ออฟฟิศที่มี “ความหลากหลายทางเพศ” ดีอย่างไร

ออฟฟิศที่มี “ความหลากหลายทางเพศ” ดีอย่างไร

ออฟฟิศที่มี “ความหลากหลายทางเพศ” ดีอย่างไร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โลกใบนี้กว้างใหญ่เกินกว่าจะมีแค่ขาวกับดำ การตัดสินโลกด้วยมุมมองแคบ ๆ แบบนั้นเป็นเรื่องที่ล้าสมัยไปแล้วในโลกยุคปัจจุบัน ยิ่งโลกเปลี่ยนแปลงไปทุกวันแบบนี้ เราจะพบว่ายังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ซ่อนอยู่ คนร้อยพ่อพันแม่ย่อมมีความแตกต่าง หลากหลาย เพราะเราทุกคนแตกต่างกันและสังคมมีความหลากหลาย เราจึงยังมีวิวัฒนาการเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เพราะฉะนั้น หากจะตีกรอบให้กับสังคมที่มีความหลากหลายสูง คงเป็นเรื่องที่คนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนโลกในยุคปัจจุบันจะรู้สึกยอมรับไม่ได้เช่นกัน

ปัจจุบันเรามักจะได้ยินคำว่า “LGBTQIAN+” หรือกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศอยู่บ่อยครั้ง ปัจจุบันองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้มีการเปลี่ยนแปลงการจัดประเภทของโรคระหว่างประเทศ ระบุว่า “การมีเพศสภาพไม่สอดคล้องกับเพศกำเนิด” ไม่ใช่ความผิดปกติทางจิตใจและพฤติกรรมอีกต่อไป ดังนั้น การมีเพศสภาพไม่สอดคล้องกับเพศกำเนิดนั้นไม่ถือว่าเป็นอาการป่วยทางจิตอีกต่อไปแล้ว หลาย ๆ สังคมเปิดรับคนกลุ่มนี้มากขึ้น และอีกหลาย ๆ สังคมก็กำลังพยายามอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะการจะเปลี่ยนความคิดและความเชื่อฝังหัวไม่ใช่เรื่องง่าย

นับวันสังคมของเรายิ่งมีความหลากหลายทางเพศมากขึ้น สังเกตได้จากการใช้คำเรียกคนกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศเป็นตัวย่อภาษาอังกฤษที่ยาวขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงมีการใส่เครื่องหมายบวก (+) เข้าไป เพื่อแสดงให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วยังมีมากกว่าที่ปรากฏเป็นตัวย่อ เนื่องจากบุคคลหลากหลายทางเพศไม่มีอัตลักษณ์ทางเพศที่หยุดนิ่งหรือตายตัว เครื่องหมายบวกจะช่วยให้การนิยามนี้เปิดกว้างและสามารถลื่นไหลต่อไปได้ในอนาคต

ไม่ว่าจะเพศสภาพไหน ถ้าหากว่าเราเป็นมนุษย์เหมือนกัน เราต่างก็มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีสิทธิ มีเสรีภาพ ไม่ว่าจะทั้งทางความคิดและการกระทำที่เท่ากัน โดยอยู่ในกรอบของการอยู่ร่วมกันในสังคม ในการทำงาน คนกลุ่มนี้ก็ไม่ได้มีศักยภาพยิ่งหย่อนไปกว่าคนที่ระบุว่าตนเองเป็นหญิงหรือเป็นชาย ทำให้องค์กรหลาย ๆ องค์กรเปิดกว้างมากขึ้นในการสนับสนุนความหลากหลายทางเพศในออฟฟิศ ซึ่งจริง ๆ แล้วก็มีเหตุผลที่สนับสนุนว่าความหลากหลายทางเพศในออฟฟิศเป็นประโยชน์ต่อองค์กรมากกว่าที่คิด

ส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ
เป็นเวลานานหลายสิบปีแล้วที่กลุ่มคนหลากหลายทางเพศออกมาแสดงจุดยืนเรียกร้องความเท่าเทียมกันด้านสิทธิและเสรีภาพต่าง ๆ ในฐานะที่มนุษย์คนหนึ่งควรจะได้รับ รวมถึงเลิกมองว่าพวกเขาเป็นบุคคลที่แปลก ผิดปกติ และแตกต่างจากคนอื่น ๆ พวกเขาถูกกีดกันและถูกเลือกปฏิบัติในที่ทำงานเพียงเพราะระบุว่าตนเองเป็นเพศทางเลือก ไม่ใช่ “หญิง” หรือ “ชาย” แบบที่ถูกกำหนดโดยสังคมและวัฒนธรรม ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีองค์กรระดับโลกจำนวนไม่น้อย ที่ออกมาแสดงท่าทีสนับสนุนสิทธิของคนกลุ่ม LGBTQIAN+ รวมถึงกำหนดแนวทางปฏิบัติต่อคนกลุ่มนี้ในที่ทำงาน เพื่อตระหนักถึงสิ่งที่พวกเขาพึงมีในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกับทุก ๆ คน เพราะที่พวกเขาเป็นไม่ใช่สิ่งผิด

มีมุมมองที่แตกต่าง
ถ้าความหลากหลายนำมาซึ่งความแตกต่าง แล้วทำไมเราจะต้องปฏิเสธกลุ่มคนหลากหลายทางเพศออกไปด้วย ทีมที่มีทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และกลุ่มคนหลากหลายทางเพศที่เลือกเพศของตนได้เอง แต่ละกลุ่มย่อมมีมุมมองและวิธีคิดที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งมันก็มาจากการที่แต่ละคนมีประสบการณ์ชีวิตที่ไม่เหมือนกัน เวลาที่มีการประชุม การระดมสมองและความคิดเห็น หลาย ๆ แนวคิดที่เป็นความคิดนอกกรอบ สร้างสรรค์ แปลกใหม่ อาจมาจากสมาชิกในทีมที่เป็นกลุ่มคนหลากหลายทางเพศก็ได้ เพราะด้วยวิธีคิดที่เป็นอิสระของพวกเขาแต่เดิม รวมถึงประสบการณ์ต่าง ๆ ในการใช้ชีวิตอาจทำให้พวกเขามองเห็นอะไรที่มันพลิกแพลงออกไป ช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้

สร้างความร่วมมือที่ยอดเยี่ยม
นอกจากความหลากหลายจะช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ ความแปลกใหม่ และการคิดนอกกรอบแล้ว เมื่อถึงเวลาที่ต้องทำงานร่วมกัน อัตลักษณ์ทางเพศของกลุ่มคนหลากหลายทางเพศไม่ได้เกี่ยวข้องกับความสามารถ ระดับสติปัญญา หรือวิธีการทำงาน พวกเขาก็ยังเป็นเพียงคนคนหนึ่งที่มีศักยภาพในการทำงานเหมือนกับทุกคน ดังนั้น พวกเขาต้องมีโอกาสที่จะได้แสดงความสามารถและโอกาสที่จะก้าวหน้าเช่นกัน ผลงานควรวัดจากความสามารถไม่ได้วัดจากเรื่องเพศว่าพวกเขาเป็นเพศอะไร สังคมการทำงานที่สร้างวัฒนธรรมที่ส่งเสริมความหลากหลาย จะทำให้คนกลุ่มนี้ไม่รู้สึกแปลกแยก รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีม ในเมื่อทุกคนยอมรับ พวกเขาก็จะทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพที่ตัวเองมี

เพิ่มขีดความสามารถให้กับองค์กร
แม้ว่าหลาย ๆ องค์กรทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ หรือแม้แต่องค์กรระดับโลกจะหันมาส่งเสริมและสนับสนุนสิทธิของคนกลุ่ม LGBTQIAN+ มากขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าองค์กรที่ยังยึดติดอยู่กับความคิดเดิม ๆ ว่า โลกนี้ต้องมีแค่หญิงกับชายสิก็ยังมีอยู่ การที่คนกลุ่มนี้ไม่ได้รับโอกาสจากองค์กรเหล่านั้น ก็เท่ากับว่าองค์กรก็เสียโอกาสไปเช่นกัน เพราะคนกลุ่มนี้มีจำนวนไม่น้อยที่เป็นคนที่มีทักษะและความสามารถสูง อย่างที่บอกว่าศักยภาพการทำงานของคนไม่ได้วัดกันที่ว่าพนักงานคนนี้ระบุว่าตัวเองเป็นเพศอะไร ฉะนั้น เมื่อพวกเขาได้เข้าทำงานกับองค์กรที่สนับสนุนความหลากหลาย องค์กรที่ให้โอกาสพวกเขาได้พิสูจน์ตนเองจากผลงานจริง ๆ พวกเขาจะดึงของที่ตัวเองมีทั้งหมดออกมา

โอกาสในการสร้างตลาดสำหรับกลุ่มหลากหลายทางเพศ
อยากให้มองว่าคือการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ไม่ใช่การหวังผลประโยชน์จากคนกลุ่ม LGBTQIAN+ เพราะในอนาคตอันใกล้ กลุ่มคนกลุ่มนี้จะมีกลุ่มใหญ่ขึ้น เพราะสังคมมีแนวโน้มที่จะเปิดรับคนกลุ่มนี้มากกว่าที่เป็นอยู่ จะเป็นการดีหากองค์กรจะมีสินค้าหรือบริการอะไรที่เข้าถึงคนกลุ่มนี้ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมสังคมที่เปิดรับความหลากหลาย เป็นการแสดงความจริงใจและเป็นมิตรกับคนกลุ่ม LGBTQIAN+ ด้วย การมีบุคลากร LGBTQIAN+ อยู่ในทีมคือข้อได้เปรียบ เพราะพวกเขาจะเข้าใจตลาดว่าคนกลุ่มนี้ต้องการอะไร สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และคนกลุ่ม LGBTQIAN+ ก็มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนธุรกิจที่ตระหนักถึงการมีอยู่ของพวกเขาเช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook