย ไม่เหมาะสมเป็นรัฐมนตรี ระบุข้อมูลที่ \"ยิ่งลักษณ์\"แจงเพิ่มเติมฟังไม่ขึ้น ทำหนังสือกลับให้ชี้แจงอีกครั้ง พร้อมส่งรัฐสภาเชือด ส่วน \"นลินี\" หากเกิดความเสียหายขึ้นนายกฯ ต้องรับผิดชอบ (โพสต์ทูเดย์)   กิจพล ไพรไพศาลกิจ Kitpon.p@kasikornsecurities.com +662 696-0057 ปณิธิ จิตรีโภชน์ Paniti.j@kasikornsecurities.com, +662 696-0053   โดย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ประจำวันที่ 15 มิ.ย. 2555

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook