ตัดสินใจอย่างไร เมื่อเจอกับข้อเสนอทางการเงินที่ดูแล้วไม่น่าไว้ใจ

ตัดสินใจอย่างไร เมื่อเจอกับข้อเสนอทางการเงินที่ดูแล้วไม่น่าไว้ใจ

ตัดสินใจอย่างไร เมื่อเจอกับข้อเสนอทางการเงินที่ดูแล้วไม่น่าไว้ใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ไม่ว่าใคร ๆ ก็อยากจะได้รับข้อเสนอทางการเงินที่ดี ได้เงินมาไว้ใช้จ่ายในครัวเรือนมาก ๆ กันแทบทั้งนั้น โดยเฉพาะผู้ที่มีวิถีชีวิตแบบหาเช้ากินค่ำ หาความมั่นคงในชีวิตไม่ได้เลย

ด้วยเหตุนี้ ทำให้เมื่อมีผู้นำข้อเสนอทางการเงินที่ดูแล้วดีมาให้ พวกเราจึงมักไม่ค่อยรีรอที่จะตอบรับข้อเสนอทางการเงินนั้น โดยหารู้ไม่ว่าบางครั้งผู้ที่นำข้อเสนอทางการเงินมาให้ กลับเป็นพวกสิบแปดมงกุฎที่มาหลอกลวงเรา เมื่อพวกเขาได้เงินจากเราแล้วก็เชิดหนีหรือไม่ก็หลอกเอาเงินกู้ที่ดอกเบี้ยแพงระยับมาให้ใช้ เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น สุดท้าย คนที่จะเดือดร้อนก็คือตัวเราและครอบครัวของเรา แทนที่จะมีเงินเหลือไว้ใช้สอยในครัวเรือน กลับต้องเสียไปให้กับพวกสิบแปดมงกุฎเหล่านี้ เผลอ ๆ การเสียเงินครั้งนี้จะยิ่งเป็นการทำให้ครอบครัวและตัวเรายิ่งลำบากหนักกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้หาเช้ากินค่ำ

เพราะฉะนั้นในบทความนี้เราจะมาดูตัวอย่างของรูปแบบการหลอกลวง โดยการนำเงินก้อนจำนวนมาก ๆ มาล่อกัน เพื่อที่เราจะได้รู้เท่าทันและไม่ถูกหลอกจนเสียเงินเสียทองในภายหลัง

กรณีศึกษาที่เราจะยกมาไว้ในที่นี้เป็นกระทู้ http://pantip.com/topic/35944049 ที่มาจากเว็บบอร์ดชื่อดัง Pantip.com เป็นประสบการณ์ของผู้ใช้ชื่อว่า เจ้าหญิงน้อยแห่งดวงดาวที่สี่ ซึ่งแม้ว่าเธอจะไม่ได้เสียเงินหรือเอกสารอะไรให้แก่กลุ่มนายทุนเจ้าของข้อเสนอทางการเงินกลุ่มนี้ไป แต่ตัวเธอก็ยังคงเกิดความสงสัยว่า ข้อเสนอทางการเงินที่กลุ่มนายทุนกลุ่มนี้นำมาบอกแก่คนในหมู่บ้านสามารถเชื่อได้หรือเปล่า โดยเนื้อหาเราจะขอกล่าวถึงในภายหลังและวิเคราะห์กันเป็นฉาก ๆ ไป

ซึ่งภายหลังจากการตั้งกระทู้แล้วมีผู้ใช้เว็บบอร์ดคนอื่น ๆ เข้ามาตอบกันมากมาย ส่วนใหญ่จะพูดไปในทิศทางเดียวกันว่า ไม่ใช่แหล่งเงินกู้ถูกกฎหมายอย่างแน่นอน เผลอ ๆ มันไม่ใช่แหล่งเงินกู้ด้วยซ้ำ แต่เป็นแชร์ลูกโซ่ ซึ่งผิดกฎหมายอย่างชัดเจนอีกด้วย แล้วได้ทำการแนะนำให้เจ้าของกระทู้ปฏิบัติการป้องกัน ไม่ให้ตนเองและคนในบ้านเป็นเหยื่อของสิบแปดมงกุฎกลุ่มนี้ต่อไป

ทีนี้ กลับมาเข้าเนื้อหากระทู้ที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของกลุ่มนายทุนกลุ่มนี้กันต่อ เจ้าของกระทู้เล่าว่าตนเองอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งแถบธนบุรีและได้เห็นว่าเมื่อไม่นานมานี้ มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาในหมู่บ้านของตน แล้วมาประชาสัมพันธ์ว่าจะแจกเงินกู้คนละ 500,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นเงินของทหารที่เอามาเพื่อฟอก

เงื่อนไขการรับเงินคือ ผู้ที่ประสงค์จะรับเงินก้อนนั้นให้ไปลงชื่อ พร้อมนำสำเนาบัตรประชาชนแบบไม่ขีดคร่อมไปยื่นเป็นหลักฐาน แต่เจ้าของกระทู้เธอนึกรู้ว่าเป็นสิบแปดมงกุฎอย่างแน่นอน จึงไม่ไปลงชื่อเพื่อขอรับเงินเหมือนกับชาวบ้านคนอื่น ๆ ที่แห่กันไปลงชื่อ แล้วนำหลักฐานไปยื่นกันเป็นจำนวนมาก

เจ้าของกระทู้ยังเล่าต่อไปอีกว่า ไม่ใช่แค่ที่หมู่บ้านของตนเองเท่านั้นที่เจอกับเรื่องแบบนี้ เพราะบ้านญาติที่หมู่บ้านอีกแห่งหนึ่ง ก็เคยเจอกลุ่มนายทุนที่นำเงินกู้จำนวนมาก ๆ มาเสนอให้กับชาวบ้านเหมือนกัน แต่การปล่อยกู้ของที่นี่มีวิธีการซับซ้อนกว่าเล็กน้อย กล่าวคือ

ทางกลุ่มนายทุนอ้างว่าจะปล่อยกู้ให้เป็นจำนวน 1 ล้านบาท แต่ผู้กู้จะได้เงินจริง 650,000 บาท โดยอ้างว่าอีก 350,000 บาท จะถูกนำไปเข้าสหกรณ์เพื่อเปิดบริษัทยาขายตรง แล้วนำเงินปันผลที่ได้มาแบ่งให้ผู้กู้เป็นการช่วยลดหนี้ให้ผู้กู้ โดยที่ไม่ระบุว่าหากถึงเวลาต้องใช้คืนจะต้องคืนเงินเป็นจำนวน 650,000 บาท ตามที่ได้จริง หรือ 1 ล้านบาทกันแน่

และเมื่อญาติของเจ้าของกระทู้ถามว่า เงินที่นำมาปล่อยให้กู้นี้มาจากไหน กลุ่มนายทุนก็อ้างว่าเป็นเงินของในหลวงรัชกาลที่ 9 เอามาช่วยคนจน แล้วเมื่อพ่อของเจ้าของกระทู้ลองไปถามอีกครั้งกลับกลุ่มนายทุนกลุ่มเดิม กลับได้รับคำตอบมาว่าเป็นเงินของ UN เอามาช่วยประชาชน ซึ่งเงื่อนไขของการขอกู้เงินที่นี่ ก็คือ ผู้กู้ต้องนำสำเนาสมุดบัญชีไปยื่น แต่ต้องไม่ใช่บัญชีธนาคารออมสิน กับ ธกส. นับว่าเป็นวิธีการที่ค่อนข้างแปลกประหลาดอยู่พอสมควรจนไม่น่าไว้ใจ

เหตุการณ์ที่เจ้าของกระทู้เจอมาเกี่ยวกับข้อเสนอทางการเงินที่ดูแล้วง่าย แถมยังได้เงินก้อนใหญ่ก็จบลงเพียงเท่านี้ หากเราลองวิเคราะห์ดูแล้วก็คงจะเห็นได้ว่าข้อเสนอทางการเงินนี้ดูแล้วไม่น่าไว้วางใจจริง ๆ นับตั้งแต่วิธีการที่แปลกประหลาดและดูอันตราย เช่น การให้นำสำเนาเอกสารสำคัญไปยื่นแบบไม่ต้องขีดคร่อม ซึ่งสำเนาเอกสารที่ไม่ได้ผ่านการขีดคร่อม ผู้ที่รับไปย่อมมีสิทธินำไปทำอะไรได้สารพัด ทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย

อีกทั้งยังไม่มีหน่วยงานไหนทั้งทางราชการหรือเอกชน สนับสนุนการยื่นเอกสารแบบไม่ขีดคร่อมหรือการเลือกเอาบัญชีเฉพาะที่มาจากธนาคารพาณิชย์ ไม่ได้ดำเนินการโดยรัฐบาลก็ดูจะน่าสงสัยว่าเพราะอะไร เป็นเงินผิดกฎหมายหรือเปล่า ยิ่งพอมารวมกับข้ออ้างเรื่องที่มาของเงินกู้ที่เป็นเงินทหารบ้าง เป็นเงินในหลวงบ้าง เงิน UN บ้าง ก็ยิ่งทำให้ข้อเสนอทางการเงินนั้นดูไม่น่าเชื่อถือไปโดยปริยาย

ถามว่า หากเราเจอกับกลุ่มนายทุนที่มาปล่อยเงินกู้อย่างนี้ เราควรจะทำอย่างไรจึงจะรู้ได้ ว่าเป็นเงินจากที่ ๆ นายทุนกลุ่มนั้นอ้างจริงหรือเปล่า สิ่งที่ต้องทำ ก็คือ เข้าไปขอดูเอกสารของนายทุนนั้น หากว่าเงินกู้มาจากแหล่งที่นายทุนอ้างถึงจริง ๆ ก็ควรจะมีเอกสาร หลักฐานอะไรปรากฏอยู่บ้าง ยิ่งถ้าเป็นองค์กรใหญ่มากเท่าไร ยิ่งต้องมีเอกสารปรากฏคู่กับเงินจำนวนมาก ๆ เช่นนี้ หากสอบถามแล้วทางนายทุนไม่สามารถนำเอกสารมาให้ดูได้หรืออ้างแบบข้าง ๆ คู ๆ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจเป็นพวกสิบแปดมงกุฎ แล้วเตือนคนอื่น ๆ ในชุมชนว่าอย่าหลงเชื่อ นำเอกสารไปให้เด็ดขาด

หลังจากที่อ่านบทความนี้จบแล้ว เชื่อว่าผู้อ่านหลาย ๆ คน คงพอจะเห็นรูปแบบการหลอกลวง กลโกง รูปแบบหนึ่งที่มักจะปรากฏให้เห็นอยู่บ่อย ๆ กันไปแล้ว ขอให้พึงระลึกไว้เสมอว่า ไม่มีใครทีจะนำเงินมาให้เราทีละมาก ๆ มีแผนที่ง่ายดายไปหมด โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน

หากพบว่ามีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในบริเวณใกล้ ๆ บ้าน ขอให้หลีกเลี่ยง อย่าหลงไปกู้เงินจากกลุ่มนายทุนนี้เป็นอันขาดและเตือนคนอื่น ๆ ในชุมชนให้รู้เท่าทันด้วย จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ถูกหลอกจนสูญเงินไปหลายบาทหรือได้เงินแบบที่แถมด้วยคดีความมา หากปล่อยให้ถึงตอนนั้น มันอาจจะสายจนเกินแก้แล้วก็ได้

อ้างอิง : http://pantip.com/topic/35944049

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook