ความจริงเรื่องเงิน ที่หลายคนยังเข้าใจผิด!

ความจริงเรื่องเงิน ที่หลายคนยังเข้าใจผิด!

ความจริงเรื่องเงิน ที่หลายคนยังเข้าใจผิด!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้ว่าเงินจะเป็นสิ่งที่ทุกคนใช้กันอยู่ทุกวี่วัน แต่ก็ยังมีอีกหลายคนนักที่ยังไม่เข้าใจ ความจริงเรื่องเงิน อย่างถ่องแท้ ว่าแต่ เรื่องเงินที่ว่าจะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

จำนองบ้านไม่ใช่คำตอบสุดท้าย

ในบางช่วงชีวิตคน อาจจะเจอมรสุมชีวิตและต้องการเงินก้อนใหญ่ในการแก้ปัญหานั้น ถ้าเป็นคนที่มีบ้าน ทางเลือกที่ดีที่สุดที่คุณคงจะนึกถึงก็คงเป็นการนำบ้านไปจำนอง ซึ่งดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 6% – 8% แล้วแต่สภาบันทางการเงินนั้น ๆ ซึ่งมันอาจจะน้อยกว่าอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลก็จริง แต่อย่าลืมว่าหากคุณจำนองบ้าน คุณต้องใช้เวลาชำระคืนเป็นสิบ ๆ ปี ถ้าคุณกู้สินเชื่อส่วนบุคคล แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะแพงกว่า (สูงสุดไม่เกิน 28% ต่อปี) แต่ระยะเวลาการชำระเงินคืนน้อยกว่า กลายเป็นว่าการเอาบ้านไปจำนองนั้นอาจจะทำให้คุณเสียเงินเยอะกว่าการกู้สินเชื่อส่วนบุคคลอีกนะคะ

หากคุณจ่ายเงินก่อนเก็บเงิน คุณจะไม่ได้อะไรเลย

หากเงินเดือนคุณออก แล้วคุณใช้จ่ายเงินไปโดยที่ไม่คิดจะกันไว้สำหรับเงินเก็บ สุดท้าย คุณอาจจะไม่เหลือเงินเอาไว้เก็บก็ได้ เพราะคุณใช้จ่ายไปหมดแล้ว จะดีกว่าไหม ถ้าเงินเดือนคุณออก แล้วคุณรีบหักเงินเก็บไว้ในอีกบัญชีทันที ก่อนที่คุณจะเอาเงินเดือนไปใช้จ่ายอะไรก็ตาม วิธีนี้ จะช่วยให้คุณมีเงินเก็บ และมีวินัยในการใช้จ่ายเงินมากขึ้นด้วยนะคะ

มูลค่ามันคนละเรื่องกับราคา

การที่เราเลือกซื้อของที่ถูกมาก ๆ มันอาจจะทำให้คุณต้องเสียเงินซื้อซ้ำ ๆ หลาย ๆ ครั้ง เนื่องจากสินค้านั้น ๆ มีคุณภาพไม่ดีพอ กลายเป็นว่าราคาสิ่งของที่ถูก ๆ พอรวมกันอาจจะแพงกว่าสิ่งของที่ราคาแพง แต่มีคุณภาพสูงและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานก็เป็นได้

ไม่มีประกันภัย = ไม่มีเงิน

“โจรปล้นสิบครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว” สำนวนโบราณนี้นับว่าเป็นเรื่องจริง เพราะหากคุณไม่ได้ทำประกันภัยรถยนต์หรือประกันทรัพย์สินเอาไว้ อนาคตเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน คุณอาจจะต้องเสียเงินจำนวนมหาศาล มากกว่าราคาเบี้ยประกันที่คุณต้องจ่ายหลายเท่า เผลอ ๆ อาจจะเป็นเงินเก็บทั้งชีวิตคุณเลยก็ได้ เพื่อจ่ายค่าซ่อมรถ ค่าโรงพยาบาล หรือค่าซ่อมบ้านใหม่ และอื่น ๆ อีกจิปาถะมากมายไปหมด ดังนั้นการมีประกันภัยต่าง ๆ เอาไว้เพื่อซื้อความเสี่ยง ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่านะคะ

บ้านของคุณไม่ใช่สิ่งที่จะเอาไปลงทุน

หลายคนคงเคยได้ยินว่าบ้านนั้นคือการลงทุนเพราะมันได้กำไรแน่นอน บ้านที่ดินซื้อไว้มีแต่ราคาขึ้น แต่โดยทั่วไปแล้วบ้านนั้นไม่ใช่การลงทุนนะคะ เพราะถ้าคุณซื้อเพื่ออยู่อาศํยเพียงอย่างเดียว ไม่ใช้ประโยชน์ให้มีรายได้เข้ามา ก็ถือว่าบ้านนั้นเป็น หนี้สิน ดี ๆ นี่เอง ดังนั้นถ้าคุณคิดจะขายบ้านเอากำไร คุณก็จะต้องซื้อบ้านหลังใหม่อยู่ดี เอาจริง ๆ คุณแทบจะไม่ได้อะไรเลย

อย่าซื้อ เพียงเพราะทุกคนก็ซื้อ

หลายต่อหลายคนมักจะซื้อของตามคนอื่น หรือเพียงเพราะเห็นคนอื่นซื้อแล้วดี ตัวเองก็เลยอยากดีตามคนอื่นไปด้วย เช่น ซื้อหุ้น หรือ อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งพอขาดทุนทีก็เสียหายกันไปเป็นแถว ในการซื้อิอะไรก็ตาม จะดีกว่าถ้าคุณใช้ความรู้สึกและสัณชาตญาณของคุณเอง ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร

ควรโฟกัสไปที่รายจ่ายมากกว่ารายรับ

หลายคนมักจะได้ยินคำกล่าวที่ว่า “ฉันจะมีเงินเก็บมากขึ้น หากฉันมีรายได้มากขึ้น” หรือ “ฉันไม่สามารถเก็บเงินได้ เพราะเงินเดือนฉันมันน้อยมาก” ความเชื่อนี้ถือเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะคุณมองปัญหาผิดจุดต่างหาก สิ่งที่คุณควรจะโฟกัสจริง ๆ คือรายจ่ายที่คุณควรจะทำให้มันลดลง ไม่ใช่รายได้ของคุณได้มาเท่าไหร่ เชื่อเราเถอะค่ะ 100 ทั้ง 100% เมื่อมีรายได้มากขึ้น ก็ยิ่งใช้จ่ายมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะมีรายได้เท่าไหร่ สิ่งที่คุณควรจะทำให้ได้คือการตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อให้คุณใช้จ่ายเงินให้น้อยลง และวิธีนี้แหละที่จะทำให้คุณมีเงินเหลือมากขึ้น และมีเงินเก็บนั่นเอง

ทรัพย์สินที่ใหญ่ที่สุดของคุณ คือรายได้ของคุณ

คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าบ้านหรือรถของพวกเขาเป็นสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุด แต่คุณคิดผิดค่ะ เพราะสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของคุณนั่นก็คือรายได้ของคุณ หรือจะให้เจาะจงก็คือ ตัวคุณนั่นแหละค่ะ หากคุณหาเงินได้ 300,000 บาท ต่อปี นั่นถือว่าคุณสามารถทำเงินได้มากถึง 12,000,0000 บาทตลอดอายุการทำงานของคุณ นั่นแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของคุณ ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถใช้ประสบการณ์ที่มากขึ้น สร้างรายได้ที่มากขึ้นได้กับตัวเองได้อีก ไหนจะการเรียนรู้เสริมสร้างทักษะ ไหนจะทำ OT หรือแม้แต่ทำงานพิเศษ ดังนั้น สินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของคุณก็คือ ตัวของคุณเอง จงพยายามรักษาดูแลมันเอาไว้ เพื่อหนทางไปสู่ความประสบความสำเร็จทางการเงินนะคะ

หลายคนอาจจะติดกับดักทางการเงิน จนทำให้สภาพคล่องทางการเงินนั้นเสียไป แต่เราเชื่อว่าหากคุณทำตาม 8 ข้อที่เรากล่าวมาด้านบน คุณจะประสบความสำเร็จทางการเงินได้อย่างแน่นอนค่ะ หากคุณผู้อ่านสนใจบทความดี ๆ เกี่ยวกับการเงิน รถยนต์ และประกันรถยนต์ สามารถกด Subscribe เพื่อรับสาระความรู้แบบนี้จาก MoneyGuru.co.th ได้เลยค่ะ เราจะส่งตรงถึงอีเมลของคุณทุก ๆ สัปดาห์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook