กสิกรไทยประกาศลุยช่วยเหลือเอสเอ็มอี ผ่านวิกฤตเศรษฐกิจฝืด
ธนาคารกสิกรไทยชี้เอสเอ็มอีไทยยังโตได้แม้ต้องเจอวิกฤตเศรษฐกิจฝืดเคือง ยอดสินเชื่อปี 57 เพิ่ม 9.7% ต่างจังหวัดมาแรงแซงกรุงเทพโตพรวด 20% ตั้งเป้าปี 58 ยอดสินเชื่อเอสเอ็มอีรวม 612,000 ล้านบาท เติบโต 7.7% ชูกลยุทธ์ดูแลลูกค้าอย่างครบวงจร เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และการเน้นสร้างความสุขในการทำงานเพื่อรักษาพนักงาน นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของสายงานธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการหรือเอสเอ็มอี มีการขยายตัวที่ดี โดย ณ สิ้นปี 2557 มียอดสินเชื่อรวมที่ 568,000 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน 9.7% ในจำนวนนี้เป็นยอดสินเชื่อเอสเอ็มอีจากต่างจังหวัด 360,000 ล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อนถึง 20% ด้านยอดรายได้รวมอยู่ที่ 39,600 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 13% ขณะที่เอ็นพีแอล อยู่ที่ 2.56% ลดลงจากปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 2.82% ซึ่งผลประกอบการโดยรวมทำได้ดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ สำหรับผลสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าเอสเอ็มอีปี 2557 มีคะแนนความพึงพอใจ เพิ่มขึ้นจาก 75 คะแนน ในปี 2556 เป็น 76 คะแนน ในปี 2557 โดยปัจจัยหลักมาจากคะแนนความพึงพอใจในขั้นตอนการให้บริการที่ดีขึ้น สำหรับ ในปี 2558 ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ 280,000 ล้านบาท และมียอดสินเชื่อที่ 612,000 ล้านบาท ขยายตัวจากปี 2557 ที่ 7.7% พร้อมตั้งเป้ารายได้รวมที่ 43,300 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 9% และรักษา NPL ให้ลดลงอยู่ที่ 2.39% นายพัชร กล่าวเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี ในปี 2558 จะเน้น 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การดูแลผู้ประกอบการภายใต้แนวคิด “K SME ช่วยเต็มที่ SME มีแต่ได้” โดยดูแลลูกค้าปัจจุบันให้ดียิ่งขึ้น ควบคู่กับการขยายฐานลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ ด้วยบริการที่ครอบคลุมทั้งวงจรธุรกิจและสินเชื่อ การให้ความรู้ผ่านการสัมมนาออนไลน์ SME Webinar และการจัดสัมมนารูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งการให้ความรู้ควบคู่ความบันเทิง ผ่านรายการ SME ตีแตก การสร้างเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่งให้แก่ลูกค้า ผ่านกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ พร้อมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีผ่านกิจกรรมพิเศษในโอกาสต่างๆ รวมถึงช่วยเหลือลูกค้าให้ผ่านพ้นวิกฤติต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการลดระยะเวลาในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ พร้อมกระตุ้นให้พนักงานได้ใช้เวลาในการเยี่ยมลูกค้าให้มากขึ้น เพื่อจะได้ทราบถึงความต้องการและช่วยแก้ปัญหาของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที และการรักษาพนักงาน ด้วยการสร้างความสุขในการทำงาน เมื่อพนักงานมีความสุข อัตราการลาออกก็จะน้อยลง สอดคล้องกับผลสำรวจความผูกพันของพนักงานที่เพิ่มขึ้นมาโดยตลอด จากดัชนีความผูกพันในปี 2555 อยู่ที่ 54% ในปี 2556 เพิ่มเป็น 61% และ ในปี 2557 เพิ่มเป็น 64% นายพัชร กล่าวในตอนท้ายว่า ในปีที่ผ่านเอสเอ็มอีของไทยต้องประสบปัญหาหลายเรื่อง ซึ่งธนาคารกสิกรไทยได้มีมาตรการต่าง ๆ ออกมาช่วยเหลือเอสเอ็มอีเพื่อลดผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2557 ได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง โครงการรับจำนำข้าว ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดภาคเรียนล่าช้ากว่าปกติ และเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งธนาคารฯ ได้ออกมาตรการช่วยเหลือ เช่น การพักชำระเงินต้น การลดดอกเบี้ยเงินกู้โอดีลง 3% การขยายเวลากู้ รวมทั้งการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ให้กับลูกค้าจำนวน 18,600 ราย มียอดสินเชื่อรวม 67,600 ล้านบาท และในปีนี้ ธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวซบเซา และผลกระทบจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ โดยใช้มาตรการพักชำระเงินต้นนานสูงสุด 12 เดือน ขยายเวลาผ่อนชำระ และเลือกผ่อนชำระตามรายได้ของกิจการ นอกจากนี้ธนาคารกสิกรไทยได้ร่วมมือกับองค์กรรัฐรวม 7 แห่ง เพื่อช่วยผู้ประกอบการที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้