ปตท.รับผลกระทบการเมือง ทำรายได้ต่ำกว่าคาด

ปตท.รับผลกระทบการเมือง ทำรายได้ต่ำกว่าคาด

ปตท.รับผลกระทบการเมือง ทำรายได้ต่ำกว่าคาด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปตท.ยอมรับผลพวงเศรษฐกิจชะลอตัวจากปัญหาการเมืองส่งผลกระทบต่อรายได้ที่อาจต่ำกว่าคาด สั่งลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นแต่โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ท่อก๊าซธรรมชาติเหนือและอีสานเดินหน้าต่อ ซีอีโอยอมรับรายจ่ายพุ่งกว่า 300 ล้านบาท ที่ยังกลับเข้าทำงานที่สำนักงานใหญ่และเอนโก้ไม่ได้ ล่าสุดวานนี้พบระเบิดตกค้างจากการชุมนุมซุกใต้ต้นไม้อีก 6 ลูก

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ขณะนี้ชะลอตัวจากการปัญหาการเมืองที่ไม่รู้จะจบเมื่อใดส่งผลกระทบต่อการใช้พลังงานทั้งไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งการบริโภคของประชาชนที่จะเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจต่อเนื่อง ปิโตรเคมี โดยขณะนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เริ่มเรียกก๊าซฯ ผลิตไฟฟ้าน้อยลง โดยต้องรอดูว่าจะลดลงต่อเนื่องหรือไม่ เพราะในช่วงต้นปีมีทั้งอากาศหนาวเย็นและการผลิตของโรงงานที่ลดลง เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์

นายไพรินทร์ กล่าวว่า ผลพวงดังกล่าวจะกระทบต่อรายได้ของ ปตท.ที่อาจจะไม่สามารถขยายตัวได้สูง แต่ทั้งนี้ต้องรอดูราคาน้ำมันโลกด้วยว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่ง ปตท. เตรียมพร้อมรับมือติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ควบคุมดูแลค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ ส่วนจะปรับลดงบลงทุนหรือไม่ จะมีการทบทวนตามปกติ คือ ช่วงกลางปีของทุกปี โดยในปี 2556 ปตท.มีรายได้ 2.84 ล้านล้านบาท กำไร 94,652 ล้านบาท ขณะที่แผนลงทุน 5 ปี (2557-2561) ลงทุน 327,000 ล้านบาท และใน 2557 เม็ดเงินลงทุน 86,900 ล้านบาท

"เหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองที่ดำเนินต่อเนื่องมา 3 เดือน ส่งผลให้ประเทศเสียโอกาสอย่างมากและยังไม่ทราบว่าจะจบเมื่อไหร่ ได้ส่งผลให้ภาคเศรษฐกิจ  ชะตัวลงเรื่อย ๆ และเมื่อชะลอตัวมากถึงจุดหนึ่ง การจะกระตุ้นให้เศรษฐกิจ กลับเติบโตอย่างเดิมก็เป็นไปได้ยาก จึงอยากให้วิกฤติการเมืองครั้งนี้จบลงโดยเร็ว" นายไพรินทร์ กล่าว

นายไพรินทร์ กล่าวว่า แม้กลุ่ม ปตท.จะมีแผนบริหารงานต่อเนื่องรับมือวิกฤติ  แต่จากการที่มีการชุมนุมของกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) ที่เข้าไปชุมนุมและยึดพื้นที่ ปตท. และเอนโก้ตั้งแต่ 13 มกราคมถึง 18 กุมภาพันธ์ 2557 และยังมีการกลับมาชุมนุมหน้าเอนโก้อีกครั้ง 6 มีนาคม 2557 พร้อมทั้งยื่นเงื่อนไขไม่ให้พนักงานและข้าราชการกระทรวงพลังงาน ของ 2 อาคารกลับเข้าไปทำงาน ทำให้จนถึงปัจจุบันเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปทำงานได้ตาม ปกติ วานนี้ (10 มี.ค.) คนสวนยังพบระเบิดปิงปองขนาดค่อนข้างใหญ่ไม่ต่ำกว่าลูกเปตองจำนวน 6 ลูกใต้ต้นไม้ใน ปตท.สำนักงานใหญ่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ   เข้ามาตรวจสอบ คาดว่าการ์ดผู้ชุมนุมซุกซ่อนไว้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยขณะนี้บริษัทต่าง ๆ ต้องไปเช่าพื้นที่ทำงาน ความเสียหายสูงกว่า 300 ล้านบาทแล้ว และในช่วงของการชุมนุมบริษัทต่างชาติที่เป็นที่ปรึกษาไม่กล้าเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ทำให้ กลุ่ม ปตท.เสียโอกาสในการทำงานอย่างมาก

"ทั้งประเด็นการบุกยึดของผู้ชุมนุมและการที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขอปรับขึ้นค่าเช่านอกเหนือสัญญา ทำให้ ปตท.มีแผนหาพื้นที่สร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ โดยหากใครมีพื้นที่ที่สวยงามฮวงจุ้ยดี ก็สามารถเสนอขายมายัง ปตท.ได้ โดยเมื่อเร็วนี้ ปตท.ได้ซื้อที่ดินแห่งใหม่ติดสนามกอล์ฟราชพฤกษ์ นอร์ทพาร์ก ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อสร้างวิทยาพลังงานไปแล้ว" นายไพรินทร์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2557 ศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับแกนนำ กคป. นพ.ระวี มาศฉมาดล และนายทศพล แก้วทิมา และนายธวัชชัย พรหมจันทร์ แกนนำ กคป.ตามที่พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ได้ยื่นคำร้องขอศาลออกหมายจับ ตาม ม.215 วรรคสาม, 358 ประกอบ 83 หมายจับที่ 411-413/57 เพราะทาง กคป.กลับมาชุมนุมอีกรอบที่ หน้าเอนโก้ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2557  และได้ยื่นขอถอนประกันแกนนำที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook