"เครื่องสำอางเกาหลี"เขย่า2หมื่นล. ชูเพื่อผิวคนเอเชีย/ส่งราคา3หมื่นเจาะขาช็อปไฮโซ

"เครื่องสำอางเกาหลี"เขย่า2หมื่นล. ชูเพื่อผิวคนเอเชีย/ส่งราคา3หมื่นเจาะขาช็อปไฮโซ

"เครื่องสำอางเกาหลี"เขย่า2หมื่นล. ชูเพื่อผิวคนเอเชีย/ส่งราคา3หมื่นเจาะขาช็อปไฮโซ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เครื่องสำอางเกาหลีบุกไทยไม่หยุด หลังเคาน์เตอร์แบรนด์ 2 หมื่นล้าน โตต่อเนื่องแม้ ศก.ชะลอตัว "มิลเล่-เดอะ ฮิสทอรี่ ออฟ ฮู" 2 แบรนด์น้องใหม่ แท็กทีมยั่วใจกำลังซื้อกลางบน ยันไฮเอนด์ เล็งขยายพรวด 10 สาขา ย้ำราคาเทียบเท่าเกาหลี พร้อมสินค้าใหม่เข้าร้านทุกเดือนตั้งเป้ายอดขายปีแรก 100 ล้านบาท ก่อนส่งสินค้าลุยอาเซียนในอนาคต

นางสาวชัญญาพัชญ์ ณัฐจีราวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท มิลเล่ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องสำอางมิลเล่จากเกาหลี ระบุว่า พฤติกรรมการดูแลตัวเองของคนยุคใหม่ทำให้สินค้าความสวยความงาม ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดี แม้ในภาวะที่เศรษฐกิจมีการชะลอตัว แต่อาจจะไม่หวือหวาเท่าช่วงก่อนหน้า โดยตลาดเคาน์เตอร์แบรนด์มีมูลค่าประมาณ 1.5-2 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 5-7% ในปีนี้

ส่วนเครื่องสำอางเกาหลียังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และมีแบรนด์ใหม่ ๆ ที่เข้ามาทำตลาดอยู่ตลอด ล่าสุดบริษัทได้นำเข้าแบรนด์มิลเล่ เครื่องสำอางสกินแคร์และแอ็กเซสซอรี่ต่าง ๆ มีราคาตั้งแต่ 195-1,500 บาท เข้ามาทำตลาด เน้นจับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน โดยเฉพาะสาวอายุระหว่าง 18-24 ปี ด้วยการชูจุดขายในแง่ของราคาที่เท่ากับสินค้าที่วางจำหน่ายในเกาหลี บริการของพนักงาน และการมีสินค้าใหม่เข้ามาจำหน่ายทุกเดือน โดยตั้งเป้าเพิ่มจุดขายทั้งที่เป็นเคาน์เตอร์ในห้าง สแตนด์อะโลนช็อปในพลาซ่าและคอมมิวนิตี้มอลล์ รวม 10 สาขาในปีหน้า

ขณะเดียวกันก็จะให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์อะแวร์เนส ผ่านทั้งช่องทางออฟไลน์ อาทิ สื่อสิ่งพิมพ์ นิตยสาร ฯลฯ และช่องทางออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊ก เว็บไซต์ บล็อกเกอร์ ฯลฯ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมการรับสื่อ การค้นหาข้อมูลและการใช้จ่ายของผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งจะทำให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นางสาวชัญญาพัชญ์กล่าวว่า นอกจากนี้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้เตรียมจะเปิดตัวแบรนด์ "เดอะ ฮิสทอรี่ ออฟ ฮู" สกินแคร์ไฮเอนด์จากเกาหลี ที่มีส่วนผสมจากสมุนไพรและแพ็กเกจจิ้งที่หรูหรา ราคาประมาณ 3,000-30,000 บาท ในรูปแบบเคาน์เตอร์ ที่สยามพารากอนเป็นสาขาแรก คาดว่าสิ้นปีหน้าจะมียอดขายประมาณ 100 ล้านบาท รวมทั้งมีแผนจะจับมือกับพาร์ตเนอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน กัมพูชา ลาว เมียนมา ที่ธุรกิจบิวตี้มีการเติบโตมากขึ้น เพื่อส่งสินค้าไปจำหน่าย คาดว่าจะเริ่มได้ภายในปีหน้า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook