ภาวะตลาดหุ้นรายวัน - บล.ฟาร์อีสท์

ภาวะตลาดหุ้นรายวัน - บล.ฟาร์อีสท์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

DAILY COMMENT     SET Index  1062.39 จุด  -14.85 (-1.38%)   High 1071.21-6.03(-0.56%)           Low 1059.78 -17.46(-1.62%)   มูลค่าการซื้อขาย           28,202 ล้านบาท Foreign Board          480.19 ล้านบาท (1.70%) Big Lot                542.05 ล้านบาท (1.92%)   Investor Type                               Buy           Sell             Net สถาบัน                        2,579          3,647          (1,068) บัญชีบล.                       3,126          3,607            (481) ต่างประเทศ                    4,353          7,318          (2,965) ทั่วไป                        18,145         13,629           4,516   Stock Market Indices                             ปิด               เปลี่ยนแปลง (%) DJIA                    12,446.88          -58.88(-0.47%) NASDAQ                   2,781.91          -20.71(-0.74%) FTSE                     5,868.96          -60.20(-1.02%) NIKKEI                   9,925.92          -143.61(-1.43%) HANG SENG               21,663.16          -684.07(-3.06%) SSE COMPOSITE           2,754.581          -48.111(-1.72%) KOSPI                    2,109.73          -47.43(-2.20%)   Factors to Watch :           ภายในประเทศ           (+/-) กกต. ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. จำนวน  358 คนจาก 500 คน แต่ยังไม่รับรองนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และแกนนำ นปช.           (+/-) คาดการณ์ว่า วันนี้ กนง. จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% มาที่ระดับ 3.25% จากแรงกดดันของเงินเฟ้อ           (+/-) ติดตามการจัดตั้งรัฐบาลและการแถลงนโยบายของพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำการจัดตั้งรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้น           (+/-) กบง. มีมติปรับขึ้นราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) สำหรับภาคอุตสาหกรรมรวม 12 บาท/กก. โดยทยอยปรับขึ้นไตรมาสละ 3 บาท/กก. เป็นเวลา 4 ไตรมาส ซึ่งในรอบแรก จะเกิดขึ้นวันที่ 19 ก.ค.54             ต่างประเทศ           (-) ความกังวลว่า อิตาลีจะเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติหนี้ยูโรโซน           (+) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น           (-) แรงกดดันทางด้านเงินเฟ้อในเอเชีย           (-) สถานการณ์การเมืองในตะวันออกกลาง           (-) วิกฤติหนี้ยูโรโซน โดยเฉพาะกรีซ           (-) การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ           (+/-) ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก             แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้           คาด SET Index จะ Rebound ได้ในระหว่างวัน ให้กรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,054 -1,070 จุด เมื่อวานนี้ (12 ก.ค.54) ตลาดหุ้นไทยปิดลบ 1.38% โดยมีแรงขายในกลุ่มพลังงานและแบงก์นำตลาด ขณะที่มูลค่าการซื้อขายอยู่ในระดับเกือบ 3 หมื่นลบ. เนื่องจากปัญหาหนี้ของยูโรโซน ที่นักลงทุนกังวลว่าจะลุกลามไปยังประเทศอิตาลี ดังนั้นจะต้องติดตามการแก้ไขปัญหาหนี้ดังกล่าว ว่าจะมีการออกมาตรการช่วยเหลืออย่างไรบ้าง โดยนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิ 1,069 และ 2,966 ลบ. ตามลำดับ ขณะที่รายย่อยซื้อสุทธิ 4,516 ลบ.           ส่วนวันนี้ เราคาดว่าตลาดจะปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังจากมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของไอร์แลนด์ลงสู่อันดับขยะ แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า ตลาดอาจจะมีการ Rebound ได้ในระหว่างวัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบโลกได้มีการพุ่งขึ้นถึง 2% ซึ่งจะผลักดันให้หุ้นในกลุ่มพลังงานและดัชนีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ ส่วนวันนี้จะมีการประชุมอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเราคาดว่า กนง. จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ซึ่งจะส่งผลดีต่อกลุ่มแบงก์ในระยะสั้น ทั้งนี้หากวันนี้ตลาดปรับตัวลดลง เรายังคงแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้น โดยให้กรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index ในช่วง 1,054 -1,070 จุด            กลยุทธ์การลงทุน: นักเก็งกำไร แนะนำให้ทยอยซื้อเพิ่มเติมในช่วงนี้ ส่วน  นักลงทุนระยะกลาง-ยาว (ถือครองหุ้นในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า) เรายังคงให้ทยอยสะสมหุ้นหากตลาดมีการอ่อนตัวระยะสั้น โดยเน้นลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งของกลุ่ม big cap. ได้แก่ กลุ่มพลังงาน, ปิโตรเคมี และโรงกลั่น (PTTEP PTT BANPU TOP PTTCH IVL), กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BAY KBANK KTB SCB) และกลุ่มอาหาร (CPF และ TUF) หุ้นแนะนำ TOP โดยเราคาดว่า แนวโน้มค่าการกลั่นจะกลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งในช่วง 2H11 ซึ่งเป็นผลจากฤดูกาล ขณะที่เราคาดว่า ผลการดำเนินงานในส่วนที่เหลือของปีนี้ยังคงเติบโตได้ดี แนะนำทยอยซื้อสะสม โดย FES ให้มูลค่าเหมาะสมไว้ที่ 90.15 บาท ส่วนกรอบทางเทคนิคให้ไว้ที่ 68.50-80.00 บาท             ตลาดหุ้นต่างประเทศ           Dow slightly reduces. เมื่อวาน (12 ก.ค.54) ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 58.88 จุด (-0.47% d-o-d) โดยปิดที่ระดับ 12,446.88 จุด ขณะที่ดัชนี Nasdaq ลดลง 0.74% ส่วน S&P 500 ลดลง 0.44% ได้รับแรงกดดันจากปัญหาด้านการคลังของยุโรป และมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของไอร์แลนด์ลงสู่อันดับขยะในช่วงท้ายการซื้อขาย           ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น: ตลาดน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 2.28 ดอลลาร์ โดยปิดที่ 97.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ โดยปิดที่ 117.75 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟดว่าเฟดอาจผ่อนคลายนโยบายการเงินลงไปอีก ถ้าหากเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวอย่างเฉื่อยชา           ราคาทองคำเพิ่มขึ้น: ราคาทองคำล่วงหน้า COMEX ของสหรัฐเดือน ส.ค.54 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.10 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยปิดที่ระดับ 1,562.30 ดอลลาร์/ออนซ์ จากความกังวลว่าเจ้าหน้าที่ยุโรปจะประสบความล้มเหลวในการสกัดกั้นการลุกลามของวิกฤติหนี้ และการเจรจาในสหรัฐเรื่องการปรับขึ้นเพดานหนี้           BDI ลบ: ดัชนีค่าระวางเรือเทกองลดลง 26 จุด โดยปิดที่ 1,411 จุด           (ศรัณรัตน์ พันธโชติรัตน์ /Tel 02–648-1125 /Email:saranrat.p@fes.co.th)   News Release             TMBเมินปรับเป้าสินเชื่อ ชี้เศรษฐกิจยังมีปัจจัยเสี่ยง                     นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด(มหาชน)หรือTMB เปิดเผยว่า ธนาคารยังคงยืนยันเป้าสินเชื่อไว้ที่ 10% และจะยังไม่ปรับแผนธุรกิจในขณะนี้ถึงแม้ว่าการเลือกตั้งจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีแ ละสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น ส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อของระบบในช่วงครึ่งปีหลังขยายตัวตามไปด้วยก็ตาม (แนวหน้า)             SLCตั้งเป้าปี'54 ฟันรายได้200ล. เล็งย้ายจากmai เข้าเทรดในSET           +          นายโฆสิต สุวินิจจิต ประธานกรรมการบริษัทโซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) (SLC) เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการปี2554ว่า น่าจะพลิกเป็นกำไรได้ เนื่องจากมีมูลค่างานอยู่ในมือประมาณ 90 ล้านบาทและเตรียมประมูลงานเพิ่มอีก 100 ล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลในไตรมาส 3 ปีนี้ นอกจากนั้น บริษัทได้ลดบทบาทในการรับงานด้านซอฟท์แวร์ หันมาเน้นงานจำหน่ายซอฟท์แวร์และรับวางระบบมากขึ้น คาดปีนี้จะมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท(แนวหน้า)             CPALLรายได้กระฉูด ข่าวดีค่าจ้าง300บาท ไตรมาส 2 ตามเป้า ปีนี้รายได้โต 20%           +          CPALL มองปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท เป็นข่าวดีต่อบริษัทเพราะอาจเพิ่มกำลังซื้อผู้บริโภค โบรกฯคาดกำลังซื้อเพิ่มขึ้นกว่า 10% พร้อม เชียร์ “เก็งกำไร\" ราคาเป้าหมาย 48 บาท “ปิยะวัฒน์” แย้มผลประกอบการ Q2/54 ตามเป้า มั่นใจรายได้ปีนี้โต 15-20% (ข่าวหุ้น)             UKEMกำไรพุ่ง1,000% พื้นฐานเปลี่ยนเป้า4บ.           +          UKEM กำไรไตรมาส 2/54 โตเกิน 1,000% หรือกว่า  70 ล้านบาท ปรับประมาณการใหม่กำไรปีนี้พุ่ง 200 ล้านบาท หรือ 0.30 บาทต่อหุ้น โตอีก 144% เทียบปีก่อนกำไรแค่ 82 ล้านบาท หลังญี่ปุ่นหยุดผลิตโซเวนท์ ส่งผลดีมานด์ทะลัก ราคาเหมาะสมพีอี 15 เท่า ให้เป้า 4 บาท(ข่าวหุ้น)             หุ้นไทยร่วงสวนพื้นฐานแกร่ง                     โบรกฯ มองหุ้นไทยยังผันผวนต่อ รับผลกระทบจากต่างประเทศ สวนทางพื้นฐานเศรษฐกิจในประเทศไทยที่ยังแข็งแกร่งติด 1 ใน 3 มองแนวรับ 1,040 จุดยังแข็ง แนะซื้อกลุ่มธนาคารรับ กนง. ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายวันนี้(ข่าวหุ้น)             แนะธุรกิจรับศึกเงินเฟ้อ-ค่าแรง                     ธปท.เกาะติดเงินเฟ้อ-ทีเอ็มบีแบงก์ เชื่อกนง.จ่อปรับอาร์/พีขึ้นอีก 0.25% ค่าย ธพว.เล็งปรับดอกเบี้ยกู้ไตรมาส 4 หลังอั้นประคองธุรกิจสิ้นไตรมาส 3 แนะธุรกิจรับศึก 2 ทาง รัฐขึ้นค่าแรงวันละ 300 บาท เงินบาทแข็งดันเงินเฟ้อสูง(ฐานเศรษฐกิจ)             'NEP' ตีปีกเนสท์เล่ป้อนงานล้างขาดทุนกำไรโตกระโดด           +          NEP ประกาศลั่นโรงงานใหม่โคราชใกล้คลอดเต็ม 100% ชี้เดือนนี้-สิงหาคมเดินเครื่องเฟสแรกได้ ดึงลูกค้ารายใหญ่ทะลักเข้า ฟุ้งเนสท์เล่จ่อป้อนออเดอร์เพิ่ม ส่วน Q2 ผลงานสวยหรูหนุนทั้งปีรายได้ตามเป้า 40% พร้อมล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยงกรุภายใน 2-3 ปี ดันกำไรปีหน้าโตก้าวกระโดด โบรกจับเทคนิคมีลุ้นไปต่อได้เห็น 1.00 บาท(ทันหุ้น)             'SIAM' พุงกาง Q4 ซดกำไร 90 ล.รับทรัพย์งาน \"ออสซี่-ยุ่น\" ทะลัก           +          กูรูส่อง SIAM โดดเด่นคาด Q4 ผลงานพุ่งกระฉูดหลังรับทรัพย์งานเก่าเพียบ จากออสเตรเลียเกลี้ยงกรุ อีก 2 คัสเตอร์หรือ 600-700 ล้านบาท พ่วงรับรู้งานใหม่ญี่ปุ่นสร้างบ้านสำเร็จรูปหลังผ่านมาประมูลได้ 200 ล้านเยน คาดรับรู้ภายในปีนี้ โบรกสบช่องปรับกำไรปีนี้ขึ้นเป็น 254 ล้านบาท จากปีก่อน 66 ล้านบาท แนะ \"ซื้อ\" เป้าหมาย 3.48 บาท(ทันหุ้น)             'THCOM' วิ่งผ่านจุดต่ำสุดพลิก \"กำไร-ปันผล\" รอบ 8 ปี           +          THCOM โคจรพ้นผ่านมรสุมรับกระแสเพื่อไทยตั้งรัฐบาลใหม่ เร่งจัดระเบียบดันนโยบายสื่อสาร โทรคมนาคมโบรกหลายสำนักเอกซเรย์ ผลงานตั้งแต่ไตรมาส 2-3/2554 ขาดทุนลดลง ส่งผลโดยรวมปีนี้จ่อทำสถิติพลิกกำไรเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี คาดจ่ายปันผลในอัตรา 0.25 บาท เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี นับจากปี 2546 วางพิกัดเป้าราคา 12.30 บาท(ทันหุ้น)             พรรณนภา เขมะสุรัตน์ / Tel.02-648-1124 / Email ; phannapa.k@fes.co.th             โดย บล.ฟาร์อีสท์ จำกัด ประจำวันที่ 13 ก.ค. 2554  

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook