หนึ่งนที ค้าส่งสินค้าคุณภาพเยี่ยมเบื้องหลังความสำเร็จธุรกิจค้าปลีกสินค้าราคา 20 บาท

ทุกชิ้นราคาเดียว จ่ายตามราคาสินค้าไม่มีบวกเพิ่ม สร้างกำไรกว่า 25 % 

เสน่ห์สำคัญที่ทำให้ธุรกิจค้าปลีกสินค้าราคาเดียวทุกชิ้น ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม เพราะภายในร้านนั้นมีสินค้าที่หลากหลาย แถมราคาขายยังถูกกว่ามาก เมื่อเทียบกับราคาสินค้าประเภทเดียวกันที่วางขายอยู่ภายในห้างสรรพสินค้า จึงไม่น่าแปลกใจที่ร้านสินค้าราคาเดียวจะมีผู้บริโภคแวะเวียนเข้าไปจับจ่ายซื้อสินค้าอยู่ตลอด เพราะในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ใครๆ ก็อยากซื้อสินค้าดีราคาถูกด้วยกันทั้งนั้น และที่สำคัญหากสังเกตให้ดีลูกค้าทุกคนที่เดินเข้าไปในร้านลักษณะนี้ส่วนใหญ่มักจะซื้อของติดไม้ติดมือออกมาเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3 ชิ้น

ฉะนั้นการลงทุนเปิดร้านขายของในคอนเซ็ปต์ทุกชิ้นราคาเดียวกัน จึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจมาก แต่ทว่าสิ่งแรกที่ผู้ที่สนใจในธุรกิจนี้จำเป็นต้องรู้คือ แม้เรื่องของราคาจะเป็นตัวดึงดูดใจลูกค้า แต่หากสินค้าที่นำมาขายนั้นๆ ไม่มีคุณภาพที่ดีพอ แม้ช่วงแรกจะขายดี แต่ต่อไปก็จะไม่มีใครเชื่อถือในสินค้า สุดท้ายธุรกิจก็ต้องล้มปิด ขาดทุนไปตามระเบียบ

ดังนั้นถ้าคิดอยากลงทุนเปิดร้านขายของราคาเดียวอย่างจริงจัง ก็ต้องหาแหล่งขายส่งสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม ที่สามารถขายต่อในราคา 10 หรือ 20 บาทได้ ซึ่งหนึ่งในแหล่งขายส่งสินค้าที่ใหญ่ ได้รับการยอมรับในเรื่องของคุณภาพ และการบริการที่ดีนั้นคือ “หนึ่งนที” แหล่งขายส่งสินค้าที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานเกือบ 10 ปีเต็ม

วันนี้ “หนึ่งนที” ไม่เพียงแค่เป็นศูนย์ขายส่งสินค้ากว่า 5,000 รายการ แต่ยังเปิดโอกาสให้แก่นักลงทุนที่อยากมีร้านค้าขายของภายในโลตัส  และบิ๊กซี สามารถเปิดร้านอย่างที่ฝันไว้โดยทาง “หนึ่งนที” พร้อมจะเป็นสื่อกลางในการช่วยประสานงานติดต่อ ช่วยเหลือ และคอยให้คำแนะนำ ให้ โดยทั้งหมดนี้ “หนึ่งนที” ไม่คิดค่าแฟรนไชส์ หรือคำปรึกษาแต่อย่างใดๆ ทั้งสิ้น

สินค้าดี ครบทุกความต้องการพร้อมขายกว่า 5,000 รายการ

“เน้นทำธุรกิจอย่างซื่อตรง ไม่คิดราคาทำกำไรเกินควร และสินค้าต้องมีคุณภาพปลอดภัย ใช้งานได้จริง” และนี่คิดแนวคิดสำคัญในการบริหารงานมาตลอด 10 ปีเต็มของ คุณเนญาวงศ์  คนยืน ผู้ปลูกปั้นธุรกิจ “หนึ่งนที” 

ทั้งนี้ “คุณเนญาวงศ์” ฉายภาพที่มาที่ไปของ “หนึ่งนที” ว่าแต่เดิมทำธุรกิจในรูปแบบเป็นศูนย์ขายส่งสินค้า

มีสินค้าอยู่มากถึง 1,500 รายการ แบ่งออกเป็น  8 หมวดใหญ่ คือ

1. พลาสติก

2. เซรามิก-แก้ว

3. เครื่องครัว

4. เครื่องเขียน

5. เครื่องมือช่าง

6. กิ๊ฟช็อป

7. ของเล่นเด็ก

8. ของใช้ทั่วไป

 โดยสินค้าเหล่านี้มีทั้งที่ผลิตในประเทศ และนำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยสินค้าที่นำมาขายทุกรายการนั้น จะต้องผ่านการทดสอบจากคุณเนญาวงศ์ก่อน ถ้าใช้แล้วไม่ดีก็จะไม่นำมาขายเด็ดขาย เนื่องจากไม่อยากหลอกลวงลูกค้า และที่สำคัญถ้าสินค้าไม่ดี ลูกค้าซื้อไปขาย หรือไปใช้แล้วรู้สึกว่าไม่คุ้มก็จะเริ่มบอกต่อกันไปสุดท้ายก็ต้องปิดกิจการ ในทางกลับกันถ้าของดี สมราคาลูกค้าก็บอกต่อกัน ทำให้มีลูกค้ามาซื้อกันมากขึ้น ธุรกิจก็เติบโตไปได้ดี ซึ่งการที่ “หนึ่งนที” สามารถอยู่ในวงการมาได้นานถึง 10 ปีก็เพราะเราทำให้ลูกค้าเชื่อใจในสินค้า และราคาที่เหมาะสม

ต่อมาได้มีการขยายธุรกิจ โดยเริ่มหันมาเปิดร้านขายปลีกในโมเดิร์นเทรดอย่าง บิ๊กซี โลตัส โดยมีจุดขายคือ ทั้งร้านราคาเดียว คือ 10 บาท และ 20 บาท ซึ่งจากประสบการณ์ที่ทำธุรกิจเปิดร้านขายของภายในโมเดิร์นเทรดมานาน ทำให้ “คุณพลประเสริฐ์” เข้าใจกลยุทธ์ในการทำตลาดเป็นอย่างดี

ดังนั้นวันนี้จึงพร้อมให้คำแนะนำ และช่วยเหลือนักลงทุนที่สนใจอยากเปิดร้านภายในโมเดิร์นเทรดอย่างบิ๊กซี และโลตัส อย่างเต็มที่ ตั้งแต่การช่วยเจรจาหาทำเลที่เหมาะสมให้ ไปจนถึงการสอนเคล็ดลับการจัดหน้าร้าน ไปจนถึงกระบวนการบริหารร้านต่างๆ  แต่ทั้งนี้ “คุณพลประเสริฐ์” ย้ำว่ารูปแบบการให้บริการแนะนำดังกล่าวนี้ไม่ใช่การทำแฟรนไชส์ ดังนั้นลูกค้าต้องบริหารและดูแลด้วยตนเอง โดยทางทีมงาน “หนึ่งนที” จะทำหน้าที่คอยช่วยเหลือให้คำแนะนำ และคำปรึกษาในช่วงเริ่มต้นทำธุรกิจ คิดราคาสินค้าตามจริง ได้กำไรเฉลี่ย 25%

ทั้งนี้ “คุณเนญาวงศ์” กล่าวว่า สินค้าแต่ละชนิดมีราคาที่ต่างกันไป แต่โดยเฉลี่ยแล้วสินค้าที่ลูกค้าสามารถนำไปขายได้ในราคาไม่น้อยกว่า 20 บาทนั้น จะมีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 10-15 บาท/ชิ้น  ส่วนสินค้าที่สามารถไปขายในราคา 10 บาท/ชิ้น  จะมีต้นทุนอยู่ที่ราว 6-8 บาท/ชิ้น  ดังนั้นโดยเฉลี่ยแล้วจะได้กำไรราว 25% บาท กล่าวคือ เงินลงุทน 100 บาท จะสามารถขายได้เงินมาไม่น้อยกว่า 125 บาท เป็นต้น  แต่กำไรจะมากหรือน้อยก็อยู่ที่เทคนิคการขาย การจัดร้าน โดยคุณพลประเสริฐ์ กล่าวว่า สินค้าที่จัดอยู่ในกลุ่ม 10 บาท ลูกค้าที่มาซื้อส่งก็สามารถนำไปผสมขายรวมกับสินค้าในกลุ่ม 20 บาทได้ เพราะอยากที่กล่าวตอนต้นว่าสินค้าของ “หนึ่งนที” เน้นไปที่คุณภาพเป็นหลัก ดังนั้นหากลูกค้าจะนำไปขายต่อโดยปรับราคาขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ทั้งนี้ต้องดูความเหมาะสมของสินค้าด้วย

ส่วนเรื่องของเงินลงทุนนั้น ไม่มีการเงื่อนไขขั้นต่ำ เพราะคิดราคาสินค้าตามความเป็นจริงไม่มีการบวกเพิ่มแต่อย่างใด และสำหรับส่วนลูกค้าต่างจังหวัด ทางหนึ่งนที ก็พร้อมที่จะช่วยจัดหารถจัดส่งให้ โดยลูกค้าต้องฝ่ายจ่ายค่าน้ำมัน ซึ่งจะคิดตามราคาน้ำมันในตอนนั้นๆ ทั้งนี้เพราะทางสินค้าที่ทางหนึ่งนที ขายส่งให้นั้นเป็นราคาที่เท่ากับที่ลูกค้ามาซื้อและรับของที่คลังสินค้าเอง  ส่วนผู้ที่สนใจเปิดร้านขายสินค้าราคาเดียวในโมเดิร์นเทรดนั้น งบลงทุนซื้อสินค้าคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 1 แสนบาท/ 20 ตรม.  แต่จะมากหรือน้อยกว่านี้นั้น ขึ้นอยู่ที่พื้นที่ของร้าน ถ้าพื้นที่มากก็ต้องลงสินค้ามาก และหากผู้ลงทุนต้องการให้ทาง หนึ่งนที ช่วยจัดหาทีมช่างมาช่วยตกแต่งร้านให้ โดยทางหนึ่งนทีก็พร้อมช่วยเหลือโดยไม่มีการคิดค่าหน้านายแต่อย่างใดทั้งสิ้น