ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง8.02จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง8.02จุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) ที่ 21,629.72 จุด ลดลง 8.02 จุด หรือ -0.04% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,459.14 จุด ลดลง 0.13 จุด หรือ -0.01% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,314.43 จุด เพิ่มขึ้น 1.97 จุด หรือ +0.03% ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงโกลด์แมน แซคส์ และไมโครซอฟต์ จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสุขภาพ หลังจากแกนนำวุฒิสภาสหรัฐได้ตัดสินใจเลื่อนการลงมติร่างกฎหมายประกันสุขภาพ อันเนื่องมาจากการที่นายจอห์น แมคเคน วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันต้องใช้เวลาในการพักรักษาตัว หลังจากเข้ารับการผ่าตัด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง โกลด์แมน แซคส์, ไมโครซอฟต์, อีเบย์, แบงก์ ออฟ อเมริกา, เจเนอรัล อิเล็กทริค และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
ผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดย S&P Capital IQ ระบุว่า ผลประกอบการโดยรวมของบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเพียง 6.2% ในไตรมาส 2 ซึ่งน้อยกว่าผลประกอบการในไตรมาสแรกที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 15%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยกดดันจากดัชนีหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพซึ่งปรับตัวลง 0.3% หลังจากนายมิทช์ แมคคอนเนล แกนนำวุฒิสภาของสหรัฐได้ประกาศเลื่อนการลงคะแนนเสียงร่างกฎหมายประกันสุขภาพออกไป เนื่องจากนายจอห์น แมคเคน วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันต้องพักรักษาตัว หลังจากที่เข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการเส้นเลือดอุดตัน
เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติอนุมัติร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ที่ผลักดันโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วยคะแนนเสียงฉิวเฉียด 217-213 เสียง โดยร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ หรือที่เรียกว่า "อเมริกันเฮลธ์แคร์" นั้นจะถูกนำมาบังคับใช้แทนกฎหมายประกันสุขภาพฉบับโอบามาแคร์ของรัฐบาลชุดก่อน หากผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะเผชิญอุปสรรคมากกว่าในสภาผู้แทนราษฎร โดยแกนนำของพรรครีพับลิกันต้องใช้เวลาเกือบ 2 เดือนเพื่อรวบรวมคะแนนเสียงเพื่อให้เพียงพอต่อการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น  ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) มีการขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนก.ค. แต่ในอัตราที่ชะลอตัวลงอย่างมาก ขณะที่คำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงานร่วงลง
ทั้งนี้ ดัชนีภาคการผลิตดิ่งลงสู่ระดับ 9.8 ในเดือนก.ค. จากระดับ 19.8 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีภาคการผลิตจะอยู่ที่ระดับ 15 ในเดือนก.ค.
 นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาส่งออก-นำเข้าเดือนมิ.ย., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมิ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook